Art House Project นี้เป็นหนึ่งในการแสดงงานศิลปะร่วมสมัยบนเกาะนะโอชิม่า (Naoshima) ที่ดูแลและจัดการโครงการศิลปะทั้งหมดโดยเขตฮอนมูระ (Honmura District) ซึ่งเป็นชุมชนเก่าแก่ดั้งเดิมของเกาะนี้มานาน โปรเจ็คศิลปะนี้ได้นำเอาบ้านเก่าญี่ปุ่นในชุมชนตลอดจนอาคารที่มีเอกลักษณ์มาปรับเปลี่ยนให้เป็นสถานที่แสดงงานศิลปะร่วมสมัยในธีมต่างๆ ตามแต่ศิลปินแต่ละคนจะได้รับแรงบันดาลใจ ตัวโครงสร้างของอาคารภายนอกนั้นยังคงบ้านเก่าดั้งเดิมเอาไว้ทุกประการเพื่อให้ดูกลมกลืนกับชุมชนตามแบบวิถีดั้งเดิมและไม่แปลกแยกจนอาจกลายเป็นขยะทางสถาปัตยกรรมชุมชนไป ยกเว้นผลงาน Haisha ที่ตั้งอยู่ตีนเขาริมชุมชนที่มีการสร้างสรรค์งานศิลปะร่วมสมัยทั้งภายในและภายนอกอาคาร และ Minamidera ที่เป็นการออกแบบสถาปัตกรรมขึ้นใหม่
สำหรับโปรเจ็ค Art House Project นี้เริ่มต้นขึ้นในปี ค.ศ.1998 พร้อมๆ กับการเริ่มโครงการเกาะศิลปะที่ดำเนินการโดย Benesse Crop. ซึ่งบ้านหลังแรกของโปรเจ็คนี้นั้นก็คือ Kodoya โดยศิลปิน Tatsuo Miyajima ซึ่งโปรเจ็คนี้เป็นการทำงานร่วมกับคนในชุมชนอีกด้วย และหลังจากนั้นก็มีอีกหลายๆ โปรเจ็คน่าสนใจตามมา ... โดยโปรเจ็คทั้งหมดใน Art House Project นั้นมีดังนี้
- Kodoya >>> โดยศิลปิน Tatsuo Miyajima ที่สร้างสรรค์งานศิลปะร่วมสมัยภายในบ้านเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 200 ปี อย่างน่าตื่นตากับคอนเซ็ป Sea of Time’98 ซึ่งโปรเจ็คนี้เป็นการทำงานร่วมกับคนในชุมชนอีกด้วย
- Ishibashi >>> โดยศิลปิน Hiroshi Senju ที่เพนท์ผนังบ้านรวมถึงสร้างสรรค์ผลงานศิลปะลงบนประตูบานเลื่อนกระดาษได้อย่างมีมิติลึกซึ้ง
- Kinza >>> โดยศิลปิน Rei Naito กับผลงานศิลปะแบบจัดวางที่น่าค้นหา
- Gokaisho >>> โดยศิลปิน Yoshihiro Suda ที่แฝงความเรียบง่ายไว้ในธีมความเคลื่อนไหว
- Go’o Shrine >>> โดยศิลปิน Hiroshi Sugimoto ที่ทำงานศิลปะกับศาลเจ้าโบราณตั้งแต่สมัยเอโดะออกมาอย่างลงตัวและมีความน่าสนใจอย่างยิ่ง
- Minamidera >>> โดยศิลปิน James Turrell กับ Conceptual Art ที่สร้างความอัศจรรย์ได้อย่างสุดพิเศษ ซึ่งอาคารที่จัดแสดงของ James Turrell นี้ยังเป็นสถาปัตยกรรมที่สร้างสรรค์ขึ้นโดย Tadao Ando อีกด้วย
- Haisha >>> โดยศิลปิน Shinro Ohtake ซึ่งคำนี้ภาษาญี่ปุ่นนั้นแปลว่าทันตกรรม ชื่อนั้นสะท้อนโปรเจ็คที่ได้หยิบเอาตึกเก่าซึ่งเคยเป็นคลีนิกทันตกรรมของท้องถิ่นมาก่อนมาสร้างสรรค์เป็นผลงานศิลปะร่วมสมัยทั้งหลังในชื่อ Dreaming Tongue ที่สร้างความโดดเด่นสะดุดตาได้อย่างมีเอกลักษณ์ทีเดียว
นอกจากนี้ภายในบริเวณเขตฮอนมูระ (Honmura District) นั้นยังมีอีกพิพิธภัณฑ์หนึ่งที่น่าสนใจนั่นก็คือ
- ANDO MUSEUM >>> พิพิธภัณฑ์ขนาดจิ๋วแต่ทว่าสร้างความตื่นตะลึงได้อย่างดีทีเดียว โดยพิพิธภัณฑ์นี้อุทิศให้กับ Tadao Ando สถาปิกชาวญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงก้องโลกผู้เป็นหนึ่งในกำลังสำคัญหลักของการริเริ่มโปรเจ็คเกาะศิลปะแห่งนี้และสร้างสรรค์สถาปัตยกรรมอันโดดเด่นหลายๆ แห่งไว้บนเกาะนี้มากมายอีกด้วย โดยพิพิธภัณฑ์นี้ภายนอกนั้นเป็นบ้านญี่ปุ่นเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 100 ปี ซึ่งยังคงมีการคงโครงสร้างภายนอกในแบบดั้งเดิมไว้อยู่ ส่วนภายในนั้นมีการทำโครงสร้างและออกแบบอาคารใหม่ได้สวยงามน่าหลงใหลซึ่งก็แน่นอนว่าเป็นผลงานของ Tadao Ando ที่สร้างสรรค์เช่นกัน ภายในนั้นมีการจัดแสดงประวัติของ Tadao Ando ตลอดจนภาพร่างโปรเจ็คต่างๆ, โมเดล, ภาพถ่าย ฯลฯ ของผลงานที่สร้างสรรค์โดย Tadao Ando อยู่หลายชิ้น อาทิ Beness Art Site ตั้งแต่เริ่มโครงการจนเสร็จสิ้น ไปจนถึง Church of the Light ที่ Ibaraki อันโด่งดัง เป็นต้น
สำหรับ ART HOUSE PROJECT & ANDO MUSEUM นั้นเสมือนเป็นการทำงานโครงการศิลปะร่วมกันและเชื่อมโยงกันทั้งโปรเจ็คตลอดจนเชื่อมโยงกับชุมชนอีกด้วย ซึ่งบ้านแต่ละหลังของโปรเจ็คนี้ก็จะมีคนในชุมชนประจำการคอยดูแลอำนวยความสะดวกต่างๆ ด้วยเช่นกัน และการชมศิลปะในเขตฮอนมูระนี้เราจะต้องเดินจากบ้านแต่ละหลังไปยังแต่ละหลังซึ่งระหว่างทางนั้นเราก็จะได้สัมผัสกับเสน่ห์ของชุมชนแห่งนี้และธรรมชาติอันงดงามไปในตัว เรียกได้ว่าเป็นทริปศิลปะที่ยอดเยี่ยมซึ่งได้คุณค่าในหลากหลายมิติ
---------------------------------------------------------------
ART HOUSE PROJECT
+ ที่ตั้ง : Honmura District, Naoshima Island, Kagawa District, Kagawa
+ เวลาให้บริการ : อ.-อา. 10.00-16.30 น. / หยุดวันจันทร์
+ ค่าเข้าชม : ค่าเข้าชมรวมทั้งโปรเจ็ค ¥1,030 (ไม่รวมโปรโจค Kinza และ ANDO MUSEUM) / ค่าเข้าชมในแต่ละโปรเจ็ค ¥410 / ฟรี สำหรับเด็กที่อายุตั้งแต่ 15 ปีลงมา
+ ติดต่อ : 087-892-3223 (Benesse House)
ANDO MUSEUM
+ ที่ตั้ง : 736-2 Honmura District, Naoshima Island, Kagawa District, Kagawa
+ เวลาให้บริการ : อ.-อา. 10.00-16.30 น. / หยุดวันจันทร์
+ ค่าเข้าชม : ¥510 / ฟรี สำหรับเด็กที่อายุตั้งแต่ 15 ปีลงมา
+ ติดต่อ : 087-892-3754
+ วิธีเดินทาง :
ขั้นตอนที่ 1 > วิธีเดินทางมายัง Okayama
- JR West (Shinkansen) : สำหรับนักท่องเที่ยว วิธีที่ดีที่สุดก็คือการซื้อ JR Rail Pass หรือ Kansai Wide Area Pass แล้วนั่ง Shinkansen มาลงที่สถานี Okayama
- JR West (Sanyo Main Line) : จาก Osaka เริ่มต้นที่สถานี Osaka Station นั่ง JR Kobe Line หรือ JR Kyoto Line ขบวนที่ลงยังสถานีปลายทาง Himeji > เสร็จแล้วต่อรถไฟ JR Sanyo Main Line ขบวนที่วิ่งระหว่าง Himeji – Itozaki มาลงยังสถานี Okayama
ขั้นตอนที่ 2 > วิธีเดินทางมายัง Uno
- JR West (Uno Line) : จากสถานี Okayama ต่อขบวนรถไฟสาย JR Uno Line มาลงที่สถานีปลายทาง Uno Station
ขั้นตอนที่ 3 > วิธีเดินทางมายัง Naoshima Island
- Shikoku Kisen Ferry : จากสถานี JR Uno Station เดินออกมาแล้วเลี้ยวไปทางขวาราว 5-10 นาที ก็จะถึงท่าเรือเฟอร์รี่ Shikoku Kisen Ferry ที่ข้ามไปยังเกาะ Naoshima Island ให้ขึ้นเรือที่ท่านี้ได้เลย (ท่าเรือใหญ่มีท่าเดียว สังเกตง่าย) แล้วมาลงยังท่าเรือ MIYANOURA
+ วิธีเดินทางภายในเกาะ Naoshima :
- Naoshima Town Bus : บนเกาะนั้นมีรถเมลล์สองสายให้บริการ / แต่คันที่เราจะใช้นั้นก็คือสาย Miyanoura Port, Honmura, Tsutsuji-so ซึ่งจะเป็นสายที่วิ่งไปยังบริเวณสถานที่จัดแสดงงานศิลปะโดยรอบเกาะ
- สำหรับ Art House Project และ Ando Museum นั้นอยู่บริเวณย่าน Honmura ลงที่ป้าย Nokyo-mae แล้วเริ่มเดินชมศิลปะยังสถานที่จัดแสดงต่างๆ ซึ่งจะแทรกตัวอยู่ตามชุมชนโดยรอบ