โกรกธารดากิงะเอริ (Photo: SuitQais Diaries)

สถานที่ต้องเที่ยวในอาคิตะ

3 สุดยอดกิจกรรมที่จะทำให้การเดินทางสมบูรณ์แบบ

โกรกธารดากิงะเอริ (Photo: SuitQais Diaries)
Onlada Chollavorn   - ใช้เวลาอ่าน 1 นาที

เมื่อนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มาถึงญี่ปุ่นจะมีจุดเริ่มต้นการเดินทางอยู่ที่โตเกียว แล้วก็จะต่อด้วยเกียวโตที่อยู่ทางใต้เป็นลำดับถัดไป

การล่องใต้จากโตเกียวนั้นแน่นอนว่าต้องมีข้อดีมิเช่นนั้นคงไม่ได้เป็นที่นิยมแบบนี้ แต่ถ้าหากคุณต้องการชมญี่ปุ่นชนบทที่สวยงามบริสุทธิ์อย่างแท้จริงนั้น คุณไม่ควรจะเดินทางลงใต้หรอก...แต่ต้องเบนเข็มไปยังทิศเหนือแทนต่างหากล่ะ!

ฉันว่าข้อดีของการที่ทุก ๆ คนต่างพากันแห่ลงใต้นั้นก็คือคุณจะได้ครองทั้งภาคเหนือของญี่ปุ่น (เช่น ฮอนชูเหนือ) ยังไงล่ะ!

เอาละ เมื่อคุณตัดสินใจว่าจะไม่เดินตามรอยคนอื่น แต่พอไปทางเหนือแล้วควรจะมุ่งไปที่ไหนดีล่ะ?

ถ้าหากคุณเลือกที่จะไปอาคิตะ รับรองว่าจะไม่ผิดหวัง ที่อยากพูดเลยคือบริเวณรอบ ๆ อาคิตะนั้นเหมาะสมที่สุดแก่การแบกเป้ท่องเที่ยวมาก ๆ ส่วนตัวแล้วคิดว่าเมืองอาคิตะนั้นเหมาะที่จะใช้เวลาเที่ยวเพียงแค่วันเดียว ถ้าคุณกำลังคิดว่าจะไปฮอกไกโดนั้น อาคิตะก็มีท่าเรือเฟอร์รี่เพียงหนึ่งในไม่กี่แห่งที่เชื่อมต่อกับฮอนชู (ทางเหนือของญี่ปุ่นถึงฮอกไกโด) ถ้าคุณคิดว่าจะใช้อาคิตะเป็นทางผ่านราคาถูกเพื่อไปยังฮอกไกโดอยู่ล่ะก็ คุณน่าจะลองใช้เวลาสักวันหนึ่งสำรวจที่นี่ดูก่อนจะขึ้นเฟอร์รี่ไป คลิกที่นี่ถ้าต้องการดูข้อมูลเกี่ยวกับการขึ้นเรือเฟอร์รี่

3 สุดยอดอันดับสิ่งที่ต้องทำในเมืองอาคิตะ

1. สวนสาธารณะเซ็นชู

ใช้เวลาเดินราว 5 นาทีจากสถานี สวนสาธารณะเซ็นชูจะสวยงามที่สุดในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ดอกซากุระบานเต็มไปทั่วทั้งบริเวณ และก็ยังเป็นที่ตั้งของปราสาทคุโบตะที่ขุนนางตระกูลซาตาเกะเคยใช้อยู่อาศัยจนถึงปีค.ศ. 1875 แม้จะเป็นแค่ที่จำลองมาแต่ก็ยังคุ้มค่าที่จะแวะชม

2. คฤหาสน์ซามูไรอาโอยางิ

คฤหาสน์ซามูไรอาโอยางิเป็นหนึ่งในบ้านหลังใหญ่ของซามูไรที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีที่สุดในญี่ปุ่น บริเวณเคหสถานแห่งนี้ประกอบไปด้วยคฤหาสน์ใหญ่ คลังอาวุธ แกลลอรี่เซย์รยูอัน พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านอาคิตะ พิพิธภัณฑ์เครื่องมือเครื่องใช้ซามูไร และสวนที่สวยงาม ถ้าฉันเป็นคุณก็จะใช้เวลาอย่างน้อยสักชั่วโมงหนึ่งเพื่อสำรวจไปให้ทั่วทั้งบริเวณที่ดินของคฤหาสน์ เพราะเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่ามาก

3. โรงแรมแกรนเชีย อาคิตะสปารีสอร์ต

ที่นี่เป็นหนึ่งในออนเซ็นที่ดีที่สุดและผ่อนคลายมากที่สุดที่ฉันเคยไปมา และฉันไม่ได้พูดเล่น ๆ...ที่บอกว่ามันผ่อนคลายสุด ๆ คือถึงขนาดที่ฉันหลับไป 3 ครั้งในออนเซ็น 3 แห่งของที่นี่ ซึ่งมันน่าทึ่งมากที่ใช้เวลาไปอย่างต่ำถึง 4 ชั่วโมงกับแค่การมาพักผ่อนเล่น ๆ ที่นี่ห้ามพลาด ห้ามพลาด ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวงสำหรับผู้ที่เหนื่อยล้าจากการเดินทาง!

3 อันดับสิ่งสุดยอดที่ต้องทำรอบเมืองอาคิตะ

1. ทะเลสาบทาซาวะ

ทะเลสาบทาซาวะเป็นทะเลสาบที่มีความลึกมากที่สุดในประเทศญี่ปุ่น และด้วยความลึกของมันทำให้ทะเลสาบแห่งนี้ไม่เคยเป็นน้ำแข็งเลย! ตำนานพื้นบ้านเล่าไว้ว่าที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะที่แห่งนี้เป็นบ้านของ 2 เทพพญานาคที่แหวกว่ายอยู่ตลอดเวลาทำให้น้ำในทะเลสาบไม่จับตัวเป็นน้ำแข็ง ที่นี่สามารถมาเที่ยวชมได้ตลอดทั้งปีแต่จะพิเศษสุดในฤดูร้อนเมื่อมีแสงแดดทำให้น้ำอุ่น เมื่อมาที่นี่จะทำให้คุณได้ผ่อนคลายอย่างแท้จริงและลืมความกังวลทั้งหมดที่มีอยู่ไปจนหมดสิ้น

2. โกรกธารดากิงะเอริ

โกรกธารดากิงะเอริติดหนึ่งใน 5 อันดับรายการสิ่งที่ต้องทำให้ได้ในญี่ปุ่นของฉันเลยล่ะ! สายน้ำของที่นี่สวยงามเหนือโลกด้วยสีครามเข้มที่จะสะกดลมหายใจ สายน้ำนี้จะไหลลงไปหล่อเลี้ยงนาข้าวที่อยู่ในหุบเขาด้านล่างและเป็นฤดูกาลที่ข้าวอาคิตะขึ้นชื่อในด้านรสชาติแผ่ไปไกลทั่วทั้งญี่ปุ่น ถ้าหากคุณพลาดที่นี่จะต้องเสียดายเอามาก ๆ พูดเลย! และนอกไปจากนี้ ที่นี่ในฤดูหนาวก็สวยงามไม่แพ้กัน

3. คาคุโนะดาเตะ

คาคุโนะดาเตะเป็นอดีตเมืองปราสาทและฐานที่มั่นของซามูไร น่าเสียดายที่ตอนนี้ตัวปราสาทไม่มีแล้ว แต่ตัวเมืองเล็ก ๆ ของที่นั่นยังอยู่ดีในสภาพเดิมเหมือนตอนที่เพิ่งก่อสร้างเสร็จในปีค.ศ. 1620 คาคุโนะดาเตะมีชื่อเสียงโด่งดังในด้านสถาปัตยกรรมแบบซามูไร และเสียงยามต้องลมของต้นซากุระนับร้อย ๆ ต้น เหมาะมาเที่ยวที่สุดในช่วงปลายเดือนเมษายนถึงต้นเดือนพฤษภาคมตอนที่ดอกไม้ผลิบาน ส่วนที่เด็ดที่สุดของที่นี่คือยังมีตระกูลที่อาศัยอยู่ในคฤหาสน์ซามูไรทุกหลัง...ช่วยตอกย้ำถึงความเป็นของแท้และเพิ่มเสน่ห์ดึงดูดให้ทุกคนมาเที่ยว

เที่ยวที่เมืองอาคิตะและจังหวัดอาคิตะให้สนุกนะ! อยากให้ตัวเองยังอยู่ที่นั่นด้วยจัง...

Onlada Chollavorn

Onlada Chollavorn @onlada.chollavorn

My name is Onlada. I am passionate about creative thinking and digital technology. My motto is “The price of success is hard work, dedication to the job at hand, and the determination that whether we win or lose, we have applied the best of ourselves to the task at hand.”