หลายคนอาจจะงงว่าทำไมถึงจะไปดูซากุระในเดือนพฤศจิกายนซึ่งเป็นฤดูใบไม้ร่วง เนื่องจากได้อ่านข้อมูลในเวบ JNTO ของญี่ปุ่นเคยมีพูดถึงไว้ เลยได้รู้ว่าที่จะไปดูนี่เป็นซากุระอีกสายพันธุ์หนึงที่จะบานปลายปี และมีให้ชมไม่กี่ที่ ไปค่อนข้างยากถ้าไม่มีรถส่วนตัว ซึ่งที่ Obara ในเมือง Toyotashi เขต Aichi นี่ถือว่ามาง่ายสุดแล้ว มีรถประจำทางถึง แต่ก็ต้องเสี่ยงดวงอีกว่าซากุระจะบานพร้อมกับใบไม้แดงมั๊ย เราจึงตะลุยกันไปในวันที่ 23 พ.ย. คือถ้าไม่เห็นซากุระก็ต้องมีใบไม้แดงแน่นอน ที่เหลือขึ้นกับดวงแล้ว การเดินทางก็ไม่ยากเพียงแต่ต้องจับเที่ยวรถบัสดีๆเพราะวิ่งตามเวลาและจุดชมแต่ละที่ก็ค่อนข้างห่างกัน โดยสามารถขึ้นรถไฟใต้ดินที่ Nagoya มาลงที่สถานี Toyotashi ต้องดูดีๆ นะเพราะมีสถานี Toyohashi ด้วย อันนั้นไม่ใช่ เมื่อมาถึงแล้วจะมีป้ายบอกทางให้มาขึ้นรถบัส Toyota Oiden Bus สาย Obara-Toyota ด้านนอกเลยราคา 600 เยน ไม่ยากใช่มั๊ย ทางที่ดีควรถ่ายรูปตารางเวลาเดินรถไว้ด้วยจะได้กะเวลาได้ นั่งรถเพลินซักชั่วโมงกว่าก็จะถึงจุดแรกของการเดิน จริงๆที่นี่มีหลายจุดให้ดูซากุระ แล้วแต่ว่าจะเลือกเส้นทางไหน เราเลือกลงจุดใกล้ก่อนแล้วกะว่าจะไปจุดบนสุดทีหลังซึ่งไม่รู้ว่าเป็นความคิดที่ดีหรือไม่เพราะท้ายสุดแล้วเราก็ไปไม่ถึง และก็เหมือนทุกที่สำหรับการชมใบไม้ร่วงที่คุณต้องเตรียมใจรับกับผู้คนจำนวนมากมาชื่นชมในช่วงเวลาเดียวกัน พวกเราตัดสินใจไปดูจุดแรกคือ Obara Fureai Kouen ถูกใช้เป็นสถานที่จัดงานออกร้าน ซึ่งจุดนี้มีใบไม้แดงยังไม่เยอะเท่าไร เสร็จแล้วพวกเราเดินขึ้นเพื่อไปอีกจุดนึง ชื่อ Ichiba Joushi จุดนี้เป็นจุดชมใบไม้แดงที่สวยงามมาก กำลังแดงได้ที่เลย แต่ซากุระยังไม่ผลิดอกออกมาเลย ทำให้พวกเราค่อนข้างใจเสียเล็กน้อย อาจเป็นเพราะอากาศที่ปีนี้ดูจะร้อนนาน จากจุดนี้เองเราดูแผนที่ผิดแทนที่จะเดินย้อนกลับดันเดินต่อไป เลยเข้าสู่เส้นทางเทรคกิ้งขึ้นเขาระยะทาง 2 กม.ซึ่งเราไม่ได้เตรียมตัวมารับสภาพแบบนี้ ทำให้ทุกคนเหนื่อยกันมาก ถึงแม้ตามเส้นทางจะน่าชมวิวแค่ไหนก็ตาม จนสุดท้ายทนไม่ไหวตัดสินใจโบกรถทุกคันที่ผ่านขอติดรถไปลงป้ายรถเมล์ แต่ไม่มีใครกล้าจอดให้เลย จนมีคุณลุงคนนึงขับกะบะแวะรับพวกเรา ถึงแม้จะสื่อสารกันไม่ได้ แต่คุณลุงก็ขับมาส่งพวกเราที่ป้ายรถบัสในที่สุด พวกเราซาบซึ้งน้ำใจคุณลุงมาก เมื่อมาถึงป้ายรถบัสแล้วพวกเราก็มองหน้าสรุปกันว่าเท่าที่เห็นซากุระยังไม่บานเลย ถึงจะขึ้นไปมันก็คงยังไม่บาน ดังนั้นเราพอแค่นี้กันเถอะ เมื่อมติเป็นเอกฉันท์แล้ว ทุกคนจึงตัดสินใจรอรถบัสกลับ แต่เหมือนวิบากกรรมยังไม่จบ รถบัสญี่ปุ่นซึ่งทุกคนบอกว่าเที่ยงตรงกลับดีเลย์ไปเกือบ 2 ชม. พวกเรายืนกันขาแข็งท่ามกลางอุณหภูมิไม่ถึง 15 องศา โชคดีมีคุณป้าญี่ปุ่นยืนเป็นเพื่อนกับเรา คุณป้าแข็งแรงมากยืนโดยไม่บ่นเลยและพยายามคุยกับพวกเราระหว่างรอ พอทำให้พวกเราคลายเครียดไปได้บ้าง ในที่สุด การรอคอยก็สัมฤทธิผล รถบัสมาในที่สุด ทั้งพวกเราและคุณป้าดีใจมาก พอขึ้นรถเสร็จทุกคนถึงขึ้นสลบไสลกันจนถึงสถานีรถไฟ ประสบการณ์ที่ได้เจอในวันนี้ถึงแม้ซากุระจะไม่บานแต่ความรู้สึกดีๆที่ได้รับจากคนญี่ปุ่นกลับเบ่งบานเต็มอยู่ในหัวใจพวกเราทุกคน
Sasinee Chomchome
- ใช้เวลาอ่าน 1 นาที
Sasinee Chomchome @sasinee.chomchome
I'm a fulltime employee but part-time traveller. I love to see new things. I visited Japan for the first time since 2008 and fall in love with it since then. I believe Japan has a lots of things to be discovered and I'm waiting to find them soon.