โรงแรมคราวน์ ปาเลส์ ชุโฮคุ ในเครือโรงแรมเอชเอมไอ กรุ๊ป ตั้งอยู่ระหว่างสถานีเจอาร์ โอดาเตะ (เดินทางมาได้โดยใช้สายโชอุจากสถานีอาคิตะ) กับถานีฮิงาชิ โอดาเตะ ถ้าคุณลงที่สถานีเจอาร์ โอดาเตะ ก็สามารถขึ้นแท็กซี่จากสถานีนี้ไปยังโรงแรมได้ในราคา 1000 เยน หรือไม่ก็ขึ้นรถไฟสายฮานาวะจากสถานีเจอาร์ โอดาเตะ ไปสถานีฮิงาชิ โอดาเตะ และเดินไปไม่ไกลก็ถึงโรงแรม
เมืองโอดาเตะต่างกับโตเกียวตรงที่ไม่ใช่มหานครตึกระฟ้า เพราะฉะนั้นถ้าคุณต้องการวิวที่มองเห็นทั้งเมืองจากมุมสูง โรงแรมคราวน์ ปาเลส์ ชุโฮคุคือใช่เลย ที่นี่เป็นตึกสูงที่สุดของเมืองโอดาเตะ และคุณสามารถมองเห็นตัวอักษรญี่ปุ่น "ได" ตัวใหญ่ที่สลักอยู่บนภูเขาได้จากร้านอาหารบนชั้น 11
โรงแรมคราวน์ ปาเลส์ ชุโฮคุมีห้องพัก 85 ห้องกระจายอยู่ทั้งสิบสองชั้นที่มีทั้งแบบซิงเกิ้ล เดอลุกซ์ เอกซ์คิวทีฟ ซิงเกิ้ล ทวิน เดอลุกซ์ ทวิน และห้องสูท ผมแนะนำห้องเอ็กซ์คิวทีฟ ซิงเกิ้ลสำหรับห้องเตียงเดี่ยว เพราะใหญ่กว่าห้องซิงเกิ้ลอื่นทั้งหมด แถมยังมีเก้าอี้นวดที่ห้องแบบอื่นไม่มีด้วย ส่วนห้องทวินนั้น แบบเดอลุกซ์ ทวินจะใหญ่กว่า และพูดเลยว่ากว้างพอกับห้องนั่งเล่นทีบ้านเพื่อนผมในโตเกียวเลย
ทุกห้องจะมีโซฟาสีแดงสดที่มีลายสีทอง โต๊ะเครื่อแป้งสำหรับคุณผู้หญิงใช้แต่งตัว และตู้เย็นไว้เก้บอาหารและเครื่องดื่ม มีไดร์เป่าผมกับกระติกน้ำร้อนด้วย โทรทัศน์ในห้องมีช่องให้เลือกชมจำนวนมากทั้งที่เป็นภาษาญี่ปุ่นและอังกฤษ มีคำอธิบายปุ่มบนรีโมทเป็นภาษาอังกฤษในห้อง ซึ่งผมรู้สึกว่าเยี่ยมมากเพราะผมไม่เข้าใจภาษาญี่ปุ่นที่อยู่บนรีโมทเลย
มื้อเช้าที่โณงแรมเป็นอภินันทนาการ เป็นแบบบุฟเฟ่ต์สำหรับทั้งนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นและชาวต่างประเทศ มีอาหารกว่า 40 เมนูให้เลือกทั้งแซลม่อนผัดกระทะ ไส้กรอกย่าง และสลัดสด
นอกจากนี้ที่ชั้นสองก็มีห้องจัดเลี้ยงกับโบสถ์สุดสวยบนชั้น 12 (ชั้นบนสุด) ดังนั้นถ้าคุณอยากจัดงานแต่งงานที่ญี่ปุ่น (นอกเมืองใหญ่) ที่โรงแรมคราวน์ ปาเลส์ ชุโฮคุก็พอเหมาะสม เพราะมีไม่กี่คนหรอกท่จัดพิธีวิวาห์ในย่านชนบทของญี่ปุ่น
สิ่งแรกของโรงแรมน้ที่ผมชอบคือความมีน้ำใจของพนักงานทุกคน แม้ว่าจะพูดอังกฤษกันไม่คล่องก็ตาม พวเขาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวทั่วเมืองโอดาเตะให้ผมฟังอย่างใจเย็น แขกของโณงแรมมีทั้งครอบครัวและนักธุรกิจเดินทางทำให้บรรยากาศผ่อนคลายและเพลิดเพลิน โดยเฉพาะโซฟานวมให้พักจากการเที่ยวเมืองโอดาเตะมาทั้งวัน
