เลาน์กลางสำหรับตักอาหาร Royal Silk Lounge (เครดิตรูปภาพ: Potcharet Rodhetbhai)

Royal Silk Lounge สนามบินสุวรรณภูมิ

ห้องรับรองผู้โดยสารสำหรับผู้เดินทางไปกับการบินไทย

เลาน์กลางสำหรับตักอาหาร Royal Silk Lounge (เครดิตรูปภาพ: Potcharet Rodhetbhai)
Potcharet Rodhetbhai   - ใช้เวลาอ่าน 1 นาที

เมื่อต้องเดินทางไปต่างประเทศ เราควรใช้เวลาในการเตรียมตัวไปสนามบินล่วงหน้าอย่างน้อย 2-3 ชั๋วโมงก่อนเวลาเครื่องบินออก เมื่อเดินทางไปก่อนหลายชั่วโมง หลายคนจึงมีวิธีการหลากหลายแบบในการใช้เวลาระหว่างรอเข้าเกทที่มีอยู่ให้หมดไป ทั้งเลือกช็อปปิ้งซื้อสินค้าปลอดภาษี ซื้อกาแฟหรืออาหารกินเล่นตามร้านอาหารแฟรนไชน์ชื่อดัง และอีกหลายคนก็เลือกจะใช้เวลาที่มีอยู่ในการนั่งพักอย่างผ่อนคลาย พักดื่มน้ำ รับประทานอาหาร ขนมและผลไม้ภายใน”เลาจน์” หรือห้องรับรองพิเศษของสายการบินที่ตนเองใช้บริการ

เช่นเดียวกับตัวผมที่ได้รับเกียรติจากการบินไทยให้มีโอกาสเข้าไปใช้บริการ ณ ห้องรับรองพิเศษ Royal Silk Lounge ของการบินไทยโซน D ภายในสนามบินสุวรรณภูมิ ระหว่างรอเวลาเกทเปิด การได้รับเชิญครั้งนี้ถือว่าเป็นความเกียรติและความภาคภูมิใจของผมมาก เนื่องจากโดยปกติแล้วห้องรับรองพิเศษของการบินไทยจะให้บริการกับเฉพาะผู้โดยสารที่เดินทางด้วยตั๋วชั้นธุรกิจ (Royal Silk Class), ตั๋วชั้นหนึ่ง (Royal First Class), และผู้ที่เดินทางโดยสารการบินพันธมิตรของการบินไทย (Star Alliance) ในชั้นธุรกิจ หรือชั้นหนึ่ง ที่จะบินภายในวันนั้นเพียงเท่านั้น (แต่หากใครเดินทางโดยชั้นประหยัดแค่มีไมล์สะสมทั้งที่จากบัตรเครดิต หรือไมล์สะสมที่ได้จากการบินที่เพียงพอก็สามารถใข้ไมล์แลกเข้าไปภายในได้)

ตรวจสอบเงื่อนไขในการแลกไมล์เพื่อเข้าห้องรับรองพิเศษได้ที่นี่ 

ณ ห้องรับรองพิเศษสำหรับผู้โดยสารที่ชั้น 3 โซน D ที่ผมได้ไปใช้บริการ เป็นห้องรับรองพิเศษของตั๋วโดยสารชั้นธุรกิจที่ใหญ่ที่สุด มีพื้นที่ทั้งหมด 2,410 ตารางเมตร สามารถรับรองผู้โดยสารได้สูงสุด 314 คน เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 5.00 – 2.00 น. ภายในมีบริการอาหารว่างและเครื่องดื่มให้เลือกได้ตามอัธยาศัยมากมาย ทั้งน้ำเปล่า น้ำผลไม้ ชา กาแฟ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่ผู้มาใช้บริการสามารถรับประทานได้ไม่อั้น มีมุมเด็กเล่นให้เด็กๆได้เพลิดเพลินระหว่างรอขึ้นเครื่องบินโดยสาร มีมุมหนังสือและนิตยสาร ที่มักจะเป็นฉบับใหม่ล่าสุดวางรอคอยการเปิดอ่านจากผู้มาเยือนอยู่เสมอ มีมุมโทรศัพท์ที่เป็นห้องส่วนตัวสำหรับคุยธุระเร่งด่วน มีมุมอินเตอร์เนตที่มีคอมพิวเตอร์มากมายพร้อมให้บริการ มีห้องน้ำที่สวยงามทันสมัยระบบกดชักโครกอัตโนมัติ และที่สำคัญที่สุด คือ มีพนักงานคุณภาพ ที่มีใจรักพร้อมบริการให้กับผู้มาใช้บริการภายในห้องรับรองอยู่ตลอดเวลาที่เปิดทำการ

หลังจากเดินผ่านตม.ไปแล้ว ให้เดินไปยังโซน D (ทางด้านซ้ายมือ ฝั่งหัวของพญานาค) ลงบันไดเลื่อนจากชั้น 4 ซึ่งเป็นที่ตั้งของร้านค้าปลอดภาษี ไปยังชั้น 3 ของอาคารผู้โดยสาร เมื่อลงไปแล้วเราจะพบกับเคาน์เตอร์ต้อนรับที่มีพนักงานเสียงหวานและรอยยิ้มคอยยืนต้อนรับผู้มาใช้บริการอยู่ ในวันที่ผมไปมีผู้มาใช้บริการภายในห้องรับรองมาก ทำให้ต้องใช้เวลาเดินพอสมควรถึงจะหาที่นั่งได้ ภายในห้องรับรองมีการตกแต่งแบบไทยร่วมสมัยที่มีทั้งกลิ่นอายความเป็นไทยและความเป็นสากลผสมผสานกันได้อย่างลงตัว ตรงที่นั่งมีแสงสว่างเพียงพอสำหรับอ่านหนังสือ มีที่เสียบปลั๊กสำหรับชาร์จทั้งแบตโทรศัพท์หรือโน้ตบุ๊ค มีจอโทรทัศน์ขนาดใหญ่คอยบอกเวลาและความเคลื่อนไหวจากเกทว่าเปิดหรือปิดทำการอยู่ เพื่อให้ความสะดวกกับผู้โดยสารที่รอขึ้นเครื่อง อาหารที่มีให้บริการในเลาจน์จะมีการเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆตามเวลา หากใครมาตอนเช้าก็จะเป็นอาหารเช้า เช่น ไส้กรอก แฮม หรือข้าวต้ม แต่ในช่วงที่ผมไปใช้บริการนั้นเป็นช่วงดึก ทำให้อาหารที่วางบริการอยู่เป็นอาหารทานเล่นเสียมากกว่า (มีแซนวิช บะหมี่ไก่ และน่องไก่ทอด) แม้จะเป็นอาหารทานเล่น แต่ก็รับรองได้เลยครับหากใครได้เข้าไปลองทานต้องติดใจแน่ๆ หากใครมีโอกาสเดินทางต่างประเทศและอยากหาประสบการณ์ที่ประทับใจ ผมอยากแนะนำให้ลองมาใช้บริการที่เลานจ์แห่งนี้ดูครับ รับรองว่าช่วงเวลาก่อนขึ้นเครื่องบินของคุณจะต้องเป็นช่วงเวลาที่แสนพิเศษก่อนการเดินทางในทริปสุดแสนพิเศษแน่ๆ

Potcharet Rodhetbhai

Potcharet Rodhetbhai @potcharet.rodhetbhai

ผมชื่อ พชเรศวร์ รอดเหตุภัย อายุ 22 ปี ผมมีความฝันอยากท่องโลกกว้างมาตั้งแต่เด็ก โดยมีประเทศที่ฝันอยากไปมากที่สุด คือ "ญี่ปุ่น" เมื่อเรียนจบมัธยมปลาย ผมมีโอกาสมาประเทศในฝันครั้งแรก และมีโอกาสเดินทางไปครั้งที่สองจากการเข้าร่วมโครงการ Travel Internship ที่เว็บไซต์แห่งนี้ จากประสบการณ์ในทั้งสองครั้งนั...