แม้พื้นที่ส่วนใหญ่ในญี่ปุ่นจะสามารถเดินทางไปถึงได้ด้วยรถไฟ แต่ก็มีอยู่บางบริเวณที่ต้องใช้ความพยายามมากกว่านั้น ซึ่งก็คุ้มค่าแก่วิวอันแสนตราตรึงกับธรรมชาติที่อยู่ห่างจากสถานที่ท่องเที่ยวแสนวุ่นวาย
ชายหาดโจโดงาฮามะรายล้อมไปด้วยผืนน้ำลึกสีน้ำเงินอมเขียว ตั้งตระหง่านด้วยก้อนหินสีขาวสูงชันอันสดสวยซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของผืนน้ำตื้นสงบที่เหมาะแก่การมาว่ายในช่วงที่อากาศอบอุ่นอย่างยิ่ง แถมที่นี่ยังติด 100 อันดับสุดยอดชายหาดของญี่ปุ่นและสามารถมีชื่อเสียงโด่งดังได้
แต่ถ้านั่นฟังดูเหนื่อยเกินไปก็สามารถนั่งเรือไปล่องชมถ้ำน้ำเงินที่อยู่ใกล้ ๆติดทะเล หรืออาจจะพักสบาย ๆ ในเรสต์เฮาส์และดูผืนน้ำที่เปลี่ยนสภาพไปตามช่วงเวลาของวัน สภาพอากาศ หรือตามฤดูกาล ตั้งแต่เป็นสีเขียวมรกตจนสีฟ้าสดสว่าง ซึ่งหมายความว่าเหมาะแก่การกลับมาเที่ยวอีกซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ต้นสนที่ขึ้นอยู่รอบทั่วตลิ่งกับปูและปลาเล็กที่แหวกว่ายในแอ่งหินยิ่งทำให้ฉากอันสวยงามนี้สมบูรณ์ กลายเป็นบริเวณที่เหมาะสมกับชื่อ "ปฐพีบริสุทธิ์" ที่ขนานนามไว้โดยพระสงฆ์ชาวพุทธชื่อเรย์เคียวที่รู้สึกว่านี่คือสรวงสวรรค์บนโลกมนุษย์โดยแท้
อย่าลืมเดินไปดูรอบขอบเว้าและชมหินแง่งจากหลาย ๆ มุม อีกทั้งยังมีเส้นทางเดินจำนวนมากที่นำไปสู่จุดชมวิวต่าง ๆ ถ้าอากาศเป็นใจที่นี่ก็คือจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นสุดสวย ที่จะมีเพียงเงาของมหาสมุทรแปซิฟิคอันกว้างใหญ่กั้นตรงกลางระหว่างคุณกับดวงตะวัน
บริเวณนี้ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์สึนามิปี 2011 ทำให้ต้องลดเส้นทางรถไฟไปเป็นจำนวนมาก แต่ว่าท้องถนนกับกับสิ่งอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวนั้นได้รับการฟื้นฟู และแม้ในบางพื้นที่จะยังไม่สมบูรณ์แต่แถบนี้ก็เดินทางมาได้เป็นปกติแล้ว มีศูนย์นักท่องเที่ยวอยู่ใกล้ลานจอดรถซึ่งมีข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับเส้นทางเปิดและทางเดินทั้งหลาย
ลองหาเวลา อาจจะเช่ารถสักคันเพื่อสำรวจบริเวณนี้และทิวทัศน์สวยงามแห่งอื่น ๆ ตามแนวชายฝั่งโทโฮคุ อย่างเช่นหน้าผาคิทายะมาซากิในอุทยานแห่งชาติริคุชู-ไคงันดูสิ