ทางเข้าร้านโยอิเทอิ (เครดิตรูปภาพ: Sonia Ortiz)

ร้านราเม็งโยอิเทอิ, เมืองโยโกฮามา

มิโซะราเม็งและเกี๊ยวน้ำแสนอร่อยในย่านยามาเตะ

ทางเข้าร้านโยอิเทอิ (เครดิตรูปภาพ: Sonia Ortiz)
Ratthee Rueangpisansin   - ใช้เวลาอ่าน 1 นาที

ความฟินท่ามกลางสายลมหนาว

ราเม็งอาจเป็นอาหารที่แสนจะธรรมดาที่เราทานเพื่อประทังชีพในเวลาที่เร่งรีบ แต่ที่ร้านโยอิเทอิ ราเม็งคือสุดยอดความฟินในคืนวันอันหนาวเหน็บของเหมันต์ฤดู ในร้านราเม็งเล็กๆบนถนนฮนโมกุ-โดรินี้ หยิบยื่นความสุขในรูปแบบของชามราเม็งให้แก่ผู้คนที่อาศัยในย่านนี้ ทั้งยังเผื่อแผ่ให้แก่นักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมเยือนถนนที่ดูเหมือนไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นเส้นนี้ด้วย

ราเม็งร้านนี้มีอะไรดี?

เพื่อนๆ สามารถเดินจากไชน่าทาวน์มาที่ร้านโยอิเทอิ โดยใช้เวลาเดินเท้าเพียง 15 นาที หรือน้อยกว่านั้นถ้ามาจากสถานียามาเตะ ร้านนี้เค้าเซียนเรื่องการทำมิโซะราเม็ง พอเข้ามาในร้านเท่านั้นแหละค่ะ ปากเราก็พูดขึ้นมาอัตโนมัติเลยว่า "นัตโตะราเม็ง โอเนไกชิมัส (ขอราเม็งถั่วหมักค่ะ)” ฟังดูแล้วอาจจะดูเป็นการผสมผสานที่ดูประหลาดไปหน่อยหากเพื่อนๆไม่เคยลองกัน แต่สำหรับเพื่อนๆที่คุ้นเคยกับถั่วหมักดี รับรองว่าไม่ผิดหวังค่ะ หรือถ้าเอาชัวร์หน่อย ลองสั่งชาชูราเม็งนะคะ เป็นราเม็งที่มีเนื้อหมูชาชูค่ะ ทั้งสองชามนี้ราคาสบายกระเป๋ามากๆค่ะ เพียง 850 เยนเท่านั้น (แต่ถ้างบจำกัดกว่านี้ ก็มีราเม็งรสโชยุและเกลือค่ะ ที่ราคาถูกลงมาหน่อย แต่อร่อยไม่แพ้กัน)

นอกจากความอิ่มอร่อยที่พ่อครัวพิถีพิถันในทุกชามแล้ว หน้าตาราเม็งก็ดูดีด้วยนะคะ การผสมผสานของสีน้ำตาลอ่อนของน้ำซุปมิโซะ, เส้นราเม็งแบบบางสีเหลืองทอง ต้มจนสุกพอดี ตรงตามขนบของชาวอิตาเลียนที่ว่า "Al dente*” และสัดส่วนที่พอเหมาะของสีเขียวอ่อน สีขาว และสีส้ม จากผักสด ที่ผ่านการผัดเพียงชั่วครู่เพื่อรักษาความกรุบกรอบของผัก

*Al dente คือระดับความสุขของเส้นพาสต้า ที่ต้มจนสุกพอดี ไม่แข็งไปหรือนิ่มไป กัดแล้วเส้นขาดพอดีค่ะ

สภาพในร้านเป็นอย่างไร?

อันดับแรกเลย พูดได้ว่าร้านนี้เป็นร้านสบายๆ ที่เชิญชวนทุกท่านให้แวะเข้ามาเยี่ยมเยือน เรียบหรูตามสไตล์ร้านราเม็งญี่ปุ่นสำหรับคนท้องถิ่น ในร้านตกแต่งด้วยไม้สีทึบ มีมุมประดับตกแต่งแบบเซ็นและการจัดแสงแบบเบาๆ ดูอบอุ่น

ความสะอาดเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของร้านนี้ ในร้านมีแผงกระจกกั้นระหว่างเคาน์เตอร์และบริเวณครัว หากเพื่อนๆมาคนเดียว หรือมากับเพื่อนอีก 1-2 คน เพื่อนๆสามารถนั่งตรงเคาน์เตอร์ที่มีโต๊ะยาว รองรับลูกค้าได้ 10 ท่าน หรือถ้ามากันเป็นกลุ่มใหญ่ ทางร้านก็มีบริเวณด้านหลังให้นั่ง ซึ่งรองรับลูกค้าได้อีกประมาณ 10 ท่าน ส่วนตัวแล้ว โต๊ะโปรดเราอยู่ตรงเคาน์เตอร์ค่ะ มีอยู่ตัวนึงที่ดูเหมือนถูกดูดเข้าไปในกำแพง เป็นส่วนตัวดีค่ะ

พนักงานและเกี๊ยวน้ำก็เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์!?

เอาจริงๆเลยนะ เราเคยลองไปขอเก้าอี้มานั่งหน้าเคาท์เตอร์เพื่อดูเชฟเค้าทำอาหารด้วยล่ะ ที่ไปดูเนี่ย ไม่ใช่เพราะว่าจะไปดูผมที่ย้อมจนเป็นสีบลอนด์จ๋าของเชฟหรอก (ซึ่งก็น่าดูอยู่นะ) แต่จริงๆแล้วอยากจะนั่งดูความสามารถและความรักในการทำอาหารของเค้า มันเปล่งออร่าออกจากตัวมาเลยล่ะ ตอนที่เค้าคนเครื่องปรุง เค้าไม่ใช้แค่แขนนะคะ เค้าใช้ทุกส่วนของร่างกายเลย เราจ้องเค้าอยู่ตั้งสองครั้งแน่ะ (พยายามจะจำกระบวนท่าในการคนของเค้า) ภรรยาของเค้าก็เก่งเหมือนกัน เธอเป็นคนเดินอาหารและเก็บโต๊ะ แล้วยังเป็นคนปรุงดาวเด่นอีกอย่างของร้าน นั่นก็คือ เกี๊ยวทั้งสองแบบ แบบแรกคือ เกี๊ยวน้ำอันโด่งดังของร้าน (Sui-gyoza) ต้มในกระทะเหล็กขนาดใหญ่แบบเดียวกับที่ต้มบะหมี่ และอีกแบบคือ เกี๊ยวซ่าทอด (yaki-gyoza) ทอดในกระทะกลมขนาดใหญ่ เกี๊ยวซ่า 5 ชิ้น ราคา 400 เยน หรือถ้าอารมณ์ยังค้าง เพื่อนๆสามารถซื้อกลับไปทำเองที่บ้านก็ได้นะคะ

ทำใจไว้นิดนึง

หากอยากมาลิ้มรสความอร่อยของร้านนี้ เพื่อนๆอาจจะต้องรอคิวนานกว่าปกตินิดนึง แล้วก็ไม่มีไข่ต้ม สาหร่าย กระเทียม หรือชาเขียวให้เติมฟรีๆเหมือนร้านอื่นนะคะ แต่ไม่เป็นไรค่ะ ไม่ถือว่าเป็นจุดบกพร่องร้ายแรงของร้านหรอกค่ะ เพราะเมื่อก่อนเค้าเคยพยายามจะทำการปรับเปลี่ยน โดยการจ้างพนักงานเพิ่มขึ้น เพิ่มรายการอาหารในเมนู หรือเพิ่มพื้นที่เพื่อทำราเม็ง แต่การปรับเปลี่ยนนี้ไม่ประสบความสำเร็จค่ะ เพราะสูตรความอร่อยแบบออริจินัลเป็นสิ่งที่เค้าตัดสินใจคงเอาไว้ พร้อมกับคุณภาพความสดใหม่ของอาหารที่เตรียมขึ้นทันทีที่ลูกค้าออเดอร์ค่ะ (สิ่งเดียวที่เตรียมไว้ก่อนมีเพียงแค่เนื้อหมูค่ะ)

ไม่ว่าในการเดินทางมาญี่ปุ่นนี้ เพื่อนๆจะตั้งเป้าหมายที่จะพยายามเฟ้นหาร้านราเม็งที่แตกต่างแหวกแนวหรือร้านราเม็งหน้าใหม่ที่โผล่ขึ้นมาทุกอาทิตย์ ร้านโยอิเทอิไม่ทำให้เพื่อนๆผิดหวังแน่นอนค่ะ

อิทาดากิมัส! (ทานแล้วนะคะ!)

แปลจาก YoiTei Ramen Restaurant, Yokohama

โดย Sonia Ortiz

Ratthee Rueangpisansin

Ratthee Rueangpisansin @ratthee.rueangpisansin