พวกมันอาจจะเป็นม้าป่า, แต่หลายครั้งจะทักทายนักท่องเที่ยวด้วยการเอาจมูกมาดุนและยิ้มให้ (เครดิตรูปภาพ: Rebecca Daum)

ม้าป่าแห่งแหลมชิริยะ

ประสบการณ์พิเศษในดินแดนตะวันออกเฉียงเหนืออันห่างไกลของญี่ปุ่น

พวกมันอาจจะเป็นม้าป่า, แต่หลายครั้งจะทักทายนักท่องเที่ยวด้วยการเอาจมูกมาดุนและยิ้มให้ (เครดิตรูปภาพ: Rebecca Daum)
Chinnawit Tanetsakulwatana   - ใช้เวลาอ่าน 1 นาที

แหลมชิริยะซ่อนตัวอยู่ในปลายสุดทางตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะฮอนชู ทัศนียภาพของที่นี่ซึ่งประกอบไปด้วยโขดหินสีเข้มและหน้าผานั้นคือสิ่งที่น่าดึงดูดใจเป็นอย่างมาก ประภาคารซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่ถูกสร้างขึ้นในปี 1876 นั้นสวยงามราวกับภาพวาดและยังมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์อีกด้วย เพียงทั้งสองสิ่งนี้ก็ทำให้แหลมชิริยะนั้นคุ้มค่าต่อการเดินทางมาแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม, เหตุผลที่แท้จริงในการเดินทางมาที่นี่จริงๆแล้วก็คือเพื่อการมาดูม้าป่า

คันดาจิเมะ, ซึ่งมีความหมายตามตัวอักษรคือ 'ยืนหยัดในความเหน็บหนาว' คือชื่อของม้าซึ่งสามารถอดทนต่ออุณหภูมิที่เยือกเย็นของอาโอโมริ จากข้อมูลของสำนักงานรัฐบาลจังหวัดอาโอโมริ, ชื่อนี้ได้มาจากความจริงที่ว่าพวกมันอดทนยืนหยัดอย่างมั่นคงผ่านตลอดทั้งช่วงเวลาของฤดูหนาวได้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าม้าพวกนี้น่าจะสามารถจัดการกับหิมะและความหนาวเย็นได้ดีกว่าตัวฉันเป็นแน่

ฉันเดินทางไปที่แหลมชิริยะในเดือนตุลาคมและมันเป็นช่วงที่อากาศเพิ่งจะเริ่มหนาวเท่านั้น ในตอนที่ฉันไปนั้นฉันไม่ได้คาดหวังว่าจะได้เจอม้าจริงๆ ฉันและเพื่อนของฉันมองโลกในแง่ดี (ในความเห็นของฉัน) ด้วยการซื้อแครอทมา 2 ถุงก่อนที่จะออกมาจากมิซาวา เมื่อเราเข้าใกล้จะถึงที่แหลม เราสังเกตุว่าเริ่มมีการตกแต่งในธีมของม้าอยู่บ้างในบริเวณนั้น ไม่นานนักหลังจากเราเข้าไปภายในแหลมเราก็ได้เห็นม้าหลายตัวเดินไปมาอยู่รอบๆบริเวณนั้น 

มีที่จอดรถอยู่ 2-3 ที่ตรงนั้นเราจึงเอารถเข้าไปจอด เมื่อฉันก้าวออกมาจากรถ หนึ่งในม้าพวกนั้นก็เริ่มวิ่งเข้ามาหาฉันในทันที ฉันไม่แน่ใจเท่าไรนักว่าพวกมันเป็นมิตรหรือเปล่าฉันจึงเริ่มที่จะถอยออกมา นั่นคือตอนที่มันเริ่มเอาจมูกมาดุนฉันอย่างอ่อนโยน

ปรากฏว่าส่วนใหญ่ของม้าพวกนี้นั้นเป็นมิตรอย่างมาก พวกมันจะเข้ามาหาคุณและยอมให้คุณให้อาหารพวกมัน แน่นอนว่าฉันแนะนำให้ระมัดระวังเอาไว้ด้วย เพราะถึงแม้ว่าฉันคงจะไม่พูดว่าม้าพวกนี้นั้นดุร้าย แต่พวกมันก็เป็นสัตว์และไม่มีใครมาคอยควบคุมพวกมัน อย่างไรก็ดี, ฉันแนะนำอย่างมากให้เอาแครอทมาด้วย เราให้อาหารม้าหลายตัวและพวกมันก็ให้ความร่วมมืออย่างดีเยี่ยม หนึ่งในพวกมันเดินตามเราไปทั่วแม้ว่าแครอทจะหมดเกลี้ยงไปแล้ว เราได้เห็นม้าประมาณ 15 ตัวซึ่งมีขนาดและสีที่ต่างกันไป การได้มองพวกมันวิ่งเลียบมหาสมุทรหรือดื่มน้ำจากสระน้ำนั้นเป็นสิ่งที่น่าเบิกบานใจอย่างยิ่ง

หลังจากให้อาหารและเฝ้ามองม้าแล้วเราก็ไปสำรวจดูรอบๆบริเวณแหลม วิวมันยอดเยี่ยมจริงๆและมันมีแท่นบูชาเล็กๆอยู่บนหน้าผา เรายังได้เห็นเกาะที่มีประตูศาลเจ้าที่น่าสนใจตั้งอยู่อีกด้วย มันมีร้านขายของที่ระลึกและร้านขายขนมที่คุณสามารถแวะเข้าไปซื้อได้ มีป้ายเป็นภาษาอังกฤษอยู่ 2-3 ป้ายในบริเวณนั้นแต่ส่วนมากเกือบทุกๆอย่างจะเป็นภาษาญี่ปุ่น ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่ยุ่งยากอะไรนักแม้ว่าภาษาญี่ปุ่นของคุณจะแย่ก็ตามคุณก็ยังสามารถจะเดินทางมาที่นี่ได้ แหลมชิริยะอยู่ห่างจากมิซาวามาทางทิศเหนือประมาณ 3 ชั่วโมง วิธีที่ง่ายที่สุดคือขับรถมาทางทิศเหนือบนถนนสาย 338 จากนั้นก็ไปตามป้ายที่บอกทางไปชิริยาซากิหรือแหลมชิริยะ

ตำเตือนอย่างหนึ่งก็คือ: ถึงแม้ว่าพวกม้าจะเป็นมิตรแต่ก็ควรจำไว้เสมอว่ายังไงพวกมันก็เป็นสัตว์ป่า ดังนั้นพฤติกรรมของพวกมันสามารถเปลี่ยนแปลงไปได้อย่างรวดเร็ว ควรใช้ความระมัดระวังในการเข้าหาสัตว์ที่สง่าผ่าเผยเหล่านี้ด้วย

ถ้าคุณกำลังมองหาประสบการณ์พิเศษ, ทิวทัศน์ที่สวยงาม, หรือไม่ก็เพียงแค่ชื่นชอบม้า ฉันแนะนำให้มาที่แหลมชิริยะ มันเป็นอะไรบางอย่างที่แตกต่างออกไปจากการท่องเที่ยววัดหรือพิพิธภัณฑ์ที่พบได้ทั่วไปในญี่ปุ่น มันเป็นการผจญภัยที่ฉันจะไม่มีวันลืมมันอย่างแน่นอน

Chinnawit Tanetsakulwatana

Chinnawit Tanetsakulwatana @chinnawit.tanetsakulwatana