คุณเคว้งคว้างอยู่ที่สนามบินคุมาโมโตะเพราะอีกหลายชั่วโมงก่อนเครื่องจะออกใช่ไหม? ไม่ต้องกังวลไป โบกแท็กซี่แล้วเดินทางไปยังตีนเขาอาโสะเพื่อชมน้ำตกชิไรโตะดูได้
ถัดไปจากรันเวบ์ของสนามบินคุมาโมโตะมีไร่นาที่อดมสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัดตั้งอยู่ ท้องทุ่งเต็มไปด้วยพืชผักกับหมู่บ้านเล็ก ๆ และข้าวเปลือกสีเหลืองอร่าม นั่งรถไปภูเขาแค่สิบหานาที (มีป้ายบอกทางอย่างดี แต่ป้ายสุดท้ายเป็นญี่ปุ่นล้วน) จะพาคุณเข้าไปสู่หุบเขาที่มีน้ำตกชิไรโตะพ่นน้ำลงสู่แอ่งใสด้านล่าง มีที่ให้จอดรถหรือให้แท็กซี่รอได้ก่อนเข้าหุบเขา เดินไปไม่กี่เมตรบนทางแคบ ๆ และจ่ายค่าเข้าชม (100 เยน ให้หยอดเอง) ใส่ไว้นกระป๋อง
แค่ริมถนนก็มีจุดถ่ายรูปสวย ๆ แล้ว แต่ถ้าอยากสัมผัสละอองน้ำตกจริง ๆ ก็เดินข้ามสะพานแล้วขึ้นบันไดไปฐานน้ำตก ซึ่งจะมีความสวยเท่ากันโดยไม่จำเป็นต้องเดินขึ้นลงเพื่อหามุมดี ๆ ช่วงหน้าร้อน ไอหมอกจากหุบเขานั้นทำให้สดชื่นมาก ส่วนในช่วงฤดูหนาวที่นี่อุณหภูมิจะต่ำกว่าบริเวณอื่น ๆ สวมชุดมาให้พร้อม
ถ้าคุณมีเวลาเดินสำรวจ เส้นทางข้ามถนนจะพาไปลอดใต้ซุ้มโทริอิและเลียบริมฝั่งธารน้ำเชี่ยว มีซุ้มกับโต๊ะไว้ให้ปิคนิค แต่ช่วงวันหยุดฤดูร้อนคงต้องแย่งที่กันหน่อย ถ้าอยากได้วิวสูงขึ้นมาหน่อย ให้ขึ้นบันไดที่อยู่ต่อจากสะพาน เส้นทางที่ได้รับการดูแลอย่างดีนี้จะพาขึ้นไปยังแท่นชมวิวใต้ร่มเงา ส่วนตัวแล้วฉันว่าด้านล่างน้ำตกดูสวยกว่า แต่ถ้าคุณอยากยืดเส้นยืดสายสักหน่อย เส้นทางนี้ก็จะยาวต่อไปเหนือเนินเขาพร้อมวิวสุดสวยของย่านชนบทคุราโมโตะ
วันหยุดสุดสัปดาห์ส่วนใหญ่ที่ร้านค้าใกล้สะพานจะมีชาและกาแฟขาย บางครั้งก็จะมีโซบะด้วย ส่วนในฤดูร้อนจะได้ลิ้มชิมรสนางาชิ โซเมน บะหมี่แป้งเส้นบางที่จะทำให้คุณสดชื่นจากน้ำในปล่องไผ่ ถือเป็นการทดสอบใช้ตะเกียบไปในตัว ถ้ามือไม่คล่องพอ ก็ต้องทนหิวกลับไป
ถ้าครั้งต่อไปคุณมาที่สนามบินคุมาโมโตะและเหลือเวลาเยอะจนไม่รู้จะไปทำอะไร ก็อย่าไปร้านค้าหรือร้านอาหารธรรมดา ๆ เลย มาออกผจญภัยทิวทัศน์สุดตราตรึงของคุมาโมโตะที่ยังไม่ค่อยโด่งดังนักจะดีกว่า