ทางเดินสวนดอกไม้ (เครดิตรูปภาพ: Isamu Yoneda)

อุทยานโนโกะ

เดินผ่อนคลายท่ามกลางมวลไม้ดอกงามตา

ทางเดินสวนดอกไม้ (เครดิตรูปภาพ: Isamu Yoneda)
Keeratika Makasuk   - ใช้เวลาอ่าน 1 นาที

ผมไม่เคยคิดจะชอบพวกดอกไม้อะไรสักเท่าไหร่ จนเมื่อได้มาที่ในอุทยานโนโกะแห่งนี้ ซึ่งแต่เดิมเป็นเกาะทำประมง แต่บัดนี้ได้กลายเป็นสวนไม้ดอกอลังการนานาชนิดที่บานสะพรั่งตลอดทั้งปี เชื่อผมเถอะ คุณไม่มีทางผิดหวังกับที่นี่แน่นอน ผมไปช่วงเมษาและกรกฏา และผมก็แอบดีใจนะที่คนไม่ค่อยเยอะเหมือนกับสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆสักเท่าไร ที่นี่ให้ประสบการณ์ที่สุดยอดกับผม ซึ่ง2ครั้งที่ผมมาก็ได้เจอะเจออะไรที่ต่างกันออกไป อีกอย่างอย่าลืมหยิบแผ่นพับละครับ ในนั้นมีปฏิทินรูปไม้ดอกด้วยเผื่อคราวหน้าคุณจะกลับมาอีก

หลังจากคุณเดินเข้ามาแล้ว ก็อย่ามัวแต่หลงชื่นชมความงามของเหล่าดอกไม้ฝั่งขวากันละครับ เดินเลี้ยวซ้ายเพื่อไปดูสิ่งที่กำลังรอคุณอยู่ คุณก็จะผ่านสนามกีฬาโนโกะโนโกะ (Noko-Noko Ball) หรือกอล์ฟโครเค (Golf-croquet) แล้วก็จะเห็นเนินด้านข้างที่มีดอกไม้จัดไว้อย่างสวยสดงดงาม

หากคุณถ่ายรูปจนหนำใจแล้ว ให้กลับไปทางเดิมแล้วเลี้ยวขวาคุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศประหนึ่งว่าคุณกำลังเดินเล่นอยู่ในความฝันท่ามกลางมวลดอกไม้ ซึ่งมีทั้ง สวนอะแซลเลีย สวนไฮแดรนเยียและดอกทรัมเป็ตแดฟโฟดิล แต่มีหลายหย่อมที่อาจอยู่หลบซ่อนสักเล็กน้อย ฉะนั้นอย่าลืมเดินให้ทั่วทุกทางละครับ ไม่อย่างนั้นละก็คุณต้องพลาดอะไรไปแน่ๆ

หากคุณเดินมาจนสุดทางแล้ว คุณก็จะถึงจุดเริ่มต้นของถนน "Omoide-dori" หรือถนนแห่งความหลังที่สร้างในสไตล์ญี่ปุ่นโบราณ ชาวญี่ปุ่นเองก็รู้สึกเหมือนได้หวนระลึกถึงอดีต ในขณะที่ชาวต่างชาติก็ดูตื่นตาตื่นใจไปกับถนนสายนี้ ไม่น้อย จากนั้นคุณก็เจอร้านขายของเล่นโบราณ, สินค้าหัตถกรรมและพวกเครื่องปั้นดินเผาเหมาะแก่การให้เป็นของขวัญ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีเครื่องสูบน้ำและตู้โทรศัพท์สมัยก่อนที่ช่วยเพิ่มกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นยุคโบราณขึ้นมาอีก (ถ้าคุณโชคดีอย่างผมนะ) คุณจะเจอผู้หญิงคนหนึ่งเล่นขิมญี่ปุ่นหรือโกะโตะให้คนที่เดินผ่านไปมาได้ชมกันด้วย

ส่วนไฮไลท์สุดท้ายต้องยกให้สนามหญ้ากว้างที่มองเห็นวิวอันงดงามแบบมุมกว้างของอ่าวฮากาตะ ยิ่งในช่วงเดือนมีนาคมและเมษายนภาพของดอกนาโนฮานะ (Rape Blossoms)จะปกคลุมไปทั่วด้านหลังของสนาม ผมพูดจากใจเลยนะครับว่าผมไม่เคยเห็นอะไรที่สุดยอดขนาดนี้มาก่อน อย่างการได้เห็นคลื่นทะเลดอกไม้สีเหลืองอยู่เบื้องหน้า มีผืนน้ำสีฟ้าคั่นอยู่ตรงกลางและภาพวิวของตัวเมืองฉายอยู่ด้านหลังสุด คุณอาจจะคิดว่าแค่นี้ก็คุ้มเกินพอแล้วล่ะ แต่ผมโชคดียิ่งกว่านั้นน่ะสิครับ คือผมได้ผมฟังวงดนตรีสดหน้าวิวทิวทัศน์สวยๆแบบนี้ไปด้วย ที่นั่นมีร้านอาหารที่มองเห็นวิวทะเลได้ และมีที่มากมายไว้สำหรับปิกนิก ทั้งวิวก็ทำให้คุณผ่อนคลายและอิ่มเอมไปกับบรรยากาศจนแทบไม่อยากกลับกันเลยทีเดียว

นอกจากทางเดินหมู่ดอกไม้แล้ว ยังมีพวกร้านอาหารและร้านค้าบริการอยู่ทั่วอุทยาน และสวนสัตว์ขนาดย่อมที่มีทั้ง แพะ ไก่และกระต่าย บ้านกระต่ายดูจะเหมาะกับพวกเด็กๆมากเพราะสามารถให้อาหารหรืออุ้มมาเล่นได้ตามใจชอบ ผมว่าผมรู้สึกสนุกพอๆกับเด็กๆพวกนี้เลย ยังไม่หมดเท่านั้นมีบริเวณกิจกรรมอีกหลายที่ทั้ง เนินเขาเล่นสกีแบบจับเชือก, สนามเด็กเล่นและสนามวอลเลย์บอล ถ้าคุณจัดสรรเวลาได้ดีละก็ยังมีเนินต้นซากุระให้คุณได้ชื่นชมความงดงามของดอกสีชมพูที่กำลังบานสะพรั่ง

อุทยานโนโกะเหมาะสำหรับคนทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าคุณจะมากับครอบครัว มากับกลุ่มเพื่อน มาคนเดียวหรือมากับแฟน ที่นี่เสมือนสวรรค์สำหรับนักถ่ายภาพทั้งหลายและสำหรับทุกคน

(ถ้ายังมีเวลาเหลือตอนที่คุณนั่งรอเรือเฟอร์รี่ขากลับหรือตอนรอรถขึ้นไปอุทยาน อย่าลืมลองชิมเบอร์เกอร์โนโกะที่ร้านอาหารข้างๆท่าเรือเฟอร์รี่ ร้านอาจดูเล็กๆ ธรรมดาสักหน่อยแต่รสชาติเกินคุ้ม เพราะทำมาจากส่วนผสมท้องถิ่นอีกทั้ง คนขายก็เป็นคุณตาคุณยายใจดีอีกด้วย)

วันจันทร์-วันเสาร์: 09:00-17:30, วันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์: 09:00-18:30

ผู้ใหญ่: 1000 เยน, เด็ก: 500 เยน, เด็กทารก: 300 เยน, กลุ่มคณะ (30+): ลด 20%

โนโกะโนโกะบอล: 500-800 เยน, สกีเชิอก: 200 เยน, เดินไม้ต่อขา: 100 เยน อาหารปิ้งย่างที่ซากิโมริ: 2500 เยน/ท่าน

Keeratika Makasuk

Keeratika Makasuk @keeratika.makasuk

I am a 22 years old girl, who loves to travel to different parts of the world because I believe that being in foreign countries gives me a chance to explore and discover all things I've never experienced in my life. This kind of experience has made me become more mature and understanding. And Jap...