หากคุณบินไปถึงเกาะฮอกไกโดแล้ว ประตูด่านแรกที่จะเปิดต้อนรับคุณนั้นก็คือ “สนามบิน New Chitose (CTS)” อ่านว่า นิว-ชิโทเสะ อย่าอ่านว่านิว-ชีโตสนะคะ เดี๋ยวสนามบินจะกลายเป็นขนมขบเคี้ยวซะก่อน แต่ถ้าอ่านตามแบบฉบับคนญี่ปุ่นแล้วนั้นจะเป็นชื่อ Shin Chitose (อ่านว่า ชิง-ชิโตะเสะ) ซึ่งคงเดากันได้ไม่ยากว่าคำว่า “Shin” ในภาษาญี่ปุ่นแปลว่า “ใหม่” นั่นเอง
สนามบินแห่งนี้ถือเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในฮอกไกโด สำหรับตอนนี้คนไทยสามารถเดินทางไปฮอกไกโดได้สะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้นโดยมีเส้นทางบินโดยตรงกรุงเทพ-ซัปโปโรของสายการบินไทย โดยบินด้วยเครื่องบิน Airbus A330-300 ที่มีเที่ยวบินให้บริการทุกวันไม่ต้องเสียเวลาStopหลายต่ออีกต่อไป
ถ้าในฤดูหนาวอาจจะมีหิมะตกหนัก ทำให้เกิดไฟล์ทดีเลย์ได้ ใครที่ไปช่วงนี้คงต้องทำใจเผื่อไว้สักนิด แต่ถ้าคุณพอมีเวลาในสนามบินแห่งนี้ระหว่างรอการเดินทางไปยังจุดมุ่งหมายถัดไปนั้น รับรองได้ว่าคุณจะไม่เบื่อกับการใช้เวลาในสนามบินแห่งนี้อย่างแน่นอนเพราะที่นี่มีกิจกรรมให้คุณทำหลากหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการShoppingที่มีสินค้าให้เลือกสรรมากมายเสมือนยก Shopping Mall มาไว้ในสนามบิน ใครที่อยากลิ้มลองอาหารทะเลสดๆหรือจะซื้อไปฝากคนที่บ้านก็มีตลาดอาหารทะเลสดทางฝั่ง Domestic หรือการไปชมการผลิตช็อคโกแลตสดใหม่ กลิ่นหอมๆที่ Royce’s Chocolate World ชมความน่ารักของหมีน้อยที่ Steiff Nature World สาวๆคนไหนที่คลั่งไคล้เจ้าแมวไร้ปากอย่าง Hello Kitty ที่นี่ก็มี Hello Kitty Japan Shop ที่เนรมิตทั้งร้านเป็นสีชมพูหวานแหววเอาใจสาวน้อยกันเต็มที่
แต่ที่พลาดไม่ได้ที่เป็นจุดเด่นของสนามบินแห่งนี้คือ Doraemon Waku-Waku Sky Park อยู่บริเวณชั้น 3 โซน Smile Road ที่นี่จำลองโลกของโดเรมอน โนบิตะและผองเพื่อนมาไว้ให้ทุกคนได้มาถ่ายรูปและมีมุมกิจกรรมต่างๆให้ลองเล่นกันอย่างเพลิดเพลินใจ เหมือนได้ย้อนเวลากลับไปเด็กอีกครั้ง ถ้าอยากนั่งชิลๆก็มีCafeคอยให้บริการเครื่องดื่มและขนมนานาชนิด หรือจะเดินเลือกซื้อของที่ระลึกน่ารักๆน่าสะสมของเหล่าตัวการ์ตูนก็มีให้เลือกมากมายหลากหลายแบบ แนะนำว่าใครมาถึงสนามบิน New Chitose แล้วต้องมาที่นี่ มิฉะนั้นจะถือว่ายังมาไม่ถึงฮอกไกโดจริงๆ ตั๋วค่าเข้าชมผู้ใหญ่จะอยู่ที่ 600 เยน เด็กวัยรุ่นอายุระหว่าง 13-18 ปี ราคา 400 เยน และเด็กน้อยอายุ 3- 12 ปี ราคา 300 เยน แน่นอนว่าผู้เขียนต้องจ่ายที่ 600 เยนแน่ๆเพราะเลยวัยขบเผาะมานานแล้วค่ะ อ่อ..ตั๋วจะต้องซื้อที่ตู้อัตโนมัติเท่านั้นนะคะ (ผู้เขียนไปปล่อยไก่ตัวเบ้อเริ่มเพราะไปจ่ายเงินที่พนักงาน ก็ว่าอยู่ว่าทำไมเขาทำหน้างงๆ) เมื่อได้ตั๋วแล้วก็เอามายื่นให้พนักงานเพื่อจะได้โบว์ชัวร์แนะนำสถานที่ หากว่าใครอยากซื้อสมุดตราปั๋มไว้สะสมเป็นที่ระลึกสามารถซื้อได้หน้าเคาเตอร์ทางเข้าเล่มละ 400 เยนเท่านั้น
นอกจากนี้ภายในสนามบินแห่งนี้ยังมีร้านราเมนชื่อดังของฮอกไกโดมากมายหลายร้านให้เลือกรับประทาน ซึ่งร้านส่วนใหญ่จะเปิดตอนประมาณ 9.30 น. ใครที่มาถึงแต่เช้าคงต้องหาอะไรรองท้องรอกันไปก่อน(จะทานของดีต้องใจเย็นๆค่ะ) หากใครที่อยากจะนั่งพักผ่อนสบายๆที่นี่เขาก็มีออนเซนบริการเช่นเดียวกัน บอกแล้วว่าสนามบินแห่งนี้เขามีทุกอย่างรองรับทุกความต้องการของทุกคนจริงๆ อีกสิ่งสำคัญสำหรับนักเดินทางอย่างพวกเราตามหานั้นคือ “Free Wifi” ที่นี่ก็มีให้ริการสามารถไปขอรหัสและลงทะเบียนได้ที่ Information อาจจะสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ชาวญี่ปุ่นลำบากหน่อย แต่การให้บริการถือว่าเป็นเลิศมากค่ะ และท้ายสุดนั้นสนามบินแห่งนี้ยังเป็นต้นสายของรถไฟด่วน JR Pass ซึ่งมีสถานีอยู่ชั้นใต้ดินที่จะนำคุณไปยังสถานีซัปโปโรได้ ค่าตั๋วจะอยู่ที่ 1,040 เยน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาทีก็ถึงจุดหมายได้อย่างรวดเร็วทันใจ
สำหรับใครที่อยากจะประหยัดสามารถปริ้นคูปองจากเว็บไซต์ http://his-coupon.com/th/search_CTS__3.html ได้เพื่อเอามาเป็นส่วนลดไว้ใช้กับร้านค้าต่างๆในสนามบินแห่งนี้ได้
แล้วคุณจะพบว่าที่นี่จะทำให้การรอคอยการเดินทางของคุณไม่น่าเบื่ออีกต่อไป ขอให้สนุกกับการใช้เวลาในสนามบิน New Chitose นะคะ :)