ฮิไรสุมิเป็นเมืองชนบทที่สวยงาม ตั้งอยู่ในอิวาเทะตอนล่างและเป็นดั่งประตูที่เปิดสู่ความตระการตาของโทโฮคุและแดนญี่ปุ่นในประวัติศาสตร์ ด้วยการเป็นสถานที่แรกในโทโฮคุที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นมรดกโลกเมื่อปีค.ศ. 2011 ทำให้ฮิไรสุมิเป็นจุดท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดถ้าได้เดินทางมายังตอนเหนือของโตเกียว ในบรรดาวัด สวน และโบราณสถานต่าง ๆ มากมายที่ทำให้ฮิไรสุมิเป็นมรดกระดับโลกนั้น วัดที่ชื่อว่าชูซอนจิมีชื่อเสียงมากที่สุดและเป็นจุดเริ่มต้นการเที่ยวเมืองที่ดีที่สุด การเดินทางเข้าไปสู่ใจกลางของวัดชูซอนจิก็นับว่าเป็นสุดยอดประสบการณ์แล้ว เมื่อมาถึงยังทางเข้าทิศใต้ จะพบกับป่าทึบและจั๊กจั่นส่งเสียงเรไรท่ามกลางอากาศร้อนอ้าวยามกลางวัน และเส้นทางเดินจะลาดชันปูขึ้นไปยังใจกลางของกลุ่มอาคารที่อยู่บนภูเขาคันซาน ซึ่งสามารถเอาไว้ใช้ฝึกวอร์มร่างกายสำหรับโอลิมปิก 2020 ที่โตเกียวได้ถ้าคุณต้องการ! ร่มเงาของผืนป่าจะเป็นหลังคาป้องกันอย่างดีจากความร้อนในช่วงซัมเมอร์ (หรือจากดินฟ้าอากาศอื่น ๆ ตามช่วงที่คุณไปเที่ยว) และจะมีเครื่องขายของอัตโนมัติอยู่ตามรายทาง (เครื่องพวกนี้จะเนียนไปกับธรรมชาติรอบด้านด้วยลายรูปไม้ที่ทำให้กลมกลืนสบายตา และเหมาะสำหรับซื้อโพคารี่สเวทเพื่อเติมพลัง)
คุณสามารถแวะไปชมศาลาใหญ่ฮอนโดะก่อนก็ได้ แต่ถ้าคุณไปต่อทางฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือ ก็จะได้พบกับคอนจิคิโดะหรือศาลาทองอันโด่งดัง ซึ่งเป็นฮวงซุ้ยขนาดใหญ่ที่สร้างจากไม้และปกคลุมด้วยใบไม้สีทองอันสวยงามตรึงตา นับเป็นผลงานชั้นเลิศทั้งในแง่ศิลปะและสถาปัตยกรรม โดยยังเป็นตัวอาคารหลังเดิมกับที่สร้างเสร็จเมื่อปี 1123 และเป็นอีกหนึ่งจุดที่ต้องแวะชมให้ได้ เมื่อคุณออกจากคอนจิคิโดะมาจนถึงหัวมุม ก็จะพบกับอาคารหลังสุดท้ายในที่แห่งนี้ซึ่งยังเป็นอาคารหลังเดิมกับในวันที่ถูกสร้างขึ้น นั่นก็คือหอพระสูตร แม้อาจจะไม่สง่างามเท่ากับคอนจิโคโดะ แต่คุณจะสัมผัสได้ถึงความเก่าแก่และหวนสู่ประวัติศาสตร์ในบริเวณนี้ได้อย่างชัดเจนกว่า และจากตรงนี้ แนะนำให้เดินเที่ยวต่อแบบวนตามเข็มนาฬิกาเพื่อเก็บวิวให้ครบทุกที่ ทางฝั่งเหนือของหอพระสูตรที่ยอดเขาคันซานคือร้านอาหารเล็ก ๆ ที่ยิ่งใหญ่ชื่อว่าคันซานเทย์ ซึ่งไม่ได้เป็นที่กินหรือที่พักผ่อนชั้นยอด แต่ว่าเป็นจุดชมวิวฝั่งตะวันออกของฮิไรสุมิที่สวยสะกดลมหายใจและเหมาะแก่การมาแวะชมในวันที่อากาศแจ่มใส และตรงนี้คุณก็จะได้พบกับศาลเจ้าฮาคุซันซึ่งกล่าวกันว่าเป็นอาคารหลังแรกที่ถูกสร้างขึ้นในบริเวณนี้ รวมไปถึงละครเวทีญี่ปุ่นโบราณโนกากุที่อยู่ด้านนอก ถ้าคุณไปเที่ยวในช่วงเทศกาลฟูจิวาระตอนฤดูใบไม้ผลิหรือฤดูใบไม้ร่วง (วันที่ 1-5 พฤษภาคม และ 1-3 พฤศจิกายน) คุณอาจจะโชคดีได้ชมการแสดงละครโนด้วย
สิ่งที่ทำให้การไปเที่ยววัดชูซอนจิเป็นประสบการณ์สุดพิเศษนั้นไม่ใช่แค่เพียงเรื่องของประวัติศาสตร์ หากแต่เป็นความใกล้ชิดอบอุ่นของอาคารทุกหลัง อีกทั้งวิวสวยสุดใจและถ้าปีนเขาคันซานก็จะได้พบกับวัดศาสนาพุทธ แล้วไหนจะยังแผงลอยกับร้านค้าจำนวนมากที่ช่วยเติมเต็มประสบการณ์แต่ไม่ทำลายความเป็นประวัติศาสตร์และกีดขวางทางเดินเหมือนสถานที่ท่องเที่ยวบางแห่ง
คุณสามารถเดินทางไปยังฮิไรสุมิได้ด้วยรถไฟชินคันเซนเจอาร์โทโฮคุจากโตเกียวไปอิชิโนะเซนกิ (2 ชั่วโมง 10 นาที) และเปลี่ยนขบวนไปเจอาร์โทโฮคุสายหลักเพื่อไปยังฮิไรสุมิ (8 นาที) มีรถบัสรับส่งระหว่างสถานีกับวัดชูซอนจิ หรือไม่ก็เดินเป็นเวลา 20 นาทีไปถึงทางเข้า ถ้าคุณเช่ารถมา ก็มีที่จอดรถขนาดใหญ่อยู่ที่ฝั่งทิศใต้ของภูเขา ถ้าจะเข้าชมคอนจิกิโดะ (ศาลาทอง) ต้องเสียค่าเข้า 800 เยน ส่วนจุดอื่น ๆ นั้นชมได้ฟรีตามสะดวก