ทุกครั้งที่ไปเที่ยวเรามักจะใช้ 1-2 วันไปที่ที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ไม่ไปเพราะเราอยากเที่ยวแบบคนท้องถิ่น ตอนไปฮอกไกโดเราใช้ 2 วันนั้นในการไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติที่เก่าที่สุดในญี่ปุ่น 1 วันไปยอดเขาที่สูงที่สุดในฮอกไกโดที่อุทยานแห่งชาติ Daisetsuzan (อ่านได้จาก Asahidake ยอดเขาที่สูงสุดในฮอกไกโด) อีก 1 วันเราตัดสินใจไปอุทยานแห่งชาติ Akan ที่ถูกก่อตั้งขึ้นมาพร้อมกัน ที่นี่น่าสนใจตรงที่มีทะเลสาบสวยงามและภูเขาไฟที่ยังไม่ดับหลายแห่งอยู่ร่วมกัน มาที่นี่จะได้เห็นภูเขาไฟโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำกลางทะเลสาบ ทะเลสาบปล่องภูเขาไฟ ทิวทัศน์ของถนนที่คดเคี้ยวไปในป่าพร้อมวิวทะเลสาบและภูเขาไฟที่จะโผล่มาแวบแวบระหว่างทาง และยังมี marimo (สาหร่ายก้อนกลมพันธุ์สงวนที่น่ารัก) แค่คิดก็ตื่นเต้นแล้ว เนื่องจากเราไม่ได้เช่ารถขับเลยต้องทำการค้นคว้าเยอะหน่อย แล้วเราก็ได้พบทัวร์ที่ถูกใจมากคือทัวร์ PIRIKA ซึ่งจะพานั่งรถเที่ยวไป-กลับจากสถานีรถไฟ Kushiro โดยจะแวะให้เที่ยวระหว่างทางและหยุดที่ Lake Akan สองชั่วโมง
8:00 ออกจากสถานีรถไฟ Kushiro แวะจุดชมวิว
- ทะเลสาบ Mashu ทะเลสาบในปล่องภูเขาไฟซึ่งเป็นทะเลสาบที่มีน้ำใสที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง
ไม่อยากจะบอกว่าพวกเราเสียใจสุดๆเพราะอากาศไม่ดีและไม่เห็นอะไรเลยหลังออกไปยืนตากฝนดูอยู่หลายนาที แงง
- ภูเขา Loh หรือที่เรียกว่าภูเขากำมะถัน
ดีหน่อยที่เห็นภูเขากำมะถันชัดมาก แต่ได้กลิ่นชัดกว่า 55
- ทะเลสาบ Kusharo ทะเลสาบในปล่องภูเขาไฟที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ที่นี่แจ๋วตรงที่มี sanuya คือคุณสามารถขุดรูในทรายริมทะเลสาบเพื่อแช่น้ำอุ่นที่จะดันขึ้นมาจากด้านใต้ และที่นี่ยังเล่าลือกันว่ามีปีศาจ Loch Ness ของญี่ปุ่นด้วย
เราพยาพยามขุดหลุมแล้วแต่ภูเขาไฟต้องยอมให้ฝนที่ตกไม่หยุดในวันนี้ ; (
13:10 ถึงทะเลสาบ Akan และหยุดให้เที่ยวสองชั่วโมง ที่นี่มีอะไรให้ทำมากมาย เช่นล่องเรือชมธรรมชาติ พิพิธภัณฑ์ วัด เมืองโบราณ และแน่นอนร้านอาหาร และร้านขายของที่ระลึก เราคาดว่าถ้าอากาศดีคงมีมุมให้ถ่ายรูปนับไม่ถ้วนด้วย แต่ด้วยสภาพอากาศเราเลยมุ่งเน้นไปที่การกินและเดินซื้อของสลับการตากฝนถ่ายรูปเป็นระยะๆ
16:55 กลับมาถึงสถานีรถไฟ Kushiro แม้ว่าอากาศจะไม่เป็นใจแต่เราก็สนุกและได้เรียนรู้อะไรเยอะในวันนี้
1. ฮอกไกโดอยู่ในโซนที่ควรตรวจสภาพอากาศทุกวันและพร้อมที่จะเปลี่ยนแผนการเที่ยวตามสภาพอากาศ หลังวันนี้เราสลับแผนการเที่ยวไปมาตามสภาพอากาศทุกวัน
2. ฮอกไกโดเป็นที่ที่มีความหลากหลายทางธรรมชาติมากจริงๆ อย่ามาแค่ชมดอกไม้ เทศกาลหิมะ และกินอาหารอร่อยๆ
3. แม้ว่าการจองทัวร์นี้จะลำบากพอควรคือพนักงานไม่เก่งภาษาอังกฤษ (ก็อยากเที่ยวแบบคนท้องถิ่นนี่เนอะ) และตอบ email ช้ามาก (แบบกว่าจะตอบเราไปทัวร์เสร็จแล้วสองวัน 55) แต่เสี่ยงไปเถอะค่ะ ทุกคนให้ความช่วยเหลือและสนุกแน่นอน
4. อันนี้สำคัญที่สุด แม้สภาพอากาศจะไม่ดี แต่เราสนุกมากกกกก กับการซื้อขนมจากทุกจุดพักเพราะแต่ละจุดจะมีขนมที่ไม่เหนือนกัน แบบว่ากลับมาพร้อมขนมกันคนละกระเป๋าโตอะ ยังคงความเป็นไทยแท้แม้จะพยายามเที่ยวแบบคนท้องถิ่น 55