คนญี่ปุ่นมีความเชื่อที่เหมือนกับคนไทยอยู่หลายอย่าง หนึ่งในนั้นก็คือการเชื่อถือโชคลาง และนับถือสิ่งศักดิ์สิทธ์หรือเทพเจ้า ควบคู่ไปกับนับถือศาสนาพุทธ ในขณะที่ความเชื่อถือในศาสนาพรามณ์และฮินดูเข้ามาเกี่ยวโยงกับพุทธศาสนาในประเทศไทย ในประเทศญี่ปุ่นจะเป็นลัทธิชินโตที่เข้ามามีบทบาทในวิถีชีวิตของคนญี่ปุ่นไปพร้อมๆ กับพุทธศาสนา และไม่ว่าญี่ปุ่นจะก้าวหน้าไปในอนาคตอย่างไม่หยุดยั้ง ศาลเจ้าชินโตก็ได้ก้าวตามไปอย่างช้าๆ แต่ว่ามั่นคง
ศาลเจ้าคะวะอิ (Kawai) เป็นศาลเจ้าย่อยที่อยู่ในอาณาเขตของศาลเจ้าใหญ่ ชิโมะกะโมะ (Shimogamo) ในตอนเหนือของเมืองเกียวโต ตั้งอยู่ในป่าขนาดเล็กที่มีชื่อว่า ทะดะซุ-โนะ-โมะริ (Tadasu-no-Mori) อันร่มรื่น ฉันไม่เคยได้ยินชื่อศาลเจ้าแห่งนี้มาก่อน และหากไม่ใช่เป็นเพราะต้นกิงโกะหรือต้นแปะก้วยสีสันสุดสวยต้นใหญ่ต้นนั้น ฉันก็คงเดินผ่านศาลเจ้าเล็กๆ แห่งนี้ไปโดยที่ไม่ได้หยุดแวะชม
ศาลเจ้าคะวะอิ ยังมีสิ่งอื่นที่โดดเด่นนอกเหนือไปจากต้นกิงโกะเรียกแขกต้นใหญ่ต้นนั้น คือเป็นศาลเจ้าที่มีเทพเจ้าเป็นผู้หญิง และเป็นเทพเจ้าแห่งความงามอีกด้วย จึงไม่น่าแปลกใจที่จะเห็นสาวๆ หลั่งไหลมาที่นี่
ที่โดดเด่นอีกสิ่งหนึ่งของศาลเจ้าคะวะอิก็คือ แผ่นไม้เอะมะ แผ่นไม้สำหรับเขียนคำอธิษฐานที่ดูแปลกแวกแนวกว่าศาลเจ้าอื่นๆ เป็นแผ่นไม้รูปกระจกส่องหน้าอันเล็กน่ารัก ที่จะทำให้สาวๆ ได้กรี๊ด ก็คือ สามารถวาดรูปแต่งหน้าแต่งตาให้แผ่นเอะมะสุดสวย ก่อนที่จะขอพรให้ตัวเองสวยยิ่งๆ ขึ้น ที่จริงแล้วเทพธิดาแห่งศาลเจ้าคะวะอิไม่เยี่ยวชาญเฉพาะความสวยงามเท่านั้น แต่ยังสามารถให้พรแก่สาวๆ ได้หลายอย่างเช่น ให้คลอดบุตรได้ง่าย ให้ได้คู่ครองดีๆ ให้มีสุขภาพดี เป็นต้น
สิ่งสุดท้ายที่โดดเด่นของศาลเจ้าคะวะอิก็คือ 'น้ำแห่งความงาม' ภายในศาลเจ้าจะมีขายน้ำผลไม้ที่ได้ชื่อว่า ดื่มแล้วจะช่วยให้ผิวดี สดใส เป็นน้ำลูกควินซ์ที่มีรสหวานอร่อยในราคา 350 เยน มีให้เลือกทั้งแบบร้อนหรือเย็น และแน่นอนฉันต้องซื้อมาลองดื่ม น้ำลูกควินซ์ร้อนๆ ในวันอากาศเย็นของฤดูใบไม้ร่วง มันช่างหวานชุ่มคอยิ่งนัก บวกกับบรรยากาศกลางป่าของศาลเจ้าญี่ปุน และใบไม้เปลี่ยนสีที่สุดสวย ช่างเป็นวันดีๆ ที่น่าจดจำ!