พ็อพลาร์ ฟ้าคราม ขุนเขา เราสอง...ชีวิตนี้จะต้องการอะไรอีก (เครดิตรูปภาพ: Sith Thanprasertsuk)

ต้นพ็อพลาร์ของเคนแอนด์แมรี่

ฉากแสนโรแมนติกจากโฆษณาเมื่อวันวาน

พ็อพลาร์ ฟ้าคราม ขุนเขา เราสอง...ชีวิตนี้จะต้องการอะไรอีก (เครดิตรูปภาพ: Sith Thanprasertsuk)
Knoma Sallee   - ใช้เวลาอ่าน 1 นาที

หากต้นไม้ยืนต้นโดดเดี่ยวกลางทุ่งทั่วโลกมีความรู้สึก ผมว่าพวกมันคงต้องอิจฉา ”ต้นพ็อพลาร์ของเคนแอนด์แมรี่” แน่ๆ ครับ เพราะไม่ใช่ไม้ยืนต้นเดี่ยวๆ ทุกต้นจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวด้วยตัวของมันเองถ้าไม่ได้อยู่ในอุทยานแห่งชาติ แต่ด้วยอิทธิพลของสื่อโฆษณาในยุคที่เศรษฐกิจญี่ปุ่นเฟื่องฟูถึงขีดสุดในโลก ทำให้ฉากหลังของงานโฆษณาที่ชวนให้ตรึงใจนี้เป็นที่รู้จักแพร่หลายในฐานะแหล่งท่องเที่ยวครับ

เมื่อปี 1972 แคมเปญโฆษณาทางโทรทัศน์ของรถยนต์นิสสันรุ่นสกายไลน์ C110 ทำให้หนุ่มสาวร่วมสมัยทั่วญี่ปุ่นออกตามรอย “เคนแอนด์แมรี่” พรีเซนเตอร์คู่รักบุปผาชนที่ใช้นิสสันสกายไลน์เดินทางไปสู่สถานที่สวยเหมือนฝันอันไกลโพ้น ไม้พ็อพลาร์สูงตระหง่านใกล้กับบิเอ เมืองเล็กๆ ห่างจากซัปโปะโระไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ 163.5 กิโลเมตร ก็เป็นหนึ่งในโลเคชั่นที่กลายเป็นดั่งที่แสวงบุญของคนรุ่นใหม่ผู้ศรัทธาในความรักและเสรีภาพเสมอมา (สามารถรับชมแคมเปญโฆษณานี้ได้ที่ www.youtube.com/watch?v=R0V4oEqU0TQ ตัวงานต้นพ็อพลาร์จะอยู่นาทีที่ 10:14 เป็นต้นไปครับ)

ผมว่าคงจะน่าอิ่มใจไม่น้อยหากคุณผู้อ่านหาเช่ารถแบบวินเทจจากซัปโปะโระในยามบ่ายแล้วชวนคนรู้ใจนั่งเคียงข้าง มาชมพระอาทิตย์ตกดินเบื้องหลังต้นพ็อพลาร์ ค้างคืนในเขตเมืองบิเอแล้วเดินทางในแถบกลางเกาะฮอกไกโดที่แสนโรแมนติกต่ออีก 1-2 วัน ก่อนกลับสู่ซัปโปะโระ จะได้ตามรอย “เคนแอนด์แมรี่” อย่างสมบูรณ์แบบไงครับ (สถานที่หลายแห่งในแถบนี้ไม่มีบริการขนส่งมวลชนเข้าถึงด้วยครับ)

แต่หากคุณผู้อ่านสู้ค่าเช่ารถวันละ 7,000 – 10,000 เยนไม่ไหว แนะนำให้เดินทางด้วยรถไฟสายท้องถิ่น (futsu) สายเจอาร์ ฟุระโนะ จากอะซะฮิคะวะหรือฟุระโนะมาสู่บิเอ ค่าตั๋วเพียงราว 500 – 700 เยนต่อเที่ยว แล้วจึงหาเช่าจักรยานที่มีให้เลือกทั้งแบบธรรมดา ค่าเช่าชั่วโมงละประมาณ 200 เยน และจักรยานไฟฟ้าที่มีให้เลือกหลายรุ่นหลายเกรด ค่าเช่าชั่วโมงละ 600 เยน หรือถ้าเกรดดีหน่อยก็คิดรายวัน วันละ 2,200 - 6,000 เยน ซึ่งผมว่าจักรยานไฟฟ้าแบบธรรมดาคุ้มราคามากสำหรับคนที่ขี่ขึ้นเนินไม่แข็งครับ แค่นี้ก็จะได้ปั่นฝ่าสายลมไปตามทางที่สวยงามด้วยสีสันของดอกไม้และพืชผลในวงล้อมของภูเขาไดเซะทซึซัน จนได้รับฉายาว่าถนนสายแพทช์เวิร์ค (Road of Patchwork) ซึ่งห่างจากสถานีรถไฟบิเอไปทางทิศเหนือตามทางสายนี้ประมาณ 2 กิโลเมตร คุณผู้อ่านก็จะเห็นพ็อพลาร์ –ไม้ผลัดใบที่จะเปลี่ยนสีไปตามฤดูกาลต้นนี้เด่นเป็นสง่าอยู่กลางทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ครับ (ระวังอย่าเผลอบุกรุกเข้าไปในพื้นที่เลี้ยงปศุสัตว์นะครับ)

ข้ามไปอีกฟากถนนของต้นพ็อพลาร์ของเคนแอนด์แมรี่ มีคาเฟ่เล็กๆ ที่ใช้ชื่อพระ-นางคู่นี้เป็นเครื่องหมายการค้า ถ้ามาในฤดูร้อน ห้ามพลาดซอฟต์ครีมรสผลไม้ต่างๆ ที่ทำจากนมวัวและผลไม้ฮอกไกโดอันนเลื่องชื่อเป็นอันขาดครับ ยิ่งถ้าปั่นจักรยานมาในวันที่แดดแรงก็แวะพักได้เลย แต่ที่น่าผิดหวังคือดิสเพลย์โฆษณาเคนแอนด์แมรี่ของคาเฟ่นั้นเป็นแค่โทรทัศน์จอโค้งรุ่นเก่า ฉายภาพโฆษณาที่ทั้งเบลอทั้งสีตกซ้ำไปซ้ำมา คงไม่ต้องบอกนะครับว่ามีช่องทางปรับปรุงให้ดีขึ้นมากขนาดไหน

Knoma Sallee

Knoma Sallee @sith.thanprasertsuk