เพียงนั่งรถไฟ 6 นาทีจากสถานีรถไฟ JR เกียวโตไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้จะถึงสถานีอินาริ ทันทีที่ก้าวผ่านประตูโทริอิใหญ่สีแดงจะเข้าสู่แดนศักดิ์สิทธิ์ที่ยากจะลืมเลือนแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น
หลายท่านคงเคยผ่านตาภาพศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ (伏見稲荷大社) จากหนังสือภาพและภาพยนตร์ย้อนยุคอย่าง Memoirs of a Geisha ในภาพลักษณ์สถานที่ที่มีเสาสีแดงสะดุดตาเรียงรายหลายกิโลเมตร ศาลเจ้าใหญ่แห่งนี้เป็น 1 ใน 2 สถานที่ประกอบพิธีกรรมหลักสำหรับสักการะเทพเจ้าแห่งเกษตรกรรม โชคลาภและความสำเร็จที่มีศาลเจ้าเล็กๆ กว่า 32,000 แห่งทั่วญี่ปุ่น
ตลอดทั้งปี ผู้คนจากทั่วสารทิศต่างมาเก็บภาพประตูโทริอิ เขียนคำอธิษฐานลงบนแผ่นป้ายสีขาวรูปใบหน้าสุนัขจิ้งจอก เดินลอด “เซนบงโทริอิ” และเลือกซิ้อเครื่องรางที่มีทั้งหมด 15 แบบ 15 เรื่อง ชาวญี่ปุ่นผู้ศรัทธาแรงกล้าอาจเสริมด้วยการร่วมบริจาคสร้างโทริอิเพื่อความเป็นสิริมงคล
นอกจากเป็นแหล่งขอพรและถ่ายภาพ ที่นี่ยังเหมาะสำหรับหลีกหนีผู้คนจอแจไปเดินสำรวจธรรมชาติบนเขาระยะทางเบาๆ 4 กิโลเมตร ทางเดินขึ้น-ลงเขาไม่ซับซ้อน มีขั้นบันไดและประตูโทริอิกว่าหนึ่งหมื่นต้นทอดยาวนำไปตลอดทาง แม้บริเวณศาลหลักผู้คนคับคั่งตามแบบสถานที่ยอดนิยม ยิ่งสูงยิ่งร่มรื่นและเงียบสงบ
ระหว่างทางเดินไป-กลับ 2-3 ชั่วโมง มีกิจกรรมให้ทำหลายประการ ไม่ว่าชมทิวทัศน์กรุงเกียวโตจากมุมสูง สังเกตสีหน้ารูปปั้นสุนัขจิ้งจอกซึ่งเชื่อกันว่าเป็นผู้นำสาส์นของเทพอินาริที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ชมธารน้ำตกและศาลเจ้าขนาดเล็กหลายแห่ง แวะจุดพักต่างๆ เพื่อเก็บตราประทับเป็นที่ระลึก หากใครอยากหยุดพักทาน "อินาริซูชิ” “คิทสึเนะอุด้ง” หรือซอฟท์ครีม ข้างทางมีร้านเล็กๆ แบบญี่ปุ่นให้แวะเติมพลัง
หลังเดินต่อเนื่องหลายกิโลเมตร การทิ้งตัวลงนั่งจิบชาร้อนบนเก้าอี้ไม้พลางมองแสงแดดอ่อนๆ ลอดผ่านใบไม้อาจเป็นช่วงเวลาผ่อนคลายจากความรีบเร่งในช่วงวันหยุดที่ตามหา หากเป็นช่วงฟ้าใสตัดกับสีส้มแดงของโทริอิหรือในฤดูใบไม้เปลี่ยนสีคงยิ่งปรากฎสีสันน่าประทับใจ
ก่อนออกจากเขตฟูชิมิ อย่าลืมแวะชมร้านรวงรอบศาลเจ้า ที่นี่เป็นที่เดียวที่มีของที่ระลึกและขนมลายสุนัขจิ้งจอกน่ารักที่ไม่เหมือนที่ใดและไม่มีที่ใดเหมือน รวมถึงซึจิอุระเซมเบ้ ที่เชื่อกันว่าเป็นต้นแบบของ Fortune Cookie ที่หาซื้อได้ยากยิ่ง
ทั้งงดงามและไม่เสียค่าเข้าชมเช่นนี้ ไม่สนใจไปเยือนฟูชิมิอินาริสักครั้งหรือคะ?