ปราสาทนาโกย่า (Nagoya Castle) ปราสาทคู่บ้านคู่เมืองนาโกย่ามาช้านานตั้งแต่เริ่มต้นยุคเอโดะ ค.ศ.1612 ปราสาทแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นจากคำสั่งของโชกุนโทกุงาวะ อิเอยาสุ ตัวฐานของปราสาทถูกสร้างขึ้นจากก้อนหินขนาดใหญ่ เช่นเดียวกหลายๆปราสาทภายในประเทศญี่ปุ่น หินที่ถูกนำมาเรียงเพื่อใช้เป็นฐานเหล่านี้เกิดจากแรงงานของคนญี่ปุ่นสมัยก่อนที่ช่วยกันลากและนำมาเรียงจนเป็นฐานที่แข็งแรงมั่นคงและสวยงาม จุดเด่นที่สุดของปราสาทแห่งนี้คือ ปลาโลมาสีทองตัวผู้และตัวเมีย ที่หุ้มด้วยทองคำประดับอยู่บนยอดบนสุดของปราสาท ซึ่งในสมัยนั้นใช้เป็นทองคำ 18k หุ้มจริง ทำให้โครงสร้างปราสาทต้องมีความแข็งแรงมากเพื่อรองรับน้ำหนักเจ้าปลาทองสองตัว ที่มีน้ำหนักรวมกันมากถึง 88 กิโลกรัม (หนักตัวละ 44 กิโลกรัม) คนญี่ปุ่นมีความเชื่อกันว่าเจ้าโลมาสีทองนี้จะเป็นสิ่งคุ้มครองปราสาทและชาวเมือง
แต่ตัวปราสาทดั้งเดิมนั้นก็ไม่ใช่ปราสาทที่เราเห็นกันอยู่ในปัจจุบัน เนื่องจากใน เดือนพฤษภาคม ปี ค.ศ.1945 ในระหว่างช่วงเวลาสงครามโลกครั้งที่สองดำเนินอยู่ เมืองนาโกย่ารวมถึงปราสาทแห่งนี้ถูกโจมตีจากการทิ้งระเบิดของเครื่องบินของกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกาอย่างหนัก ทำให้ปราสาทที่เป็นของดั้งเดิมนั้นถูกทำลายราบเป็นหน้ากลองหมด เหลือแต่เพียงฐานของปราสาทที่เป็นฐานหินขนาดใหญ่ไว้แทน และในปีค.ศ.1959 ปราสาทแห่งนี้ก็ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ตามแบบสถาปัตยกรรมเดิม ในปราสาทที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่จึงประกอบไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย นิทรรศการจัดแสดงด้วยแสงสีเสียงทีทันสมัย มีลิฟต์ ห้องน้ำ เครื่องปรับอากาศ ไว้บริการสำหรับผู้มาใช้บริการ
หลังจากที่ผมเช็กอินและฝากกระเป๋าไว้ในในโรงแรมเสร็จ ผมเลือกที่จะเดินทางมาที่ปราสาทแห่งนี้ เป็นสถานที่แรกของการท่องเที่ยวในเมืองนาโกย่า การเดินทางมายังปราสาทแห่งนี้ทำได้ไม่ยาก เพียงนั่งรถไฟ Nagoya Subway สายสีม่วง Meijo Line จากย่าน Sakae [M05] ถัดมาสองสถานีและลงที่สถานี Shiyakucho [M07] ทางออก 7
ถ้าใครเดินทางมาที่ปราสาทนาโกย่าในช่วงนี้จะเห็นว่า มีส่วนหนึ่งของปราสาทกำลังบูรณะซ่อมแซมอยู่ จุดที่ซ่อมแซมอยู่คือส่วนของ Hommaru Palace พระราชวังที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของปราสาทภายในอดีต แม้จะยังไม่เผยโฉมภายนอกให้ผู้คนได้ชม แต่ตอนนี้ก็เปิดให้ผู้มาเยือนได้เข้าไปสัมผัสความสวยงามและความหรูหราภายในได้แล้ว โดยจุดเด่นของวังแห่งนี้คือเรื่อง ภาพเขียนที่ประตูกระดาษที่วาดลวดลายได้สวยงามเป็นเอกลักษณ์แบบเฉพาะในญี่ปุ่น (ผมว่าได้เข้ามาดูช่วงที่ทางญี่ปุ่นกำลังบูรณะอยู่ถือว่าดีกว่าตอนที่มาเห็นตอนทำเสร็จอีกครับ เราจะได้เห็นทุกขึ้นตอนในการเก็บงานของเขาเลย ละเอียดมาก เก็บรายละเอียดทุกจุดจริงๆ) โดยพระราชวังแห่งนี้จะสร้างเสร็จและเปิดให้บริการในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ปีค.ศ.2018 ครับ
นอกจากจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามและเป็นแลนด์มาร์กของเมืองแล้ว ในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิที่มีซากุระบาน ปราสาทแห่งนี้ยังได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในจุดชมซากุระที่สวยงามที่สุดของเมืองอีกด้วย