วัดคินคะคุจิ หรือวัดพลับพลาทอง (Golden Pavilion) สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่โด่งดังติดอันดับต้นๆของประเทศญี่ปุ่น ถูกสร้างขึ้นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ.1397 โดยมีจุดประสงค์เพื่อใช้เป็นตำหนักพักผ่อนของโชกุน อะชิคากะ โยชิมิตสุ (Ashikaga Yoshimitsu) ภายหลังจากที่โชกุนเสียชีวิต สถานที่แห่งนี้ถูกยกให้เป็นของวัดโรคุอนจิ (Rokuonji) (ชื่อในอดีตของวัดแห่งนี้) และกลายเป็นวัดพุทธนิกายเซนไป ตามความปรารถนาของท่านโชกุน
ผมและเพื่อนขึ้นรถโดยสารประจำทางสาย 12 มาจากป้าย Shijo Takakura ใช้เวลาประมาณสี่สิบนาที ก็เดินทางมาถึงป้าย Kinkakuji-mae ซึ่งเป็นป้ายหน้าวัด จากนั้นข้ามทางม้าลาย ตรงเข้าสู่ทางเข้าวัด ก่อนที่จะจ่ายค่าเข้าชม และเดินมาพบกับศาลาทองของวัด จุดถ่ายรูปสำคัญของวัดที่ผมเฝ้าฝันว่าจะต้องมาเห็นกับตาตัวเองให้ได้สักครั้ง
ศาลาสีทองริมสระน้ำ จุดเด่นของวัดแห่งนี้ที่มีความเก่าแก่และสวยงามจนได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกใน ค.ศ.1994 ศาลาที่เราเห็นกันในปัจจุบันเป็นศาลาที่ถูกสร้างขึ้นใหม่ในปี ค.ศ.1955 ทดแทนศาลาเดิมที่ได้ถูกเผาทำลายไปในปี ค.ศ.1950 โดยพระสติไม่ดีรูปหนึ่ง ศาลาแห่งนี้มีทั้งหมด 3 ชั้น แต่ละชั้นมีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นแตกต่างกัน ชั้นที่ 1 เป็นสถาปัตยกรรมแบบ Shinden-zukuri ซึ่งจำลองแบบจากพระราชวังเก่าในยุคเฮอัน ชั้นที่ 2 เป็นสถาปัตยกรรมแบบ Buke-zukuri ซึ่งเป็นการจำลองแบบมาจากบ้านของซามูไร และ ชั้นที่ 3 ชั้นบนสุด ถูกสร้างตามสถาปัตยกรรมแบบนิกายเซน โดยแผ่นทองคำที่ชั้น 2 และ 3 ของศาลาวัดแห่งนี้ถูกแปะไว้เพื่อรักษาสภาพศาลาให้เกิดความคงทนและสวยงาม นอกจากนี้บนยอดของปราสาทยังมีรูปปั้นนกฟินิกซ์สีทองตามแบบสถาปัตยกรรมจีนอีกด้วย
นอกจากศาลาทองกลางสระน้ำที่มีความสวยงามแล้ว บริเวณอาคารและสวนรอบๆวัดแห่งนี้ยังขึ้นชื่อว่ามีความสวยงาม สงบ ร่มรื่น ชวนให้รู้สึกผ่อนคลายอีกด้วย สำหรับใครที่ชอบเก็บรายละเอียดสิ่งต่างๆที่อยู่รอบตัว ผมรับประกันเลยว่าจะต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงเพลิดเพลินไปกับความงามของวัดแห่งนี้แน่นอนครับ
เพิ่มเติม : คาดว่าหลายๆคนน่าจะเคยคุ้นเคยและติดตากับหน้าตาของศาลาวัดแห่งนี้กันมาบ้าง เพราะวัดแห่งนี้ถูกนำไปใช้อ้างอิงเป็นปราสาทของโชกุนในการ์ตูนเรื่อง “อิ๊กคิวซัง”ครับ