การเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์เจ้าชายน้อยที่ฮาโกเนะทำให้ฉันหลุดเข้าไปในโลกของนวนิยายที่สุดแสนจะโด่งดังเรื่องนี้ พิพิธภัณฑ์ถูกตั้งขึ้นเพื่ออุทิศให้กับผู้แต่งเรื่องเจ้าชายน้อยที่เป็นทั้งนักบินและนักเขียนชาวฝรั่งเศส นามว่า Antoine Saint- Exupéry นั่นเอง ตอนเข้าพิพิธภัณฑ์ คุณจะได้บัตรเข้าชมน่ารักๆเป็นรูปเจ้าชายน้อย พร้อมทั้งแผนที่ที่ถูกบรรจงพับเป็นรูปทรงกุหลาบ เข้าไปด้านในเป็นจำลองแบบที่ดินของขุนนางฝรั่งเศส รายล้อมด้วยหมู่บ้านที่มีสเน่ห์แบบโบราณ ทั้งยังมีป้ายเป็นภาษาฝรั่งเศส อาทิ le pain, la chocolat ประดับประดาอยู่หน้าร้าน
บริเวณจัดแสดงถูกทำออกมาในรูปของโรงละครเรื่องเจ้าชายน้อย ทั้งยังมีโรงละครขนาดเล็กที่ดูเหมือนถ้ำ บอกเล่าเรื่องราวย่อๆของหนังสือเล่มนี้ ทั้งหมดล้วนเป็นภาษาญี่ปุ่น แต่ฟิล์มหนังส่วนใหญ่ยังถอดมาจากภาพวาดแบบดั้งเดิมของเจ้าชายน้อย ซึ่งสำหรับฉันแล้ว มันน่ารักมากๆเลยล่ะค่ะ ผลงานที่นำมาโชว์นั้นถูกไล่เรียงตามลำดับช่วงชีวิตของผู้เขียน ตั้งแต่ครั้งยังเด็กที่เมืองลีองของประเทศฝรั่งเศส ไปจนถึงสถานที่ต่างๆทั่วโลกเมื่อตอนเป็นนักบิน และที่นิวยอร์ค ที่ซึ่งเขาเป็นสมาชิกของ Free French Air Force ก่อนที่จะหายตัวไปอย่างลึกลับในปี 1944 ที่นี่มีทั้งจดหมายที่เขียนด้วยลายมือ รูปภาพหายากมากมายจัดแสดงทำให้หวนนึกถึงช่วงเวลาเก่าๆของผู้เขียนอีกด้วย
ถัดมา เป็นบริเวณหลักที่ใช้จัดแสดงนวนิยายเลื่องชื่อของเขา มีการบอกเล่าที่มาที่ไปของตัวละครแต่ละตัว แรงบันดาลใจที่ทำให้สร้างสรรค์ผลงานระดับโลกชิ้นนี้ รวมถึงสถานที่ที่เป็นฉากในเรื่องนั้น เทียบกับสถานที่จริงในโลกปัจจุบัน และส่วนสุดท้าย มีการแสดงตัวอย่างนวนิยายที่ถูกแปลเป็นภาษากว่า 250 ภาษาทั่วโลก
หลังจากท่องอยู่ในโลกนวนิยายพักใหญ่ ฉันก้าวออกมาด้วยความรู้สึกล่องลอยพร้อมทั้งมีวลีอมตะของผู้เขียนดังก้องอยู่ในหัว “On ne voit bien qu'avec le cœur. L'essentiel est invisible pour les yeux.” เราจะมองเห็นแจ่มชัดด้วยหัวใจเท่านั้น สิ่งสำคัญนั้นไม่อาจเห็นได้ด้วยดวงตา
นอกจากจะมีร้านขายของที่ระลึกแล้ว ที่นี่ยังมีร้านอาหารและคาเฟ่สไตล์ฝรั่งเศสให้ผู้เยี่ยมได้ยืดเวลาอยู่ในโลกนวนิยายต่อไปได้อีกหน่อย ที่จริงแล้วแถวๆนี้ มีพิพิธภัณฑ์มากมายที่น่าเข้าไปชม แต่หากคุณเป็นแฟนคลับเจ้าชายน้อยล่ะก็ ฉันบอกได้เลยว่าคุณต้องมาที่นี่ให้ได้ค่ะ