วัดนันเซ็นจิ (Nanzen-ji) วัดที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นวัดเซนที่มีความสวยงามและสำคัญมากที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น เนื่องจากเป็นวัดที่เป็นต้นกำเนินของศาสนาพุทธนิกายเซนสาย Rinzai ในอดีตวัดแห่งนี้เคยเป็นวังที่ประทับของจักพรรดิคาเมยามะ (Kameyama) ด้วยความเลื่อมไสศรัทธาในพระพุทธศาสนา พระองค์จึงทรงยกวังแห่งนี้ให้ก่อตั้งเป็นวัดนันเซ็นจิแทน ในปีค.ศ. 1291 แม้ว่าชื่อวัดจะเป็นชื่อนันเซ็นจิ แต่ภายในมีวัดแห่งนี้ ยังมีวัดย่อยๆอยู่อีก 12 แห่ง (เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมแค่เพียง 4 แห่ง)
เมื่อเราเดินทางมาถึงวัดแห่งนี้ สิ่งแรกที่จะพบก็คือ Sanmon Gate ประตูไม้เก่าแก่ขนาดใหญ่ สูง 22 เมตร สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานเพื่อระลึกถึงผู้เสียชีวิตในสงครามปราสาทโอซาก้า นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์ของเกียวโตได้บนชั้นสองของประตูไม้ซึ่งมีระเบียงขนาดใหญ่ให้เดินเล่นชมวิวได้อยู่ (500 เยน) และจุดเด่นของวัดแห่งนี้อีกอย่างหนึ่งที่นักท่องเที่ยวนิยมมาชมก็คือ สะพานส่งน้ำไบวา (Lake Biwa Aquaduct) สะพานส่งน้ำที่ได้ชื่อว่าเป็นวิศวกรรมโยธายุคใหม่แห่งแรกของญี่ปุ่น สะพานสร้างขึ้นโดยการเจาะภูเขาเพื่อขนส่งน้ำจากทะเลสาบไบวามายังเกียวโตในสมัยเมจิ ซึ่งในสมัยนั้นการเจาะภูเขาเป็นเรื่องที่ลำบากมาก แต่ด้วยความตั้งใจและพยายามสะพานส่งน้ำและภูเขาส่งน้ำที่วัดแห่งนี้ก็สร้างขึ้นได้สำเร็จ (ปัจจุบันก็ยังมีน้ำส่งในท่อส่งน้ำอยู่ แต่คนในเมืองเกียวโตไม่ได้ใช้น้ำจากคลองส่งน้ำแห่งนี้แล้ว)
นอกจากนี้แล้ววัดแห่งนี้ยังมีสวนเซนในวัดย่อยๆเปิดให้ผู้คนได้เข้าชมทั้ง Hojo Garden, Nanzenin Garden, Konchi-in Garden และ Tenjuan Garden ที่มีความสงบ เงียบ และสวยงาม เมื่อเดินชมแล้วชวนให้เกิดสมาธิและสงบจิตใจครับ (ค่าเข้าชม Hojo 500 เยน, Nanzenin 300 เยน, Konchi-in และ Tenjuan 400 เยน) ในช่วงเดือนตุลาคมที่เป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสี วัดแห่งนี้เป็นหนึ่งในจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามมากของเมืองเกียวโตด้วยครับ
การเดินทาง
- รถไฟ Subway สาย Tozai Line ลงสถานี Keage [T09] แล้วเดินต่อประมาณ 15 นาที
- รถโดยสารประจำทางสาย 5 ลงป้าย Nanzenji Eikando-michi แล้วเดินต่อประมาณ 10 นาที
ปล. หากเดินมาจากป้ายรถประจำทางระวังอย่าสับสนวัดแห่งนี้กับวัด Eikando ที่อยู่ใกล้ๆกันนะครับ ตัวผมและคนญี่ปุ่นหลายคนเผลอเดินเข้าไปที่วัดแห่งนี้แล้ว แต่พอดีเอะใจถามเจ้าหน้าที่ที่เก็บเงินค่าบำรุงวัดแห่งนั้นดูว่าที่นี่ใช่วัดนันเซ็นจิรึเปล่า ได้คำตอบมาว่าไม่ใช่ เลยต้องขอโทษขอโพยเค้าใหญ่แล้วเดินต่อไปจนมาถึงวัดนันเซ็นจิครับ