กระเช้าไฟฟ้าขึ้นอะสะฮิดะเกะ

หลังจากออกจากอินะกะ (inaka) เมืองชนบทเล็กๆที่เงียบสงบของฉัน มุ่งหน้าไปยัง อะสะฮิดะเกะ (Asahidake) หรือภูเขาอะสะฮิ ฉันก็เข้าเขตอุทยานแห่งชาติไดเซะซึเซ็น (Daisetsuzen) อุทยานขนาดใหญ่ของฮอกไกโด (ดู photo story ของภูเขาอะสะฮิได้ที่นี่) อะสะฮิดะเกะเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในฮอกไกโด ถ้าคุณสามารถวางแผนการเดินทางในฤดูใบไม้ร่วง ภูเขาอะสะฮิเป็นสถานที่ยอดเยี่ยมสำหรับชมใบไม้ในฤดูใบไม้ร่วง ตรงเชิงเขาจะมีหมู่บ้านเล็กๆ ที่มีศูนย์ข้อมูลท่องเที่ยว โรงแรม youth hostel ออนเซ็น และกระเช้าไฟฟ้าขึ้นไปบนยอดเขา

จากซัปโปโร คุณสามารถเข้าถึงกระเช้าไฟฟ้าโดยใช้ทางด่วนพิเศษ (แต่ฉันขอแนะนำให้ใช้ทางหลวงสาย 12) ตรงไปตลอดทางโดยผ่านสนามบินอะสะฮิกะวะ (Asahikawa) มันเป็นไปได้ที่จะไปยังภูเขาอะสะฮิโดยรถเมล์จากอะสะฮิกะวะ แต่ฉันคิดว่ารถเมล์จะมีน้อยคันและเวลาที่รถออกก็ค่อนข้างห่างกันมาก และถ้าคุณไปยังกระเช้าไฟฟ้าในวันหยุดยาวสามวัน คุณก็ต้องเผชิญกับแถวรถที่ติดยาวเยียดเป็นชั่วโมง ก่อนที่คุณจะได้จอดรถ เช่นเดียวกับฉันในวันนั้น

เวลาทำการของกระเช้าไฟฟ้านั้นแตกต่างกันไปตามฤดูกาล แต่โดยทั่วไปแล้วในช่วงฤดูหนาวจะเปิดทำการ 9 โมงเช้าถึง 4 โมงเย็น ในช่วงไฮซีซั่น (เดือนมิถุนายนถึงเดือนตุลาคม) กระเช้าไฟฟ้าจะออกทุกๆ 10 ถึง 15 นาที ค่ารถกระเช้าไฟฟ้าไป-กลับ 2800 เยน และ 1600 เยนสำหรับเที่ยวเดียว ถ้าคุณเป็นนักเดินป่าที่มีประสบการณ์และรู้ทางลงเขา ก็อาจจะเดินลงได้ ซึ่งจะใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่งถึงสองชั่วโมง แต่ถ้าคุณเป็นนักเดินป่ามือใหม่ ต้องการเพียงชมวิวบนภูเขา และเดินเล่นสบายๆ คุณก็สามารถเดินไปบนเส้นทางเดินรอบยอดเขาซึ่งเชื่อมต่อกับกระเช้าไฟฟ้า

ฉันไม่มีประสบการณ์เดินป่า ฉันจึงตัดสินใจยอมจ่าย 2800 เยน ดีกว่าที่ต้องเดินลงเขาสองชั่วโมง เมื่อกระเช้าไฟฟ้าเริ่มไต่ขึ้นไปตามไหล่เขา เผยให้เห็นสีสันที่วิเศษสุดของฤดูใบไม้ร่วงเหนือยอดไม้ ทำให้ฉันคิดว่า มันช่างคุ้มค่ามากกับเวลาที่ต้องรออยู่ในรถ และค่าใช้จ่ายในการเดินทางทั้งหมด การเดินเล่นรอบยอดเขาค่อนข้างเงียบสงบและสวยงาม แม้ว่าจะมีผู้คนมากมาย ในวันนั้นเป็นวันที่มีเมฆมากและทำให้ดูลึกลับ แต่ถูกชดเชยด้วยความงามอันเงียบสงบ ที่ทำให้ผู้เข้าชมต้องมนต์เสน่ห์ของภูเขาอะสะฮิ