พิพิธภัณฑ์ซากะ โนะ อุเอะ โนะ คุโม (เครดิตรูปภาพ: Rod Walters)

พิพิธภัณฑ์ซากะ โนะ อุเอะ โนะ คุโม

พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ ในอาคารโดยสถาปนิกอันโด ทาดาโอะ

พิพิธภัณฑ์ซากะ โนะ อุเอะ โนะ คุโม (เครดิตรูปภาพ: Rod Walters)
Siripapan Pengpoom   - ใช้เวลาอ่าน 1 นาที

พิพิธภัณฑ์ซากะ โนะ อุเอะ โนะ คุโม(Saka no Ue no Kumo Museum) เป็นส่วนหนึ่งของโครงการที่ถูกคิดขึ้นโดย อดีตนายกเทศมนตรีเมืองมัตสึยามะ นายโทคิฮิโระ นากามูระ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดของจังหวัดเอะฮิเมะ  "ซากะ โนะ อุเอะ โนะ คุโม" หรือ "ก้อนเมฆบนเนินเขา"(Clouds over the slope) คือ นวนิยายประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น โดย ชิบะ เรียวทาโร ถูกพิมพ์ออกจำหน่าย ตั้งแต่ปี 1968 จนกระทั่งถึงปี 1972 สร้างในสมัยปีเมย์จิ เรื่องราวจะเน้นไปที่ตัวละคร 3ตัว จากเมืองมัตสึยามะ ,อะคิยามะ โยชิฟุรุ ทหารในกองทัพ, พี่ชายของเขา อะคิยามะ ซาเนยูกิ ทหารเรือ และเพื่อนของเขา มาซาโอกะ ชิกิ นักประพันธ์บทกวีไฮกุ (Haiku) นวนิยายจะพูดคลอบคลุมถึงชีวิตของพวกเขาตั้งแต่ตอนเด็กไปจนถึงช่วงสงครามระหว่างจีน-ญี่ปุ่น และจบลงในสงครามระหว่างรัสเซีย-ญี่ปุ่นของปี1904-5 โดยนวนิยายถูกดัดแปลงให้เหมาะสมกับละครชุดโทรทัศน์(NHK Television) 3 ปีซึ่งออกอากาศไปทั้งหมด 13 ตอน ในช่วงระหว่างปี 2009 จนถึงปี 2011 ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โปรเจคนี้จะทำให้ เมืองมัตสึยะมา เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางของประชาชนชาวญี่ปุ่น และเมืองก็จะกลายมาเป็นสถานที่ที่โด่งดังสำหรับละครย้อนยุค ในส่วนของพิพิธภัณฑ์ มีการจัดแสดงนิทรรศการถาวรเกี่ยวกับเมืองมัตสึยะมา ในสมัยปีเมย์จิ และชั้นแรกถูกมอบให้เป็นการจัดแสดงที่พิเศษตื่นตาตื่นใจ

การจัดแสดงที่ผมชื่นชอบที่สุดคือ เหรียญทอง ซึ่งถูกพบใกล้ๆกับบริเวณที่ตั้งแคมป์ ของนักโทษชาวรัสเซีย ที่ถูกจับกุมในช่วงระหว่างสงครามรัสเซียและญี่ปุ่น   เหรียญถูกสลักอย่างหยาบๆ ด้วยชื่อของนางพยาบาล ซึ่งภายหลังได้มาตกหลุมรักกับหนึ่งในนักโทษที่นั้นและดูเหมือนว่าพวกเขาจะใช้เวลาอันแสนสุขของพวกเขา กับการแข่งขันขี่จักรยานและการนันทนาการอื่นๆ

หลังจากที่ชมการจัดแสดงทั้งหมดแล้ว ผมได้เข้าไปสนทนากับหนึ่งในไกค์อาสาสมัคร ผู้คนที่เกษียณอายุแล้ว จะมารออยู่รอบๆ เพื่อคอยให้บริการแก่ผู้เข้าชม ผมสังเกตุผู้หญิงที่ กำลังยกย่องสถาปนิกอันโด ทาโดทาโอะ (Ando Tadao) ว่าทำผลงานได้ดี โดยที่พอดีอย่างมากกับพื้นที่แคบๆอย่างนี้  เธอแหงนหน้าขึ้นเล็กน้อยและพูดว่า " ตรงกันข้ามนะ ทุกอย่างดูเบียดกันไปซะหมด มองไปที่เฉลียงนั่นซิ แล้วก็มองไปที่บันไดนั้นด้วย ทั้งหมดมันแคบมากๆ ตอนที่ฉันไปเที่ยวที่พิพิธภัณฑ์ในยุโรป มันดูยิ่งใหญ่และมีพื้นที่เปิดกว้างกว่านี้"  สิ่งที่เธอพูดไปนั่นถูกอย่างไม่ต้องสงสัย คุณอาจจะเห็นตัวอาคารเป็นโพรงมืดๆได้ แต่ผมคิดว่า ผู้คนจะเห็นมันเป็นถ้ำเสียมากกว่า ซึ่งมีลำแสงลอดผ่านมาจากด้านนอกได้ด้วย ในความคิดของผม ความชาญฉลาดอย่างหนึ่งของตัวอาคาร คือเส้นทางที่ทอดไปนั้น จะทำหน้าที่เป็นเหมือนกับ บันไดก้อนหิน ไปยังคฤหาสน์ บันซุยโซ (Bansuiso Villa) ซึ่งก่อนหน้านี้ตั้งอยู่เดี่ยวๆ ค่อนข้างจะแตกแยกห่างออกไปจากถนนและไม่มีผู้มาเที่ยวชม พิพิธภัณฑ์ ซากา โนะ อุเอะ โนะ คุโมนี้ รวบรวมให้ Bansuiso กลับมาสู่เมืองอีกครั้ง และให้มุมมองที่ยอดเยี่ยมของตัวอาคารและบริเวณ จากหน้าต่างบานใหญ่ของพิพิธภัณฑ์อีกด้วย

ปัญหาของผู้เข้าชมชาวต่างชาติอย่างหนึ่งก็คือ ทั่วทั้งการจัดแสดงนี้ มีป้ายบอกข้อมูลต่างๆเป็นภาษาญี่ปุ่น ถ้าคุณไม่รังเกียจ ที่จะไม่เข้าใจว่าอะไรมีความเป็นมาอย่างไร และเลือกที่จะเพลิดเพลินไปกับรูปภาพของนิทรรศการ และกินบรรยายกาศไปกับวิวที่มองเห็นอาคาร อย่างนั้นแล้ว พิพิธภัณฑ์ซากา โนะ อุเอะ โนะ คุโม ก็คุ้มค่าที่จะมาเยี่ยมชม

ชื่อในภาษาญี่ปุ่น

坂の上の雲ミュージアム saka no ue no kumo myujiamu

พิพิธภัณฑ์ ซากะ โนะ อุเอะ โนะ คุโม (Saka no Ue no Kumo Museum) แปลเป็นไทยประมาณว่า "ก้อนเมฆบนเนินเขา"

Siripapan Pengpoom

Siripapan Pengpoom @siripapan.pengpoom