การวางแผนท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นนั้นเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้น อย่างไรก็ตามนอกเหนือจากการมาชมดอกซากุระและภูเขาไฟฟูจิแล้ว ยังมีสิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นอีกมากที่คุณอาจจะยังไม่ทราบ คำแนะนำนี้จะให้ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับสิ่งที่ควรเตรียมพร้อมก่อนออกเดินทางสู่ดินแดนอาทิตย์อุทัย

วีซ่า

การเข้าประเทศญี่ปุ่นนั้นง่ายมาก คุณต้องมีหนังสือเดินทางที่ยังไม่หมดอายุในระหว่างที่อยู่ที่นี่ โดยคุณจะได้รับวีซ่าชั่วคราวสำหรับนักท่องเที่ยว และจำนวนวันขึ้นอยู่กับว่าคุณมาจากประเทศใด ตัวอย่างเช่น นักท่องเที่ยวจากบรูไนได้รับอนุญาตให้อยู่ได้ 14 วัน นักท่องเที่ยวจากอินโดนีเซียและไทยได้รับอนุญาตให้อยู่ได้ 15 วัน นักท่องเที่ยวจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้รับอนุญาตให้อยู่ได้ 30 วัน ในขณะที่ประเทศและภูมิภาคอื่นๆ อนุญาตให้เข้าได้ 90 วัน ผู้ที่อาศัยอยู่ในจีน รัสเซีย ประเทศในกลุ่ม CIS จอร์เจีย และฟิลิปปินส์ จะต้องได้รับวีซ่าก่อนเข้าประเทศญี่ปุ่น เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวีซ่าญี่ปุ่นได้ที่นี่

สกุลเงิน

เยนเป็นสกุลเงินอย่างเป็นทางการของญี่ปุ่น โดยมีเหรียญ 1, 5, 10, 50, 100 และ 500 เยน และธนบัตร 1,000, 2,000, 5,000 และ 10,000 เยนที่ใช้อยู่ในระบบ ณ เดือนตุลาคม 2024 อัตราแลกเปลี่ยนดอลลาร์สหรัฐต่อเยนอยู่ที่ประมาณ 1:148.55 ในปัจจุบันประเทศญี่ปุ่นยังคงเป็นสังคมที่ใช้เงินสดเป็นหลัก ดังนั้นควรพกเงินสดติดตัวไปให้เพียงพอต่อการใช้ สามารถตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเงินตราในประเทศญี่ปุ่นได้ที่นี่

Japan is still a cash-based society in many parts so carry enough money with you
Japan is still a cash-based society in many parts so carry enough money with you (เครดิตรูปภาพ: Shutterstock)

ปลั๊กไฟ/ไฟฟ้า

กระแสไฟฟ้าในประเทศญี่ปุ่นใช้ไฟฟ้ากระแสสลับ 100 โวลต์ และมีความถี่ 2 ระดับ คือ 50 เฮิรตซ์ในแถบญี่ปุ่นตะวันออก และ 60 เฮิรตซ์ในแถบญี่ปุ่นตะวันตก โดยใช้ปลั๊กไฟขาแบน 2 ขาที่ใช้เช่นเดียวกับเต้ารับไฟฟ้าในอเมริกาเหนือ แม้ว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าในอเมริกาเหนือส่วนใหญ่จะใช้ได้ที่ญี่ปุ่น แต่ควรตรวจสอบกระแสไฟฟ้าด้วย หากกระแสไฟเข้ากันไม่ได้อาจก่อให้เกิดความเสียหาย เพื่อความปลอดภัยควรนำหัวแปลงไฟฟ้าสำหรับเดินทางมาด้วย

ความปลอดภัย

ญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในประเทศที่ปลอดภัยที่สุดในโลก อัตราการเกิดอาชญากรรมต่ำ และผู้คนส่วนใหญ่มักจะเคารพสิทธิของผู้อื่น ทำให้ญี่ปุ่นกลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยว อย่างไรก็ตามอาชญากรรมก็ยังคงมีอยู่ และนักท่องเที่ยวควรระมัดระวังในบางพื้นที่ เช่น ในย่านโคมแดงอย่างคาบูกิโจในชินจูกุ และโทบิตะ ชินจิในโอซาก้า ทางที่ดีที่สุดนั้นก็ควรระมัดระวังในทุกที่ที่คุณไปด้วยเช่นกัน

สภาพภูมิอากาศ

ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีอากาศครบทั้ง 4 ฤดูกาล ฤดูหนาวอยู่ระหว่างตั้งแต่เดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ อุณหภูมิจะลดลงเมื่อไปทางตอนเหนือ โดยเฉพาะในภูมิภาคโทโฮคุ และจังหวัดฮอกไกโดจะมีหิมะตกหนัก ฤดูใบไม้ผลิเริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม อากาศเย็นสบายและมีแดด จึงเหมาะแก่การชมดอกซากุระที่บานสะพรั่งในช่วงนี้ ฤดูร้อนเริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม ซึ่งเป็นช่วงที่ตรงกับช่วงฤดูฝนเช่นกัน โดยอากาศจะร้อนและชื้น อุณหภูมิจะสูงกว่า 30 องศาเซลเซียส ฤดูใบไม้ร่วงเริ่มตั้งแต่เดือนกันยายนถึงพฤศจิกายน ใบไม้จะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง ส้ม และเหลือง อากาศจะเย็นขึ้น และอุณหภูมิจะลดลงอย่างรวดเร็วเมื่อฤดูหนาวมาเยือนอีกครั้ง

Spring in Japan is defined by cherry blossoms blooming across the country
Spring in Japan is defined by cherry blossoms blooming across the country (เครดิตรูปภาพ: Nicole Bauer)

สิ่งที่ควรทำ และไม่ควรทำ

สิ่งที่ควรทำ:

โค้งคำนับเมื่อทักทายคนในท้องถิ่น ถึงแม้ว่าในปัจจุบันชาวญี่ปุ่นจะคุ้นเคยกับการจับมือกันมากขึ้น แต่ก็ยังนิยมโค้งคำนับ เพื่อเป็นการทักทายเมื่อพบกันเป็นครั้งแรก

ถอดรองเท้าก่อนเข้าบ้านผู้อื่น และวางไว้อย่างเป็นระเบียบที่ประตู

สิ่งที่ไม่ควรทำ:

ไม่จำเป็นต้องให้ทิปเมื่อนั่งแท็กซี่หรือจ่ายค่าอาหาร ชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าการบริการที่มีคุณภาพ คือ ส่วนหนึ่งของงาน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่คาดหวังการตอบแทนด้วยเงินที่เพิ่มขึ้นในส่วนนี้ ฉะนั้นการให้ทิปอาจเป็นเรื่องเสียมารยาท

อย่าพูดเสียงดังหรือคุยโทรศัพท์ เมื่อคุณใช้ระบบขนส่งสาธารณะ เพราะชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าการกระทำดังกล่าวถือเป็นสิ่งที่หยาบคาย และไม่เคารพผู้โดยสารคนอื่นๆ

ระบบการขนส่ง

ระบบเครือข่ายการขนส่งของญี่ปุ่นประกอบด้วยรถไฟ รถบัส เรือข้ามฟาก และเครื่องบิน ระบบการขนส่งเหล่านี้ทั้งสะอาด เชื่อถือได้ และตรงเวลา ไม่น่าแปลกใจเลยที่บริษัทรถไฟจะขอโทษที่ล่าช้า หรือมาเร็วในบางกรณี ชินคันเซ็นเป็นรถไฟที่เร็วที่สุด และเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการเดินทางพร้อมชมวิวทิวทัศน์ที่งดงาม ถึงแม้ว่ารถไฟญี่ปุ่นทั่วไป และรถไฟเอกชนอาจจะใช้เวลาเดินทางนานกว่า แต่ความสะดวกสบายก็พอๆ กัน นอกจากนี้ยังมีบัตร IC ที่คุณสามารถเติมเงิน และนำไปใช้จ่ายค่าโดยสาร รวมถึงจ่ายค่าอาหาร และซื้อสินค้าที่เครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติในบางที่ได้เช่นเดียวกัน

รถบัสในเมืองมักพบได้ทั่วไปในเมืองเล็กๆ ที่ระบบรางรถไฟยังพัฒนาน้อยกว่า แต่ตรงเวลาเช่นเดียวกับรถไฟ นอกจากนี้ยังมีรถบัสเดินทางข้ามคืนให้เลือกใช้บริการ ซึ่งใช้เวลาเดินทางนานกว่า แต่ราคาถูกกว่าประมาณครึ่งหนึ่ง (หรือบางครั้งถูกกว่าเล็กน้อย) เมื่อเทียบกับราคารถไฟชินคันเซ็น

The shinkansen bullet train is Japan's most famous form of transport
The shinkansen bullet train is Japan's most famous form of transport (Photo: i北陸 (i Hokuriku) / CC BY 2.1 jp)

การรับประทานอาหาร

ข้าวเป็นอาหารหลักในญี่ปุ่น และคุณจะพบข้าวในอาหารเกือบทุกจาน อีกทั้งยังมีบะหมี่หลากหลายชนิด เช่น ราเมน อุด้ง และโซบะ โดยนำเสนอในรูปแบบพิเศษตามแต่ละพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ทำให้มีอาหารประเภทเส้นให้เลือกรับประทานมากมายจนแทบจะนับไม่ถ้วน ซูชิซึ่งเป็นอาหารขึ้นชื่อสามารถพบได้ทุกมุมถนน และด้วยความที่ญี่ปุ่นอยู่ใกล้กับทะเล จึงมีปลาสดและอาหารทะเลอื่นๆ มากมาย เนื่องจากญี่ปุ่นมีมาตรฐานด้านสุขอนามัยสูง คุณจึงสามารถอิ่มอร่อยกับซาซิมิและอาหารดิบอื่นๆ ได้อย่างสบายใจ

อาหารริมทางประกอบด้วยอาหารยอดนิยมตลอดกาล เช่น ทาโกะยากิ โอโคโนมิยากิ ซึ่งมีราคาถูกแต่รสชาติแสนอร่อย ของหวานยอดนิยมของญี่ปุ่น เช่น เครป ไอศกรีมซอฟต์เซิร์ฟ จะทำให้มื้ออาหารของคุณสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น นอกจากนี้คุณยังสามารถลองขนมญี่ปุ่นคลาสสิก เช่น โดรายากิ ดังโงะ ไดฟุกุสตรอว์เบอร์รี และไทยากิ สำหรับตัวเลือกอาหารราคาประหยัด โปรดอ่านบทความนี้

สุขภาพ

ประเทศญี่ปุ่นมีระบบสาธารณสุขที่ยอดเยี่ยม อย่างไรก็ตามโรงพยาบาลในประเทศญี่ปุ่นส่วนใหญ่รับเฉพาะประกันสุขภาพของญี่ปุ่นเท่านั้น และหากคุณได้รับการรักษาพยาบาลใดๆ คุณจะต้องชำระเงินล่วงหน้า ซึ่งค่ารักษาอาจจะสูงมาก เพื่อความสบายใจ ขอแนะนำให้ซื้อประกันสุขภาพการเดินทางต่างประเทศก่อนเดินทาง หรือสมัครประกันหลังจากเดินทางมาถึงประเทศญี่ปุ่น โปรดทราบว่าแพทย์และพยาบาลส่วนใหญ่ไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ เมืองใหญ่ๆ เช่น โตเกียว จะมีคลินิกที่เชี่ยวชาญด้านการดูแลชาวต่างชาติ หากคุณมีประกันสุขภาพการเดินทาง โปรดติดต่อบริษัทประกันของคุณ เพื่อขอรายชื่อสถานพยาบาลที่เกี่ยวข้อง ร้านขายยาในประเทศญี่ปุ่นโดยทั่วไปไม่มีจำหน่ายยาจากต่างประเทศ ดังนั้นอย่าลืมพกยามาเอง น้ำประปาในประเทศญี่ปุ่นสามารถดื่มได้ ดังนั้นคุณสามารถดื่มน้ำตามสถานที่ต่างๆ ได้

ทั่วไป

ในกรณีฉุกเฉิน ให้โทร 110 เพื่อแจ้งตำรวจ และ 119 เพื่อแจ้งหน่วยดับเพลิงหรือรถพยาบาล คุณสามารถโทรฟรีได้กับโทรศัพท์ทุกประเภท รวมถึงโทรศัพท์สาธารณะด้วย