'คุณอยากลองดื่มชาเขียวรสเค็มมั้ย' เจ้าของร้านท่าทางร่าเริงถาม ผู้เขียนคิดว่าเขาน่าจะเป็นนักเภสัขหรืออะไรสักอย่าง จนต้องขอชิมเป็นครั้งที่สอง
ผู้เขียนคิดอยู่เสมอว่าชาเขียวนั้นมีรสขมนิดๆ ขมเผื่อนๆที่เข้ากันได้ดีกับขนมรสหวานของญี่ปุ่น ดังนั้นรสเค็มนั้นไม่ใช่สิ่งที่นึกถืงเมื่อพูดถึงชา แต่สิ่งที่ผู้เขียนชิมนั้นมีรสชาติที่อร่อย และแปลกไม่เหมือนใคร รสเค็มเหมือนสาหร่าย สำหรับห่อซูชิ หลังจากออกจากร้าน ผู้เขียนกลับรู้สึกหิว และชักจะติดใจชานี่เสียแล้ว ลองถามคุณอากิ ผู้ริเริ่มฟาร์มชา หลังจากค้นพบความสุขจากการดื่มชาจากเกียวโต
ประสบการณ์ชิมชาของผู้เขียน กับ เจ้าของร้านขายชา กลางตลาด ไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ โดยเฉพาะกับคณะทัวร์ เพราะสถานที่นี้ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวผ่าน มีแต่แม่บ้านที่มาซื้อของจำพวกเต้าหู้ ปลาแม๊คคอเรลเป็นกิจวัตร เด็กๆเล่นเกมส์โต๊ะอยู่ที่ร้านเกมส์หลังเลิกเรียน ส่วนคุณปูคุณย่าก็พูดคุยกับเจ้าของร้านโปรด ผู้เขียนยังสงสัยเหมือนกันว่าจะมีใครในที่นี้ที่ใช้ภาษาอังกฤษได้บ้างในด้านในเขตชานเมืองของเกียวโต แต่คนกรุงเก่าของญี่ปุ่นนั้นมีอัธยาศัยดีเป็นอย่างมาก ทั้งไมตรีจิตจากรอยยิ้มและการกระทำ และแน่นอนการให้ชิมของต่างๆ หากคุณต้องการหลีกหนีจากแหล่งท่องเที่ยวที่วุ่นวายจากทัวร์รสบัส และมาสัมผัสวิถีชีวิตของคุณวาตานาเบะ คุณอาจจะได้รับประสบการณ์การชิมชาแบบที่ผู้เขียนได้รับ เพื่อนำไปเป็นความทรงจำจากการท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่ไม่รู้ลืม
ระว่างจิบชาในหลายวันให้หลัง ผู้เขียนคิดได้ว่าคงจะต้องใช้เวลานานอาจจะชั่วชีวิตเพื่อที่จะได้เป็นผู้เชียวชาญทางด้านชา ดังที่คุณ โซเซกิ ได้เขียนไว้ในหนังสือของเขา ที่ชื่อ The Three Cornered Word ว่า ''สำหรับผู้ที่ชอบความผ่อนคลายสบายตัว ไม่มีเวลาไหนที่จะรื่นรมย์ได้กับการได้ลิ้มรสน้ำทิพย์ที่ไหลรินจากหยดสู่หยดสู่ปลายลิ้น หลายคนได้พูดถึงการดื่มชา แต่นี่เป็นข้อผิดพลาดอย่างหนึ่ง เมื่อได้ลิ้มรสชาที่บริสุทธิ์เพียงนิดเดียวมันจะแผ่ซ่านไปทั่วลิ้น คุณจะไม่รู้สึกอยากที่จะกลืน แต่ใช้เวลาที่จะลิ้มความหอมของชาเดินทางผ่านไปเรื่อยให้รสชาลงไปที่ลำคอจนไปถึงกระเพาะ''
ในญี่ปุ่นในหลายภาค หลายท้องถื่น จะมีลักษณะพิเศษของชาแตกต่างกันไป เช่น เซนฉะ โฮจิฉะ เกียวคูโระ และ เกนฉะ จากสถานที่อย่าง เมืองนิชิโอะในไอจิ เมืองวาซูคะในเกียวโต และ หุบเขาทางตอนใต้ของเมือง อาโซซัน ในคุมาโมโต เกียวคูโระ มักจะได้สมญานามว่า เป็น เอสเพรสโซ่ในภาคชา ชาเกียวคูโระให้รสชาติที่เข้มข้น โดยเฉพาะจากการบังแสงอาทิตย์ก่อนเก็บเกี่ยว ซึ่งจะทำให้จำนวนสารต้านอนุมูลอิสระ และวิตามินมีความเข้มข้นมากขึ้น ความเต็มเปี่ยมของลักษณะต่างๆที่เรียกว่า อุนามิ ทำให้นึกถึง สาหร่ายทะเล การชงชาเกียวคูโระ นั้นอาจจะมองได้ว่าเป็นศิลปะแขนงหนึ่ง เพราะ หากเทนำ้เดือดลงไปที่ชาตรงๆจะทำให้รสชาติเสีย เหมือนกาแฟ การจุ่มหรือชงชาในขั้นตอนแรก ควรให้น้ำคลุมใบชาที่อุณหภูมิ 40 องศา จะได้น้ำชาเพียงจำนวนน้อย แต่จะได้เป็นหยดๆเหมือนเม็ดไข่มุก รสชาติของชาที่ได้จะหวานเหมือนน้ำผัก คุณจะสามารถได้รสชาติที่แตกต่างในการรินน้ำชาออกมาในครั้งที่สาม ในครั้งที่สี่รสชาที่ได้จะมีความสมดุลของรสชาติมากที่สุด เปรียบเหมือนกับการที่ใบชาได้อาบน้ำและค่อยๆปล่อยรสชาติออกมาผ่านน้ำร้อน และปลดปล่อยรสชาติที่สวยง่มล้ำลึกออกมาในที่สุด หรือที่คุณโซเซกิเขียนไว้ว่า ชาเกียวคุโระจะเปลี่ยนจากรสชาติที่เหมือนไม่มีอะไรให้มีความพิเศษโดยไม่ต้องใช้ความพยายามมากนัก เขายังกล่าวต่อไปอีกว่า บางคนอาจจะบ่นว่ายามเมื่อดื่มชา จะรู้สึกนอนไม่หลับ แต่ว่าการที่ไม่ได้นอนยังดีกว่าไม่ได้ดื่มชา
ความคิดที่ว่าการที่เราเกิดความรื่นรมย์กระฉับกระเฉงตลอดเวลาจากการได้ดื่มชาเลิศรส และสาหร่าย ทำให้นึกถึงอาหารพิเศษอีกประเภทคือ โอชาซูเกะ ที่เป็นของทานเล่น โดยการเทน้ำชาร้อนลงไปยังข้าวสวย และปรุงรสด้วยสาหร่ายและผงปลาแซลมอน
ร้านชาอันแสนพิเศษที่ผู้เขียนค้นพบนั้น ตั้งอยู่ที่ อาคาร มุโกะมาชิ อีออน ชั้นหก ทางด้านศูนย์การค้า ในเมืองมุโกะ ตัวเมืองมุโกะเองนั้นอยู่ค่อนไปทางตัวตัวตกเฉียงใต้ของเกียวโตประมาณหกกิโลเมตร และเป็นจุดเริ่มต้นของรถบัสสาย 66 เดินทางไปยังเส้นทางขึ้นภูเขาโบราณสู่ วัดจูรินจิ และ วัดโยชิมิเนะ เดระ วัดโยชิมินะเดระ เป็นวัดในเส้นทางแสวงบุญ ไซโซคุ (33แห่ง) หรือ ที่เรียกในภาษาญี่ปุ่นว่า Saikoku Sanjusansho junrei
การเดินทางด้วยรถไฟนั้นสามารถเดินทางจากสถานีเกียวโต ไปยังสถานี ฮิกาชิ มุโกะ ในเส้น ฮังเกียว เกียวโต (แบบจอดทุกสถานี)ทุกๆสิบนาที และใช้เวลาประมาณสิบนาทีในการเดินทางจากสถานีเกียวโตเป็นเวลาสิบนาที และตัวตึกนั้นห่างจากสถานี ฮิกาชิ มุโกะประมาณสองนาทีทางทิศตะวันตก ตัวตึกเป็นหนึ่งในตึกที่สูงที่สุดของที่นั่น จึงมองหาได้ง่าย
ผู้ที่มีบัตร JR Pass สามารถเดินทางด้วยรถไฟท้องถิ่นในสายเกียวโตซึ่งใช้เวลาเดินแปดนาทีไปยังด้านตะวันตกเฉียงใต้จากสถานีมุโกมาชิ แต่ต้องข้ามสายฮังเคียวที่สถานีฮิคาชิมุโกะ
เมืองมุโกะเป็นสถานที่หยุดพักที่น่าสนใจจากการเดินทางระหว่างเกียวโตโอซาก้า และใกล้กับจุดเชื่อม ฮังเคียว อาราชิยามา