วัดนาริตะซาน ชินโชะจิ (Naritasan Shinshoji) เป็นวัดที่เซอร์ไพรส์ฉันมาก ฉันไม่เคยทราบมาก่อนเลยว่า มีวัดใหญ่ เก่าแก่ มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน และงดงามมาก อยู่ที่เมืองเล็กๆ ที่มีสนามบินใหญ่เช่นนาริตะ สำหรับฉัน วัดนาริตะซาน ชินโชะจิเป็นวัดที่ไม่ธรรมดาเลย ไม่ธรรมดาจริงๆ
ฉันปั่นจักรยานออกจากที่พักของฉันคือโรงแรมฮิลตัน โตเกียว นาริตะ (Hilton Tokyo Narita Airport Hotel) หลังอาหารเช้า ในเวลาไม่นานฉันก็มาถึงถนนหน้าวัด ซึ่งเป็นแหล่งรวมร้านค้า ร้านอาหารมากมาย หน้าวัดมีประตูใหญ่ที่ตกแต่งงดงาม จากประตูใหญ่มีโคมไฟหินรูปแบบต่างๆกันยืนเรียงรายไปจนถึงประตูชั้นในที่ต้องขึ้นบันไดสูงชัน ประตูชั้นในนี้มีโคมไฟสีแดงใหญ่และเด่นแขวนประดับอยู่ตรงกลาง จากนั้นก็ต้องขึ้นบันไดสูงชันไปอีก เมื่อขึ้นไปถึงชั้นบน ฉันต้องร้องว้าววในใจ เพราะภาพที่ฉันเห็นนั้นงดงามมาก อาคารไม้หลังใหญ่แบบญี่ปุ่น เรียบๆ แต่โดดเด่น รายล้อมด้วยอาคารน้อยใหญ่ แต่แล้วก็มีเสียงดังแว่วมาดึงดูดความสนใจของฉัน เสียงกลองและเสียงสวดมนต์ที่มาจากอาคารใหญ่ศูนย์กลางของวัด ฉันรีบวิ่งไปที่อาคารนั้นทันที แล้วก็พบว่าพระสงฆ์กำลังทำพิธีอย่างหนึ่ง ซึ่งฉันทราบในภายหลังว่า เป็นพิธีสวดมนต์เก่าแก่ที่สืบทอดและกระทำมาอย่างต่อเนื่อง เป็นเวลานับพันปีคือพิธีสวดมนต์ 'โกะมะ' (Goma)
ฉันคิดว่าฉันโชคดีมากที่ได้มากับสัมผัสพิธีสวดมนต์ 'โกะมะ' (Goma) ตรงกลางอาคารโล่งมีพระสงฆ์ผู้ใหญ่รูปหนึ่งนั่งทำพิธีอยู่หน้ากองไฟที่สว่างจ้า เบื้องหลังท่านมีพระสงฆ์ 3-4 รูปนั่งสวดมนต์อยู่ เสียงสวดมนต์คล้ายๆ กับเสียงสวดมนต์ที่เมืองไทย ฉันคิดว่าป็นภาษาบาลีเหมือนกัน แต่ต่างกันคือ ที่นี่มีการตีกลองให้จังหวะในการสวดมนต์ เสียงกลองทุ้มๆ เข้ากับเสียงสวดมนต์มาก ฉันไม่แน่ใจว่าพระสงฆ์ผู้ใหญ่ที่นั่งทำพิธีอยู่หน้ากองไฟ เอาอะไรใส่ลงไปในกองไฟ ทำให้บางครั้งก็สว่างจ้ากว่าธรรมดาและมีควันขึ้นมากมาย ในขณะเดียวกันก็มีพระอีกสองรูปคอยรับกระเป๋าจากผู้คน แล้วแกว่งเหนือกองไฟ เป็นพิธีที่น่าดูมาก
หลังจากกลับจากวัดฉันได้ค้นคว้าหารายละเอียด แล้วทำให้ฉันเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับพิธีสวดมนต์ 'โกะมะ' พิธีสวดมนต์หน้ากองไฟนี้เป็นการสวดมนต์ต่อเทพเจ้าแห่งไฟ มีชื่อเรียกในภาษาญี่ปุ่นว่า 'ฟุโดะเมียวโอะ' (Fudomyoo) หรือเทพ ‘อาจลนาถ’ เทพผู้รับใช้ของพระพุทธเจ้า พิธีสวดมนต์ 'โกะมะ' ที่วัดนาริตะซาน ชินโชะจิ จะมีขึ้นทุกวัน วันละ 2-3 รอบ
ภายในบริเวณวัดมีอาคารที่งดงามอยู่หลายอาคาร แต่ละอาคารมีรูปแบบที่แตกต่างกัน แต่งดงามไม่แพ้กันเลย อาคารหลังหนึ่งซึ่งเป็นอาคารที่ฉันชอบมาก เป็นอาคารไม้เก่าแก่ที่มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ รอบอาคารมีรูปแกะสลักไม้ 'พระสงฆ์ 500 รูป' (The 500 Buddha's Disciples) เป็นรูปแกะสลักไม้ที่ละเอียดและสวยงามมาก
นอกจากอาคารที่งดงามหลายอาคารแล้ว ภายในวัดยังมีเจดีย์อยู่สององค์คือ เจดีย์ไดโตะอุ (Daitou) หรือเจดีย์ใหญ่ และเจดีย์ไม้สามชั้น ซึ่งตกแต่งและระบายสีอย่างสวยงาม
วัดนาริตะซาน ชินโชะจิ ตั้งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟ JR Narita และสถานีรถไฟ Keiseinarita และไม่ไกลจากสนามบินนานาชาตินาริตะ ใช้เวลาเดินจากสถานีรถไฟทั้งสองแห่งบนถนนโอะโมะเตะซันโดะ (Omotesando) ประมาณ 20 นาที ถนนโอะโมะเตะซันโดะนี้เรียงรายไปด้วยร้านค้าต่างๆ ทำให้เป็นการเดินที่น่าสนใจ