ตรงนี้เป็นชานชาลาของรถราง ซึ่งมีสองฝั่งถนนสามารถเดินข้ามหาถึงกันได้ครับ เวลาจะขึ้นรถให้เราดูป้ายที่เขียนบอกว่าขึ้นรถด้านนี้จะไปสถานีไหนต่อไปหรือผ่านสถานีอะไรบ้างใช่สถานีที่เราจะไปหรือไม่ แค่นี้เราก็ไม่หลงทางแล้วละครับ (เครดิตรูปภาพ: VVatcharapong Kongvatcharakool)

พาหนะน้อยน่ารักแห่งเมืองฮาโกดาเตะ

มาสัมผัสความน่ารักของรถรางในเมืองท่าฮาโกดาเตะกันเถอะ

ตรงนี้เป็นชานชาลาของรถราง ซึ่งมีสองฝั่งถนนสามารถเดินข้ามหาถึงกันได้ครับ เวลาจะขึ้นรถให้เราดูป้ายที่เขียนบอกว่าขึ้นรถด้านนี้จะไปสถานีไหนต่อไปหรือผ่านสถานีอะไรบ้างใช่สถานีที่เราจะไปหรือไม่ แค่นี้เราก็ไม่หลงทางแล้วละครับ (เครดิตรูปภาพ: VVatcharapong Kongvatcharakool)
Watcharapong Kongvatcharakool   - ใช้เวลาอ่าน 1 นาที

สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้องทุกท่าน วันนี้กระผมขอมานำเสนอพาหนะที่แสนจะน่ารักน่าเอ็นดูของเมืองฮาโกดาเตะ ซึ่งจัดได้ว่าเป็นพาหนะยอดฮิตของเมืองแห่งนี้ทีเดียว นั่นก็คือรถรางTramน้อยของเรานี่เองครับ ซึ่งรถรางของที่นี่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากคือขนาดที่เล็กกระทัดรัดของมัน รวมทั้งผมได้มีโอกาสสัมผัสศักยภาพการทำงานของคนขับรถที่นี่ ซึ่งเค้าทำงานเองทุกอย่าง ตั้งแต่ขับรถด้วยความระมัดระวัง อธิบายสถานีที่ท่องเที่ยวเป็นภาษาญี่ปุ่น ขายบัตร เก็บเงินทอนเงิน เปิดประตูและสารพัดที่จะทำได้ ทั้งหมดนี้อยู่ในคนคนเดียวครับ

โดยรถรางคันน้อยของที่นี่จะมีเพียง 2 สายเท่านั้น คือสายที่ 2(สีส้ม)และสายที่ 5(สีน้ำเงิน)ดังรูป ซึ่งจะแตกต่างกันนิดหน่อยตรงที่มันจะวิ่งแยกกันตรงสถานี Jujigai(DY20) ซึ่งสถานีนี้เป็นสถานีสำคัญที่คุณสามารถเดินทางไปขึ้นกระเช้าชมวิวสวยติดอันดับโลกที่ภูเขาฮาโกดาเตะ รวมทั้งไปเดินเล่นที่ Bay area ชมความคลาสสิกของโกดังแดงแวะซื้อของฝากขึ้นชื่ออีกด้วย

สำหรับสถานีที่สำคัญก็คือ Hakodate Ekimae(DY17) ซึ่งเป็นสถานีเริ่มต้นขึ้นรถรางที่อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟ Hakodate ครับ ตอนจะขึ้นรถรางท่านจะต้องดูว่าสถานที่จะเดินทางไปนั้นอยู่ด้านไหน โดยชานชาลาของรถรางจะอยู่ฝั่งตรงข้ามกันสามารถข้ามถนนถึงกันได้ไม่ยากครับ จะมีรถรางที่วิ่งไปทางด้านซ้ายมือของภาพจะมีสถานี Suehiro-cho(D21) ซึ่งเราสามารถนั่งสายที่ 5 สีฟ้าไปลงเพื่อเดินชมความงามที่ Motomachi ได้ด้วยครับ หรือว่าใครจะไปสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตอย่างป้อมปราการรูปดาว Goryukaku เราสามารถนั่งรถสายใดก็ได้ไปทางขวามือเพื่อลงสถานี Goryukaku-koen-mae แล้วเดินชมนกชมกาอีกประมาณ 10 นาทีก็ถึงครับ

ค่ารถรางนี้จะขึ้นอยู่กับระยะทางในการเดินทางครับ สนนเริ่มต้นที่ราคา 200 เยนต่อเที่ยวและราคาจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆตามระยะทางครับ เวลาขึ้นรถรางให้เราดึงตั๋วบัตรที่เขียนหมายเลขตรงทางขึ้นครับ และเราสามารถใช้หมายเลขนี้เทียบกับกระดานราคาที่ขึ้นอยู่ด้านหน้าเหนือคนขับหน้ารถรางนี้ครับ เวลาจ่ายเงินก็นำเหรียญไปหยอดที่ทางลงข้างคนขับรถด้านหน้า อีกทั้งยังมีโปรโมชั่นพิเศษเป็นตั๋ว One-day pass ในราคาเพียง 600 เยน ให้เราสามารถนั่งรถรางไม่จำกัดเที่ยวกี่รอบก็ได้ในหนึ่งวันครับ ใครที่มีโอกาสเที่ยวหลายๆที่ขึ้นรถเกิน 3 ครั้งก็น่าสนใจซื้อไม่น้อยเลยครับ ซึ่งบัตรนี้สามารถขอซื้อได้ที่คนขับรถรางนี่เลยครับ

สิ่งที่ผมคิดว่าเป็นสเน่ห์ของเมืองนี้ ก็คงเป็นเมืองเล็กๆกระทัดรัดที่ขับเคลื่อนด้วยยานพาหนะเล็กๆอย่างรถรางTramเหล่านี้ เมื่อประกอบกับทัศนียภาพที่สวยงามและผู้คนชาวญี่ปุ่นที่มีมิตรไมตรี นับว่าเป็นเมืองที่ทุกคนน่ามาเยี่ยมเยียนจริงๆครับ

Watcharapong Kongvatcharakool

Watcharapong Kongvatcharakool @vvatcharapong.kongvatcharakool

Hello everyone. My nickname is DOT. Now I am pharmacist in a hospital of Thailand. So I am very exciting to go to Japan , that was the people are very nice , all the food are dilicious and the natural are very beautiful too. Thank you to see my journal :)