หลายล้านปีที่แล้วก่อนที่จะมีปราสาทญี่ปุ่น เช่น ฮิเมจิและนาโกย่า คุณสามารถเห็นป้อมปราการบนเกาะคิวชูได้ ปราสาทเก่าแก่เหล่านี้อาจจะไม่ได้น่าประทับใจเหมือนกับป้อมปราการแต่ว่าก็มีบทบาทสำคัญในสำหรับศาลยามาโตะศตวรรษที่ 7 ของญี่ปุ่น เนื่องจากเป็นสิ่งแรกๆที่ป้องกันการรุกรานจากเอเชียแผ่นดินใหญ่ เนื่องจากมีการก่อการเมืองโดยศาลจักรวรรดิที่ไดไซฟุในเขตฟุกุโอกะปัจจุบัน ทำให้มีปราสาทมากมายที่ป้องกันเมืองหลวงของเกาะคิวชู
ทุกวันนี้ คุณจะไม่ค่อยมีโอกาสได้ก้าวมาในปราสาทมากนัก เนื่องจากมีการคุกคามจากจีนและเกาหลีทำให้ตึกส่วนมากไม่ได้รับการซ่อมแซม อย่างไรก็ตาม เมืองคิคูจิในคุมาโมโตะมีส่วนที่เป็นที่ตั้งของปราสาทโบราณสร้างขึ้นใหม่โดยต้องขอบคุณวัตถุที่ขุดเจอโดยนักโบราณคดีในปี 1967
หอคอยกลองแปดเหลี่ยมเป็นสิ่งแรกที่คุณจะเห็นเมื่อไปถึงสวนปราสาทคิคูจิ หอคอยสร้างใหม่ตั้งอยู่ท่ามกลางยุ้งฉางข้าวและทิวเขา ที่นี่เป็นตึกที่สูงที่สุดบนพื้นที่กว้าง แต่ก็ไม่ใช่ตึกเดียว ใกล้ๆกับตึกแห่งนี้มีโกดังสี่เหลี่ยมซึ่งเป็นที่ที่นักโบราณคดีขุดเจอซากข้าวฟอสซิล ทั้งๆที่ ไม่มีตึกใดอนุญาตให้เข้าได้จริงๆ ผู้มาชมสามารถเข้าชมส่วนต่างๆได้ฟรี
นอกจากนี้ ยังมีเสาคอนกรีตในสถานที่ที่แห้งแล้วอีกด้วย ส่วนที่ยื่นออกมาเป็นจุดบอกสถานที่ตั้งอายุเป็นพันปีจากตึกที่ยังไม่ได้รับการตั้งชื่อ เราพบว่ามีตึก 72 แห่งที่ค้นพบในการขุดปี 1967
เราพบว่ามีทานเดินมากมายผ่านสวนสาธารณะซึ่งบางเส้นทางนำไปสู่โต๊ะปิกนิกที่ห่างออกไปเป็นไมล์ๆจนทำให้คุณแทบจะไม่เห็นขอบตึกเลย สวนสาธารณะปราสาทคิคูจิเป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมสำหรับการทานกลางวันปิกนิกในวันที่แดดจ้า
ที่นี่มีพิพิธภัณฑ์เล็กๆแต่ว่าไม่มีข้อมูลภาษาอังกฤษ ความแตกต่างทางภาษาก็ไม่ได้ทำให้พนักงานมีปัญหาใดและพวกเขาสามารถแจกใบปลิวเป็นภาษาอังกฤษและพยายามอธิบายเกี่ยวกับการแสดงนิทรรศการของพิพิธภัณฑ์ ถ้าคุณไม่อยากกลับไปที่เมืองคิคูจิแค่เพียงไปหาของกิน ที่นี่มีร้านอาหารที่เสิร์ฟ ดันโกจิรุ (ซุปก๋วยเตี๋ยวไก่พร้อมผักท้องถิ่น)