เชื่อกันว่า มีการประดิษฐ์โคมไฟขึ้นใช้ในเมืองโอดาวาระ (Odawara) ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1573 ลักษณะเฉพาะตัวของโคมไฟเหล่านี้ คือ มีราคาถูกและสามารถพับเก็บได้ เนื่องมาจากความพยายามของจินซาเอมอน (Jinzaemon) พ่อค้าชาวญี่ปุ่น โคมไฟโอดาวาระได้กลายเป็นที่รู้จักแพร่หลายไปทั่วประเทศ
โคมไฟโอดาวาระมีรูปลักษณ์ที่แตกต่างกันไป ทั้งในด้านของรูปทรงและขนาด แบบที่เป็นที่นิยมมากที่สุด เห็นจะเป็นแบบทรงกระบอก ที่สามารถพับจากขนาด 30 เซนติเมตรให้เหลือเพียง 5 เซนติเมตร โคมไฟเหล่านี้มีน้ำหนักเบามือ และมีอายุการใช้งานทนนาน ศิลปะการประดิษฐ์โคมไฟชนิดนี้ได้เผยแพร่ไปทั่วประเทศญี่ปุ่น กระนั้น โอดาวาระก็ยังถือเป็นแหล่งของช่างฝีมือชั้นยอด
คุณเองก็สามารถสัมผัสกับประสบการณ์การทำโคมไฟนี้ได้ ด้วยการลงมือประดิษฐ์จริงในโรงเรียนของเอกชนหรือตามศูนย์หัตถกรรม ที่ดีไปกว่านั้นคือ เมื่อทำเสร็จแล้วยังสามารถนำโคมไฟฝีมือตัวเองกลับบ้านได้ด้วย 'บ้านพัก' แห่งนี้ตั้งอยู่ติดกับสถานีโอดาวาระ ห่างจากตัวปราสาทโอดาวาระเพียงไม่กี่เมตร กิจกรรมการทำโคมไฟนี้เปิดให้คนทั่วไปเข้าร่วมตามระยะเวลาที่กำหนดในแต่ละเดือน ทุกทุกวันจันทร์ที่สองและวันเสาร์ที่สี่ของเดือน จะมีวิทยากรมาคอยแนะนำการประดิษฐ์โคมไฟอย่างใกล้ชิดในแต่ละช่วง ตลอด 90 นาที โดยคิดค่าธรรมเนียมเพียง 1,000 เยน ซึ่งนับว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่สมเหตุสมผลเมื่อพิจารณาจากราคาวัสดุที่ใช้ อีกทั้งเรายังสามารถนำกลับบ้านได้เลยด้วย!
สำหรับผมเอง นี่ถือเป็นช่วงเวลาที่ดีมาก อาจถือว่าเป็นสุดยอดประสบการณ์ในจังหวัดคะนะงะวะ ผมได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นตั้งแต่ก้าวเข้ามาในบ้านหลังนี้ เหล่าวิทยากรต่างก็อัธยาศัยดีอย่างที่สุด และถึงแม้พวกเขาจะไม่ได้พูดภาษาอังกฤษมากนัก แต่ก็สามารถชี้แนะให้ผมประดิษฐ์โคมไฟขึ้นมาได้ทันที
ขั้นตอนแรกของการประดิษฐ์ คือการเลือกรูปแบบ ผมเลือกรูปปราสาท วิทยากรจะจัดเครื่องไม้เครื่องมือ และชิ้นไม้ให้กับคุณ จากนั้นจะสาธิตให้ดูการขึ้นรูปไม้ ให้โค้งงอและสร้างวงกลมขึ้นมา หลังจากทำเช่นนั้นได้ 12 วง ก็ถือได้ว่าคุณมีโครงร่างของโคมไฟพร้อมแล้ว
ขั้นตอนต่อมายิ่งง่ายกว่าเดิม คุณเพียงแค่ทากาวติดโครงที่ว่านั้น และค่อยๆ ม้วนกระดาษพันรอบ
ขั้นสุดท้ายคือการเพิ่มฐาน 2 ด้าน โดยการใช้เข็มปักก้นของโคมไฟไว้กับฐานและปิดทับ ตากไว้ให้แห้งเป็นเวลา 20 นาที จากนั้นก็สามารถพับเก็บและนำกลับบ้านได้เลย
การทำโคมไฟเป็นกิจกรรมที่สนุก และคุณสามารถสร้างสรรค์รูปแบบและดัดแปลงมันได้มากมายหลากหลายทาง แต่ก่อนอื่น คุณต้องปรึกษากับวิทยากรก่อน ด้วยค่าใช้จ่ายเพียง 1,000 เยน อาจก่อให้เกิดประสบการณ์ทำงานหัตถกรรมของแท้ที่ดีที่สุดที่คุณอาจหาได้ในประเทศญี่ปุ่น ก็เป็นได้