อาคิตะเป็นเมืองที่เหมาะแก่การเดิน โดยเฉพาะเวลาไปที่ปราสาทคุโบตะ เทศกาลคันโต มัตซูริ และ อาคิตะ ซิติเซ่น มาร์เก็ต ถ้าจะไปไกลกว่านั้นก็นั่งรถบัสจะสะดวกสุด โดยเฉพาะช่วงกลางวันที่มีรถให้บริการไม่ขาดสาย ถ้ามาเป้นกลุ่มใหญ่ขึ้นแท็กซี่ก็คุ้มเช่นกัน ในเมืองนี้ไม่มีบริการรถรางหรือรถไฟใต้ดิน และถึงแม้จะมีสายรถไฟเจแปน เรล (เจอาร์) วิ่งผ่าน แต่สถานีรถไฟก็ตั้งอยู่ค่อนข้างไกลจากสถานที่ท่องเที่ยวในตัวเมืองทั้งหมด ยกเว้นแตที่พอร์ต ทาวเวอร์ เซลิออน
ท่ารถบัสอยู่ตรงทางออกฝั่งตะวันตกของสถานีอาคิตะ แม้จะมีรถบัสบางคันวิ่งผ่านทางอกทั่งฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออก แต่จะง่ายกว่าถ้าลงที่าทางออกฝั่งตะวันตก อย่างเช่นถ้าคุณจะไปที่โตโยโกะ อินน์
แม้รถบัสบนถนนสายใหญ่จะมีค่อนข้างเยอะ (ผ่านประมาณหนึ่งคันในห้านาที) แต่บางสายก็อาจต้องรอถึงครึ่งชั่วโมงเช่นที่ไปจากสถานีอาคิตะถึงหอชมวิวที่พอร์ต ทาวเวอร์ เซลิออน แนะนำให้คุณจดเวลารถออกเมื่อคุณมาถึงพอร์ต ทาวเวอร์และเวลาที่คุณไปหอชมวิวตามลำดับ ผมคิดว่าครึ่งชั่วโมงก็น่าจะเกินพอแล้ว ยกเว้นว่าคุณจะอยู่ทานอาหารด้วย ถ้าคุณขึ้นรถบัสเที่ยวต่อไปไม่ทัน ก็มีทางเลือกถ้าคุณเป็นพวกขาลุยและเก่งเรื่องทิศทาง นั่นคือให้เดินไปทางตะวันออกผ่านยานโกดังสู่ถนนใหญ่ที่ใกล้ที่สุด ซึ่งจะมีรถบัสกลับเข้าเมืองผ่านทุก 10 นาที หรืออีกทางหนึ่งคือเดิน 15 นาทีไปสถานรถไฟสึจิซากิซึ่งมีรถไฟออกทุก 20 นาที ซึ่งรถไฟจะเดินทางเร้วกว่าเยอะ ใช้เวลา 7 นาทีก็ไปถึงสถานีเจอาร์ อาคิตะแล้ว
รถบัสเมืองอาคิตะยังมีบัตรโดยสารหนึ่งวันแบบไม่จำกัดซึ่งขายที่ซุ้มขายตั๋วของท่ารถบัสซึ่งอยู่ตรงทางออกฝั่งตะวันตกของสถานีรถไฟเจอาร์ อาคิตะ
บัตรโดยสารหนึ่งวันจะคุ้มค่าก็ต่อเมื่อคุณใช้รถบัสเดินทางเป็นเวลานาน เช่นขึ้นจากพอร์ท ทาวเวอร์ไปบ้านพักเยาวชนโยธพัล ถ้าไม่ใช้บัตรโดยสาร ตั๋วเที่ยวเดียวจากสถานีเจอาร์ อาคิตะไปพอร์ท ทาวเวอร์ เซลิออนจะอยู่ที่ 420 เยนสำหรับผู้ใหญ่ และ 210 เยนสำหรับเด็ก
แล้วก็ยังมีศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวอยุ่ใกล้ด่านตรวจตั๋วที่สถานเจอาร์ด้วย บนทางเดินที่เชื่อมทางออกฝั่งตะวันออกกับตะวันตกไว้ด้วยกัน ถ้าคุณเห็นยูกิกับยูมิจากสำนักงานข้อมูลนักท่องเที่ยวก็อย่าลืมทักทาย ทั้งคู่นั้นเก่งมากและพูดอังกฤษคล่อง
หมายเหตุไว้นิดหนึ่งว่ารถบัตรโดยสารรถบัสประจำเมืองหรือแบบหนึ่งวันนั้นไม่สามารถใช้กับรถบัสที่ไปยังหรือมาจากสนามบินได้
