ในใจกลางเมืองฟุคุอิ(Fukui) ละทิ้งความเร่งรีบและความวุ่นวาย ป้อมปราการแห่งธรรมชาติถือกำเนิดขึ้น รู้จักกันในชื่อ ภูเขาอะซูวะ (Asuwa) คุณขับรถไปที่ยอดเขาอะซูวะได้ตลอดเวลา เพื่อชื่นชมกับสวนธรรมชาติ และเสน่ห์ของพืชพันธ์ุอันเขียวขจี แต่โดยที่ตั้งแล้ว ไต่ขึ้นไปดีที่สุด
อะตะโกซากะ(Atagozaka) คุณจะได้ยินและเห็นชื่อนี้บนโปสเตอร์ทั่วทั่งเมือง มันเป็นชื่อที่ประวัติศาสตร์มอบให้กับบันไดหินที่ยึดอยู่กับฐานของภูเขาอะซูวะ โดยมีความสูงทั้งหมด 116 เมตร ชื่อของ อะตะโกซากะ เกี่ยวข้องกับคันจิที่แปลว่า "รัก" อย่างไรก็ตามความพิถีพิถันของขั้นบันไดนี้ ดูมีเสน่ห์อย่างแท้จริง และยังมีความหมายมากกว่านั้นอีกมาก
ก่อนการปฎิรูปในสมัยปีเมจิ ภูเขาอะซูวะ เคยมีชื่อว่าภูเขาอะตะโก(Mount Atago) อะตะโกซากะ--ความหมายบางอย่างที่สอดคล้องของ "เนินลาดนำทางไปสู่อะตะโก"-- ชี้ทางให้ผู้มาเยี่ยมชมถึงพื้นที่ ที่เส้นทางนำทางพวกเขาไปถึงศาลเจ้าอะตะโก ( Atago Shrine) ในสมัยกลางปีเอโดะ ศาลเจ้าอะตะโก ทำหน้าที่เป็นเหมือนพื้นที่กลางการพบปะสำหรับผู้ฝึกหัดโชเกนโด (Shogendo) --รากฐานนิกายชินโต(Shinto)และการปฎิบัติของชาวพุทธ โดยศาลเจ้าอะตะโกเป็นศูนย์กลาง โชเกนโดสามารถเผยแพร่ไปทั่วทั้งโฮกุริกุ(Hokuriku)และอีกหลายพื้นที่ของญี่ปุ่น จุดอื่นๆในประวัติศาสตร์ เส้นทางมาที่บันไดนี้ กลายเป็นที่รู้จักกันของ ร้านอาหารสุดหรู และบ้านน้ำชา
เมื่อประวัติศาสตร์อันรุ่งเรืองของอะตะโกซากะได้ผ่านพ้นไป ผู้เยี่ยมชมยังคงสามารถเพลิดเพลินกับความงามและประวัติศาสตร์ของพื้นที่ที่ห้อมล้อมอยู่ตรงบันไดนั้นได้ เดินทางต่อไปยังยอดเขาคือพิพิธภัณฑ์พิธีการชาอะตะโกซากะ(Tea ceremony Museum) สมบูรณ์แบบด้วยพิธีการ สวนแบบดั้งเดิมและสิ่งประดิษฐ์ในพิธีการชาจากจีนมาจนถึงญี่ปุ่น ในฤดูใบไม้ผลิ คุณสามารถเยี่ยมชมศาลเจ้าอะซูวะในช่วงงานเทศกาล และชมวิวอะตะโกซากะอายุกว่าหลายศตวรรษพร้อมทั้งต้นซากุระที่บานสะพรั่ง ส่วนช่วงท้ายปี อะตะโกซากะเป็นที่รู้จักกันของการจัดนิทรรศการที่หลากหลายและเวิร์คช็อปต่างๆ พร้อมสัมผัสบรรยากาศสุดโรแมนติกใต้แสงเทียนกับโคมไฟที่ประดับประดาอยู่ในสวนตลอดทั่วทั่งเนินเขา
อะตะโกซากะ ชื่อเริ่มต้นด้วยคำว่ารัก และถึงแม้ว่ารักไม่ได้มีอะไรมากกับประวัติศาสตร์ของมัน แต่คุณจะรู้ว่าทำไม ขั้นบันไดแห่งนี้ถึงได้รับความรักจากท้องถิ่นและผู้มาเยี่ยมชมตั้งแต่ก้าวแรกที่ได้สัมผัส
