หากได้ไปแถวๆ แถบใจกลางเมืองฮาดะ ราวๆ 40 กิโลเมตรจากทางใต้ของนาโกยะจะพบตึกอิฐแดงอันเก่าแก่ที่ตอนแรกดูเผินๆอาจเข้าใจผิดว่าเป็นตึกร้าง เพราะปิดไว้ตลอดแถมตัวอิฐรอบตึกก็มีรอยกระสุนพรุนๆเต็มไปหมด แต่มาค้นพบว่าจริงๆแล้วตึกนี้เคยใช้เป็นโรงงานผลิตเบียร์ของบริษัท Marusan Brewery มาก่อนในปี 1887 และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องได้เพราะเป็นอาคารอิฐแดงที่ใหญ่ที่สุดแห่งเดียวที่หลงเหลือจากยุคเมจิหลังจากญี่ปุ่นออกมาจากการแยกตัวอยู่อย่างโดดเดี่ยวอันยาวนานของประเทศกว่า 250 ปีในช่วงท้ายของยุคกลาง ซึ่งก็ถือเป็นยุคเฟื่องฟูของโรงเบียร์แห่งนี้ที่ได้สร้างตำนานให้เบียร์ "Kabuto"เป็นเบียร์ชั้นเยี่ยมและมีชื่อเสียงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น
เบียร์เริ่มเป็นที่นิยมในยุคเมจิตอนต้น โดยการนำเข้ามาของชาวยุโรปที่เข้ามาช่วยเหลือพัฒนาประเทศ และการเข้ามาในครั้งนี้ยังมีอิทธิพลต่อญี่ปุ่นอีกหลายด้าน อย่างด้านสถาปัตยกรรม ซึ่งเห็นได้ชัดจากอาคารตึกรามบ้านช่องที่ได้รับอิทธิพลการก่อสร้างโดยใช้อิฐแดงซึ่งเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายในยุโรป ซึ่งหลังจากที่เบียร์เข้ามาได้ไม่นานโรงเบียร์ในท้องถิ่นต่างๆก็ผุดขึ้นมาเรื่อยๆ หากนับย้อนไปเมื่อ 100 ปีที่แล้ว ในญี่ปุ่นมีบริษัทค่ายเบียร์รายใหญ่ 4 ค่ายด้วยกัน คือ Dai Nippon, Kirin, Teikoku และ Handa ผู้ผลิต Kabuto นั่นเอง คำว่า “Kabuto” หมายถึงหมวกเกราะนักรบซามูไร และด้วยความเป็นเอกลักษณ์ของเบียร์นี่เองที่ทำให้คว้าเหรียญทองการประกวดเบียร์นานาชาติที่ปารีสในปี 1900 มาครอง แต่น่าเสียดายที่โรงเบียร์สไตล์ยุโรป 5 ชั้นนี้ได้ผลิตเบียร์ยอดนิยมจำหน่ายถึงแค่ปี 1921 ก่อนที่จะปิดกิจการไป
หลังจากที่โรงเบียร์ปิดตัวลง อาคารแห่งนี้ได้กลายเป็นคลังเก็บแป้งข้าวโพด รวมถึงใช้เป็นโกดังเก็บของหลายประเภท โดยบางส่วนของตัวอาคารหลงเหลือเพียงร่องรอยกระสุนบนอิฐแดงที่ได้ฝากไว้เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจถึงเหตุการณ์โจมตีทางอากาศของสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 1945 ในช่วงสงคราม บริษัทการบิน Nakajima ได้สร้างโรงงานผลิตเครื่องบินรบในเมืองฮันดะขึ้นและโรงเบียร์แห่งนี้ก็ถูกใช้เป็นที่เก็บชิ้นส่วนต่างๆของเครื่องบินจึงกลายเป็นเป้าหมายโจมตีของทหารอเมริกันไป
ในช่วงปลายค.ศ. 1990 ตึกอิฐแดงนี้อยู่ภายใต้การดูแลของเทศบาลเมืองฮันดะ และเมื่อปี 2005 ทางหน่วยงานเทศบาลก็ได้บูรณะโรงงานแห่งประวัติศาสตร์นี้ขึ้นมาใหม่และผลักดันให้เบียร์กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง โดยใช้ตราสัญลักษณ์รูปหมวกรบซามูไรอันโดดเด่นเหมือนเดิม แต่น่าเสียดายที่โรงเบียร์อันเก่าไม่ได้ใช้เป็นโรงงานผลิตอีกต่อไป แต่มีโรงงานเบียร์ท้องถิ่นในเมือง minamichita ใกล้ๆนั้นได้เสนอตัวเป็นผู้ผลิตให้ ถึงแม้จะผลิตได้ในปริมาณจำกัดก็ตาม
โดยโรงงานเดิมจะเปิดให้เข้าชมเพียงไม่กี่ครั้งในแต่ละปีซึ่งมักจะเป็นช่วงเทศกาลของเมืองฮันดะ อย่างเทศกาลฤดูร้อน และเทศกาลขบวนแห่ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศในเดือนตุลาคม ในยามค่ำคืนที่นี่จะถูกแต่งแต้มไปด้วยสีสันแห่งแสงไฟอันงดงาม คุ้มค่าแก่การมาเดินเล่นเที่ยวรอบๆ ชมโรงงานเก่าแก่แห่งนี้พร้อมดื่มด่ำความงดงามของสถาปัตยกรรมสไตล์วิคตอเรียน
หลังจากเดินทั่วจนเหนื่อย ก็คงกระหายน้ำอยากดื่มอะไรเย็นๆ แล้วโรงงานก็ดันปิดกิจการไปแล้วนี่สิ แต่จะแอบกระซิบบอกข่าวดีให้ว่าตอนนี้เบียร์ Kabuto สามารถหาซื้อได้ตามร้านอาหาร โรงแรมและผับทั่วเมืองฮันดะ มาถึงแหล่งเบียร์ฮันดะขนาดนี้แล้วอย่าได้พลาดชิมเบียร์ Kabuto เชียวพร้อมกับแกล้มอย่างเนื้อวัวประจำถิ่น Chita ก็เพิ่มอรรถรสในการดื่มเบียร์ขึ้นมาไม่น้อย
