มีวิธีการมากมายที่คุณสามารถใช้เดินทางไปยังเกาะยาคุชิมะ คุณสามารถบินไปโดยเครื่องบินหรือนั่งเรือเร็วไฮโดรลอยด์ แต่หากคุณเหมือนผม ผมแนะนำให้คุณเดินทางไปโดยเรือเฟอร์รี่ แม้มันจะเป็นวิธีที่ช้าที่สุดที่จะไปยังเกาะยาคุชิมะ แต่ด้วยราคาเพียง 9,200 เยนสำหรับตั๋วแบบไปกลับ (7,900 เยนในช่วง off-season) มันจึง "ถูก" และถูกใจผมที่สุด
เรือเฟอร์รี่รอบแรกออกเวลา 8.30 นาฬิกาของทุกๆวัน โดยจะออกจากท่าทางใต้ของท่าเรือคาโกชิมะ และเดินทางถึงมิยะโนอุระเวลา 12.30 นาฬิกา จากนั้นออกจากมิยะโนอุระหนึ่งชั่วโมงให้หลังเพื่อกลับมายังเมืองคาโกชิมะเวลา 17.40 นาฬิกา มีร้านของที่ระลึกหรือขนมขบเคี้ยวให้คุณได้เลือกซื้อในทุกท่าปลายทาง ซึ่งที่ท่ามิยะโนอุระจะมีศูนย์บริการนักท่องเที่ยวไว้บริการด้วย คุณสามารถหาข้อมูลภาษาอังกฤษเกี่ยวกับตารางเดินรถโดยสารหรือใบปลิวเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจบนเกาะ เช่น ดินแดนยาคุสุกิ และ "ป่าโมโนโนเกะ" ที่ชิราทานิ อันซุยเคียว
เมื่อผมก้าวขาขึ้นมาบนเกาะ เจ้าหน้าที่ในชุดยูนิฟอร์มเข้ามาทักทายผมอย่างเป็นกันเอง จากนั้นผมจึงเดินไปยังฝ่ายต้อนรับเพื่อแลกรับขนมปังโรลชิ้นเล็กๆ จากตั๋วที่ผมได้รับที่ที่ซื้อตั๋วเรือ นอกจากนั้นที่ฝ่ายต้อนรับยังมีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเกาะยาคุชิมะและมีแผนที่ของเกาะวางขายอีกด้วย กลับมาที่การสำรวจเรือเฟอร์รี่และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆบนเรือกันต่อ มีห้อง 2 ห้องไว้สำหรับเด็กๆ มีโรงหนังซึ่งผมคิดว่าคงเอาไว้ใช้ระหว่างการล่องเรือช่วงค่ำ ร้านขายขนมขบเคี้ยว เครื่องดื่มและของที่ระลึก เครื่องขายเบียร์อัตโนมัติ บาร์ขายก๋วยเตี๋ยวขนาดเล็ก รวมถึงห้องเล็กๆที่ภายในมี Slot Machine และเครื่องเล่มเกมไว้บริการ สำหรับผม ผมตัดสินใจพักผ่อนในพื้นที่รับรองของเรือแห่งหนึ่ง เอนหลังและปล่อยใจไปกับการเดินทาง
การเดินทางขาไปของผมเป็นไปอย่างราบรื่น ผมสามารถออกมายืนบนดาดฟ้าเรือและชมทิวทัศน์ของชายฝั่งเกาะต่างๆที่เรือผ่าน นอกจากนั้นผมยังได้เห็นโรงไฟฟ้าพลังงานลมในขณะที่เรามุ่งหน้าไปทางใต้ผ่านอ่าวคาโกชิมะ แต่เมื่อเรือออกไปสู่ทะเลเปิด ลมเริ่มพัดแรง ผมจึงเข้ามาอยู่ภายในเรือและชื่นชมทัศนียภาพผ่านทางหน้าต่างแทน ในขณะที่การเดินทางขากลับนั้นค่อนข้างขลุกขลักพอควร เนื่องจากเวลากว่าครึ่งในการเดินทาง เราถูกโจมตีด้วยคลื่นขนาดใหญ่อย่างต่อเนื่อง เป็นเหตุให้โต๊ะและเก้าอี้ภายในพื้นที่รับรองถูกมัดติดกับพื้นด้วยสายเคเบิ้ลเพื่อความปลอดภัย ผมเจอที่ว่างที่ห่างจากหัวเรือและสามารถนั่งพักได้ ผมจึงเข้าไปรวมกับผู้โดยสารคนอื่นๆและนอนรอจนเรือเข้าสู่เขตคลื่นสงบ โชคดีที่ช่วงท้ายของการเดินทางเป็นไปได้ด้วยดี ผมนั่งอยู่ในพื้นที่รับรองส่วนหน้า กวาดสายตามองผ่านหน้าต่างไปสู่แสงไฟของเมืองคาโกชิมะที่กำลังเคลื่อนใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
ความเร็วและราคาตั๋วเป็นสิ่งที่คุณหลีกเลี่ยงไม่ได้หากจะนำมาเปรียบเทียบถึงความคุ้มค่าเมื่อจะเดินทางไปยังเกาะยาคุชิมะ แต่ถ้าคุณไม่ได้รีบร้อนมากนัก เรือเฟอร์รี่ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีเลยทีเดียว!
