จากพระพุทธรูปอะตะมะ ไดบุตซึต (Atama Daibutsu) สูง 13.5 เมตร และมีน้ำหนัก1500 ตัน ที่นั่งโดดเดี่ยวอยู่ในสุสานมะโคะมะไน ทะคิโนะ (Makomanai Takino) แห่งเมืองซับโปโร มาเป็นเวลาถึง 15 ปี แต่กลับมามีชื่อเสียงโด่งดังอีกครั้งในฐานะ 'Hill of the Buddha' ด้วยฝีมือการออกแบบและสร้างสรรโดยสถาปนิกชื่อดังของญี่ปุ่น ทะดะโอะ อันโดะ (Tadao Ando)
Hill of the Buddha มีจุดประสงค์เพื่อเป็นสถานที่สวดมนต์ภาวนา ในรูปแบบที่แปลกตาและน่าแปลกใจสำหรับบุคคลทั่วไป ทะดะโอะได้สร้างภูเขาคอนกรีตล้อมรอบองค์พระ เหลือเพียงแต่เศียรที่โผล่มาให้เห็น จากนั้นก็ปลูกต้นลาเวนเดอร์ถึง 150,000 ต้น รายล้อมภูเขาด้านนอก ซึ่งจะให้ทัศนียภาพที่แตกต่างกันในแต่ละฤดู เช่นเนินเขาสีเขียวในฤดูใบไม้ผลิ เนินเขาสีม่วงในฤดูร้อน และเนินเขาหิมะในฤดูหนาว กลุ่มของเราแวะไปที่นั่นในกลางเดือนเมษายน ซึ่งเป็นช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิ ภูเขาลาเวนเดอร์ยังเป็นสีเทาหม่น แต่ก็สวยแปลกตาไปอีกแบบหนึ่ง
Hill of the Buddha ไม่ได้โดดเด่นอยู่เฉพาะภูเขาลาเวนเดอร์เท่านั้น คอนเซ็ปการออกแบบของทะดะโอะต้องการให้ผู้เข้าสักการะค่อยๆ เห็นองค์พระพุทธรูปทีละน้อยๆ จากด้านนอกที่เห็นเพียงเศียรท่ามกลางทุ่งลาเวนเดอร์ เราต้องเดินผ่านอุโมงค์ที่มีความยาว 135 เมตร ซึ่งจะมองเห็นพระพุทธรูปเพิ่มขึ้นจากฐาน หน้าตัก และเมื่อถึงปลายอุโมงค์เราก็ได้แหงนคอชมภาพพระพุทธรูปที่มีรัศมีเป็นท้องฟ้าส่องประกายสดใส ช่างเป็นภาพที่สวยงดงามสุดประทับใจเสียจริงๆ
Hill of the Buddha เปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา 9.00-16.00 น (เมษายน-ตุลาคม) และ 10.00-15.00 น (พฤศจิกายน-มีนาคม) และขอรับบริจาคเป็นค่าเข้าชมคนละ 300 เยน เพื่อเป็นค่าดูแลสถานที่ Hill of the Buddha สามารถเข้าถึงได้โดยขึ้นรถเมล์ที่ป้ายเบอร์ 2 ของสถานีมะโคะมะไน (Makomanai) ค่ารถคนละ 370 เยน
Hill of the Buddha จัดว่าเป็นงานออกแบบวิถีเซ็น เรียบง่าย แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยแนวคิดและจิตวิญาน ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร สาวกพุทธศาสนา คลับคนรักลาเวนเดอร์ เสพติดงานศิลปะและสถาปัตยกรรมชั้นเลิศ สาวกเซ็น หรือทั้งหมดที่กล่าวมา หากคุณพบตัวเองอยู่ที่ซัปโปโร บนกาะฮอกไกโด อย่าพลาดชม Hill of the Buddha!