เมื่อนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มาถึงญี่ปุ่นจะมีจุดเริ่มต้นการเดินทางอยู่ที่โตเกียว แล้วก็จะต่อด้วยเกียวโตที่อยู่ทางใต้เป็นลำดับถัดไป
การล่องใต้จากโตเกียวนั้นแน่นอนว่าต้องมีข้อดีมิเช่นนั้นคงไม่ได้เป็นที่นิยมแบบนี้ แต่ถ้าหากคุณต้องการชมญี่ปุ่นชนบทที่สวยงามบริสุทธิ์อย่างแท้จริงนั้น คุณไม่ควรจะเดินทางลงใต้หรอก...แต่ต้องเบนเข็มไปยังทิศเหนือแทนต่างหากล่ะ!
ฉันว่าข้อดีของการที่ทุก ๆ คนต่างพากันแห่ลงใต้นั้นก็คือคุณจะได้ครองทั้งภาคเหนือของญี่ปุ่น (เช่น ฮอนชูเหนือ) ยังไงล่ะ!
เอาละ เมื่อคุณตัดสินใจว่าจะไม่เดินตามรอยคนอื่น แต่พอไปทางเหนือแล้วควรจะมุ่งไปที่ไหนดีล่ะ?
ถ้าหากคุณเลือกที่จะไปอาคิตะ รับรองว่าจะไม่ผิดหวัง ที่อยากพูดเลยคือบริเวณรอบ ๆ อาคิตะนั้นเหมาะสมที่สุดแก่การแบกเป้ท่องเที่ยวมาก ๆ ส่วนตัวแล้วคิดว่าเมืองอาคิตะนั้นเหมาะที่จะใช้เวลาเที่ยวเพียงแค่วันเดียว ถ้าคุณกำลังคิดว่าจะไปฮอกไกโดนั้น อาคิตะก็มีท่าเรือเฟอร์รี่เพียงหนึ่งในไม่กี่แห่งที่เชื่อมต่อกับฮอนชู (ทางเหนือของญี่ปุ่นถึงฮอกไกโด) ถ้าคุณคิดว่าจะใช้อาคิตะเป็นทางผ่านราคาถูกเพื่อไปยังฮอกไกโดอยู่ล่ะก็ คุณน่าจะลองใช้เวลาสักวันหนึ่งสำรวจที่นี่ดูก่อนจะขึ้นเฟอร์รี่ไป คลิกที่นี่ถ้าต้องการดูข้อมูลเกี่ยวกับการขึ้นเรือเฟอร์รี่
3 สุดยอดอันดับสิ่งที่ต้องทำในเมืองอาคิตะ
1. สวนสาธารณะเซ็นชู
ใช้เวลาเดินราว 5 นาทีจากสถานี สวนสาธารณะเซ็นชูจะสวยงามที่สุดในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ดอกซากุระบานเต็มไปทั่วทั้งบริเวณ และก็ยังเป็นที่ตั้งของปราสาทคุโบตะที่ขุนนางตระกูลซาตาเกะเคยใช้อยู่อาศัยจนถึงปีค.ศ. 1875 แม้จะเป็นแค่ที่จำลองมาแต่ก็ยังคุ้มค่าที่จะแวะชม
2. คฤหาสน์ซามูไรอาโอยางิ
คฤหาสน์ซามูไรอาโอยางิเป็นหนึ่งในบ้านหลังใหญ่ของซามูไรที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีที่สุดในญี่ปุ่น บริเวณเคหสถานแห่งนี้ประกอบไปด้วยคฤหาสน์ใหญ่ คลังอาวุธ แกลลอรี่เซย์รยูอัน พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านอาคิตะ พิพิธภัณฑ์เครื่องมือเครื่องใช้ซามูไร และสวนที่สวยงาม ถ้าฉันเป็นคุณก็จะใช้เวลาอย่างน้อยสักชั่วโมงหนึ่งเพื่อสำรวจไปให้ทั่วทั้งบริเวณที่ดินของคฤหาสน์ เพราะเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่ามาก
3. โรงแรมแกรนเชีย อาคิตะสปารีสอร์ต
ที่นี่เป็นหนึ่งในออนเซ็นที่ดีที่สุดและผ่อนคลายมากที่สุดที่ฉันเคยไปมา และฉันไม่ได้พูดเล่น ๆ...ที่บอกว่ามันผ่อนคลายสุด ๆ คือถึงขนาดที่ฉันหลับไป 3 ครั้งในออนเซ็น 3 แห่งของที่นี่ ซึ่งมันน่าทึ่งมากที่ใช้เวลาไปอย่างต่ำถึง 4 ชั่วโมงกับแค่การมาพักผ่อนเล่น ๆ ที่นี่ห้ามพลาด ห้ามพลาด ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวงสำหรับผู้ที่เหนื่อยล้าจากการเดินทาง!
3 อันดับสิ่งสุดยอดที่ต้องทำรอบเมืองอาคิตะ
1. ทะเลสาบทาซาวะ
ทะเลสาบทาซาวะเป็นทะเลสาบที่มีความลึกมากที่สุดในประเทศญี่ปุ่น และด้วยความลึกของมันทำให้ทะเลสาบแห่งนี้ไม่เคยเป็นน้ำแข็งเลย! ตำนานพื้นบ้านเล่าไว้ว่าที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะที่แห่งนี้เป็นบ้านของ 2 เทพพญานาคที่แหวกว่ายอยู่ตลอดเวลาทำให้น้ำในทะเลสาบไม่จับตัวเป็นน้ำแข็ง ที่นี่สามารถมาเที่ยวชมได้ตลอดทั้งปีแต่จะพิเศษสุดในฤดูร้อนเมื่อมีแสงแดดทำให้น้ำอุ่น เมื่อมาที่นี่จะทำให้คุณได้ผ่อนคลายอย่างแท้จริงและลืมความกังวลทั้งหมดที่มีอยู่ไปจนหมดสิ้น
2. โกรกธารดากิงะเอริ
โกรกธารดากิงะเอริติดหนึ่งใน 5 อันดับรายการสิ่งที่ต้องทำให้ได้ในญี่ปุ่นของฉันเลยล่ะ! สายน้ำของที่นี่สวยงามเหนือโลกด้วยสีครามเข้มที่จะสะกดลมหายใจ สายน้ำนี้จะไหลลงไปหล่อเลี้ยงนาข้าวที่อยู่ในหุบเขาด้านล่างและเป็นฤดูกาลที่ข้าวอาคิตะขึ้นชื่อในด้านรสชาติแผ่ไปไกลทั่วทั้งญี่ปุ่น ถ้าหากคุณพลาดที่นี่จะต้องเสียดายเอามาก ๆ พูดเลย! และนอกไปจากนี้ ที่นี่ในฤดูหนาวก็สวยงามไม่แพ้กัน
3. คาคุโนะดาเตะ
คาคุโนะดาเตะเป็นอดีตเมืองปราสาทและฐานที่มั่นของซามูไร น่าเสียดายที่ตอนนี้ตัวปราสาทไม่มีแล้ว แต่ตัวเมืองเล็ก ๆ ของที่นั่นยังอยู่ดีในสภาพเดิมเหมือนตอนที่เพิ่งก่อสร้างเสร็จในปีค.ศ. 1620 คาคุโนะดาเตะมีชื่อเสียงโด่งดังในด้านสถาปัตยกรรมแบบซามูไร และเสียงยามต้องลมของต้นซากุระนับร้อย ๆ ต้น เหมาะมาเที่ยวที่สุดในช่วงปลายเดือนเมษายนถึงต้นเดือนพฤษภาคมตอนที่ดอกไม้ผลิบาน ส่วนที่เด็ดที่สุดของที่นี่คือยังมีตระกูลที่อาศัยอยู่ในคฤหาสน์ซามูไรทุกหลัง...ช่วยตอกย้ำถึงความเป็นของแท้และเพิ่มเสน่ห์ดึงดูดให้ทุกคนมาเที่ยว
เที่ยวที่เมืองอาคิตะและจังหวัดอาคิตะให้สนุกนะ! อยากให้ตัวเองยังอยู่ที่นั่นด้วยจัง...