เกสท์เฮ้าส์โยโดโกะของแฟรงค์ ลอยด์ ไรท์ (เครดิตรูปภาพ: Benjamin Stock)

สถาปัตยกรรมอเมริกันในอะชิยะ

เกสท์เฮ้าส์โยโดโกะของแฟรงค์ ลอยด์ ไรท์

เกสท์เฮ้าส์โยโดโกะของแฟรงค์ ลอยด์ ไรท์ (เครดิตรูปภาพ: Benjamin Stock)
Poranut J   - ใช้เวลาอ่าน 1 นาที

เนื่องด้วยผมเป็นคนชิคาโก้ที่รักสถาปัตยกรรมและการออกแบบ ผมเลยประหลาดใจเล็กน้อยตอนแรกที่ผมได้ยินว่ามีบ้านที่ออกแบบโดยสถาปนิกที่มีชื่อเสียงชาวอเมริกันแฟรงค์ ลอยด์ ไรท์(8 มิถุนายน 1867-9 เมษายน 1959)ในจังหวัดเฮียวโก นอกจากนี้เกสท์เฮ้าส์โยโดโกะในอะชิยะซึ่งเป็นเมืองคนชนชั้นสูงในชายแดนโกเบและบางครั้งถูกเรียกว่า”เบเวอรี่ฮิลล์ของญี่ปุ่น” ไรท์ก็เป็นคนออกแบบเช่นกัน

บ้านได้รับการออกแบบในปี 1918 มันเป็นบ้านของครอบครัวยามามุระที่เป็นเจ้าของโรงเหล้าสาเกผู้มั่งคั่งในโกเบ ใช้เป็นสถานที่พักผ่อนที่หรูหราบนภูเขา บ้านหลังนี้สอดคล้องกับความเชื่อของไรท์ที่ว่าโครงสร้างของบ้านควรกลมกลืนกับธรรมชาติรอบๆ บ้าน 4 ชั้นที่ตั้งอยู่ไต่ระดับภูเขา ไม่เกิน 2 ชั้นที่ซ้อนทับกันด้านบน จุดนี้ทำให้บ้านดูไม่น่าเบื่อ

เช่นเดียวกับบ้านหลายๆหลังที่มีชื่อเสียงที่ไรท์ออกแบบ เจ้าของทุ่มไม่อั้นทั้งการออกแบบภายในหรือภายนอก ในงานก่ออาร์ตเดกโคเขาเลือกใช้ทองแดงและไม้ตกแต่งอย่างประณีตรวมถึงบานหน้าต่างด้วย อีกทั้งเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้าน ไรท์ยังเลือกเองอีกด้วย

1 ในรายละเอียดเพิ่มเติมที่น่าสนใจเกี่ยวกับประวัติของบ้านคือ ความไม่พอใจในการออกแบบ ในขณะที่ไรท์วางแผนทุกอย่างไว้แล้ว การก่อสร้างบ้านถูกควบคุมดูแลโดยผู้รับเหมาชาวญี่ปุ่นที่ซึ่งเน้นสร้างให้กลมกลืนกับความต้องการของครอบครัวยามามุระ โดยซอยห้องเป็นหลายห้องและที่ห้องยังมีพื้นเสื่อทาทามิอีกด้วยซึ่งมันขัดแย้งกับการออกแบบของไรท์และผู้รับเหมาได้สร้างกำแพงหนา​​หลายอันโดยไม่จำเพื่อทำให้เสื่อทาทามิมีมิติอยู่ในระดับเดียวกันกับผังเดิมของไรท์

ไรท์ออกแบบอาคารที่ 14 แห่งในญี่ปุ่นแต่มีเพียง 6 แห่งเท่านั้นที่ถูกสร้างขึ้นเป็นรูปเป็นร่าง ในปัจจุบันเกสท์เฮ้าส์โยโดโกะเป็น 1 ใน 4 สิ่งปลูกสร้างที่เหลืออยู่และอีก 3 แห่งได้แก่ จิยุ กาคุเอน เมียวนิจิกัน, ล็อบบี้ในโรงแรมโตเกียว อิมพีเรียล(ตั้งอยู่ในพิพิธภัณฑ์)และห้องนั่งเล่นของบ้านอิซากุ ฮายาชิ ผมว่ามันแย่นะที่เขาไม่ได้สร้างสรรค์ผลงานเพิ่มเติมที่นี่อีก ความหลงไหลในรายละเอียดของการผสมผสานธรรมชาติและสถาปัตยกรรมและความปรารถนาของเขาในการสร้างทุกอย่างด้วยมาตรฐานสูงสุดเพื่อให้ไปด้วยกันได้ดีกับปรัชญาการออกแบบและจรรยาบรรณในการทำงานแบบญี่ปุ่น

เกสท์เฮ้าส์โยโดโกะเปิดให้ประชาชนเข้าชมในวันพุธ,วันหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุดราชการ

หมายเหตุ : บทความนี้ได้รับการรับปรุงใหม่ บทความเดิมลงอยู่ในบล็อกส่วนตัวของผม

Poranut J

Poranut J @poranut.j