ในตอนบ่ายหลังจากเที่ยวที่ คะคุโนะดาเตะ ฉันก็มุ่งหน้าต่อไปที่ โยโคเตะ เมืองเล็กๆใกล้ อาคิตะ ซึ่งเป็นเมืองที่มีประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์และมีเสน่ห์ อย่างเทศกาลสร้างอิกลูหรือกระท่อมน้ำแข็งที่ชาวญี่ปุ่นเรียกกันว่า “คามาคุระ” มีการจัดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี ซึ่งกระท่อมน้ำแข็งนี้มีขนาดพอเหมาะสำหรับคนสักสามสี่คนมานั่งรอบกองไฟเล็กๆ นี้ได้ นอกเหนือจากนั้นยังมีแท่นบูชาสลักติดไว้บนผนังน้ำแข็งเพื่อบูชาเทพเจ้าแห่งสายน้ำ
ผู้คนที่นั่นต่างเชื่อกันว่าหากเชิญชวนแขกต่างถิ่นให้มาเยือนที่พักชั่วคราวเล็กๆนี้ และให้เค้กข้าวหรือโมจิย่างและไวน์ข้าวรสหวานกำลังอุ่นๆ ที่เรียกว่า อะมาคาเซ เทพเจ้าแห่งสายน้ำจะตอบแทนพวกเขาโดยการประทานฝนให้ตกลงมามากพอในฤดูใบไม้ผลิเพื่อความอุดมสมบูรณ์ในการเก็บเกี่ยวข้าวในครั้งต่อไป ในจังหวัด อาคิตะ มีการปลูกข้าวอยู่มาก โดยพื้นที่ราบส่วนใหญ่จะเป็นไร่เพาะปลูกเรียงกันเป็นแถวอย่างเป็นระเบียบซึ่งตอนนี้ทุกต้นถูกตัดจนสั้นและปกคลุมไปด้วยหิมะไปเสียแล้ว
โดยส่วนมากพวกเด็กๆ และวัยรุ่นทั้งหลายจะเป็นคนจัดการสร้างกระท่อมหิมะและคอยดูแลรับแขกต่างถิ่นเสียมากกว่า โดยโรงเรียนท้องถิ่นแถวนั้นได้สร้างทะเลเหล่าอิกลูจิ๋วในลานด้านนอก พอตกดึกจะมีการจุดเทียนในนั้น ยิ่งมืดก็จะเห็นเป็นรูปร่างขนาดใหญ่มากขึ้น และนั่นก็ยิ่งกระตุ้นให้คนอยากออกไปหาขนมแจกฟรีกันเสียเหลือเกิน ถนนสายต่างๆ ดูครึกครื้นและคลาคล่ำไปด้วยผู้คน โดยเฉพาะหนุ่มสาวที่ดูจะมีความสุขมากกับเทศกาลนี้เพราะนี่ถือเป็นโอกาสที่ได้มาพบปะสังสรรค์และเฮฮาปาร์ตี้กันตลอดคืนในกระท่อมหิมะที่แสนอบอุ่นแม้จะเป็นฤดูหนาวอันหนาวเหน็บก็ตาม
ยังมีถนนสายเล็กๆ ที่มีทระท่อมหิมะอยู่รวมกันถึง 15 หลัง พวกรูปปั้นหิมะต่างๆ ก็พอมีให้เห็นอยู่บ้าง อย่างรูปปั้นตัวการ์ตูนโทโทโร่ที่มายืนยิ้มแฉ่งแลดูน่ารักน่าชัง รวมถึงกำแพงล้อมรอบจัตุรัสเล็กๆที่ประดับประดาไปด้วยแสงไฟท่ามกลางหิมะ
กระท่อมหิมะส่วนใหญ่มีคนต่อคิวกันมาก ฉันก็เลยได้แต่ถ่ายรูปแล้วจึงเดินไปร้านอาหารใกล้ๆนั้นเพื่อหาที่ทานข้าวมื้อเย็นกัน และแล้วก็เจอร้านอาหารหม้อไฟสไตล์เสฉวน เสิร์ฟพร้อมเนื้อแกะและอาหารทะเล โดยคุณจะต้องถอดรองเท้าก่อนเข้าไปนั่งในห้องส่วนตัวที่ถูกปิดกั้นจากภายนอก แถมใต้โต๊ะตรงเท้ายังมีเครื่องทำความร้อนเล็กๆที่ให้ความอบอุ่นได้เป็นอย่างดี คล้ายๆกับโต๊ะอุ่น โคะทัตสึอีกด้วย บอกได้คำเดียวว่ารู้สึกดีสุดๆ
ไม่ต้องเสียใจไปหากคุณพลาดเทศกาลนี้ เพราะยังมีอิกลูจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ของโยโคเตะ คามาคุระ
