ทางตอนใต้ของแถบชนบทไอสุจะมีอยู่สองสามเมืองให้คุณได้พักผ่อนจากการตะลุยผ่านถนนที่จมอยู่ใต้กองหิมะซึ่งใช้สำหรับเดินทางผ่านเขตภูเขาอันกว้างใหญ่ไพศาลของจังหวัดฟุกุชิมะ ปัจจุบันกลุ่มออนเซน / เรียวกัง (บ่อน้ำร้อน / บ้านพักแบบโบราณ) จำนวนมากกระจุกตัวรวมกันอยู่บนภูเขา ถูกคั่นด้วยแม่น้ำที่เกิดจากการละลายของหิมะซึ่งถ้าจะขับไปให้ถึงต้องใจเย็น ๆ ในสมัยเอโดะ (ค.ศ. 1603-1868) สำหรับเหล่าผู้ประกอบการค้าที่เดินมาเป็นระยะทางไกลมหาศาลนั้น โออุชิจูกุเป็นเมืองไกลปืนเที่ยงแห่งเดี่ยวในบริเวณนั้นที่มีที่พักกับอาหาร
ปัจจุบันโออุชิจูกุก็ยังคงเป็นเหมือนกับเมื่อในสมัยเอโดะเป๊ะ หมู่บ้านเต็มไปด้วยถนนลูกรังกว้างที่มีร้านอาหารมุงหลังคา ร้านค้า และที่พักตั้งอยู่เรียงราย โอบล้อมด้วยไหล่เขาต้นสนที่มีหมอกปกคลุมที่เป็นส่วนหนึ่งกับภูมิประเทศตอนเหนือของญี่ปุ่น
ทั้งสี่ฤดูจะเป็นการมาเที่ยวที่แสนประทับใจ โออุชิจูกุดูสวยงามที่สุดในฤดูร้อน ที่ชาวเมืองจะนำน้ำเต็มถังมาราดใส่ถนนที่เหลืองสดแห้งแล้ง และจะหย่อนลังบรรจุเครื่องดื่มลงไปในคลองเลียบถนนแคบ ๆ เพื่อแช่เย็น ฤดูหนาวก็งดงามไม่แพ้กันใต้ท้องฟ้ายามราตรีสดใสที่ปราศจากแสงสีของเมืองมารบกวน โคมตะเกียวที่สลักจากหิมะให้แสงเทียนธรรมชาติส่องสว่างบนถนนที่หลับใหล หรืออีกหลายคนอาจยืนยันว่าช่วงหน้าดอกซากุระบานระหว่างปลายเดือนเมษายนถึงต้นเดือนพฤษภาคมเป็นช่วงที่โออุชิจูกุสวยงามที่สุด
สำหรับนักท่องเที่ยวขาจร มาเที่ยวแบบไปใช้เย็นกลับน่าจะพอแล้ว แต่ถ้าอยากพักค้างคืนด้วยก็ได้ ที่ร้านค้าจะมีของที่ระลึกพื้นเมืองวางขายเช่นรองเท้าแตะฟาง น้ำเต้าไม้ และผลิตท้องถิ่นที่อุดมสมบูรณ์อย่างถั่วกับเต้าหู้แห้ง ส่วนร้านอาหารจะมีโซบะพื้นเมืองซึ่งเสิร์ฟพร้อมต้นหอมเป็นช้อน ๆ (ขอให้โชคดี)
ออนเซนที่ไอสุภูมิใจนำเสนอและเหมาะแก่การไปเที่ยวชมก็ตั้งอยู่ใกล้ ๆ
การเดินทางไปยังโออุชิจูกุ: นั่งรถไฟไปสถานียูโนกามิ ออนเซนบนสายไอสุ หลังจากนั้นขึ้นแท็กซี่ไปลงโออุชิจูกุ ใช้เวลา 15 นาที ราคาราว 2,000 เยน หรือสามารถขับรถยนต์มายังเมืองชิโมโกะของโออิชิจูกุได้ซึ่งอยู่ยอกไอสุ-วากามัตสุไป 20 ก.ม.
สถานียูโนะกามิ ออนเซนเป็นสถานีรถไฟเพียงแห่งเดียวในญี่ปุ่นที่มีหลังคามุงจาก ตลอดแนวจะเป็นต้นซากุระผลิบานซึ่งช่วยสร้างสีสันให้กับสถานีในฤดูใบไม้ผลิ