ข้อดีอย่างหนึ่งของการไปท่องเที่ยวด้วยตัวเองคือได้พบสถานที่นอกเหนือไปจากกำหนดการเดินทาง หลังจากชมดอกซากุระอันสวยงามอย่างเต็มอิ่มที่เส้นทางสายนักปราชญ์แล้ว ผมก็ไปต่อยังแหล่งรวมคาเฟ่เพื่อไปทานขนมน่ารัก ๆ ที่แบร์ คาเฟ่ หลังจากเลือกเส้นทางอีกครั้งเพื่อไปยังวัดกิงคะคุ-จิ ผมก็ได้เห็นสวนสวย ๆ เหล่านี้และตัดสินใจเข้าไปสำรวจดู
ฮาคุสะซอนโสะ ฮาชิโมโตะ คันเซ็ตสุเคยเป็นที่พักอาศัยของศิลปินเกียวโตผู้มีชื่อเสียงอย่างฮาชิโมโตะ คันเซ็ตสุที่เกิดในปีค.ศ. 1883 เขาได้เดินทางไปทั่วประเทศจีนและยุโรป กล่าวกันว่าบรรดาภาพเขียนของเขานั้นได้แรงบันดาลใจมาจากภูมิประเทศและวรรณคดีคลาสสิคของจีน
เขาเป็นศิลปินแลกเปลี่ยนจีน-ญี่ปุ่นชั้นแนวหน้า เขาเคยจัดตั้งกลุ่มศิลปินที่ชื่อว่าไคอิฉะร่วมกับศิลปินญี่ปุ่นท่านอื่น ๆ ซึ่งได้พาศิลปินชาวจีนอย่างหวังอี้ถิง หลิวไฮ่สู และเฉียนโช่วเถียมาด้วย แนวภาพเขียนของเขาถูกเรียกว่าชิน-นันงะหรือ "ภาพเขียนทรงปัญญายุคใหม่" ปัจจุบันบ้านของเขาได้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงผลงานของเขาเอง
บรรดาสวนต่าง ๆ เป็นดั่งโอเอซิสแห่งความเงียบสงบแม้จะอยู่ใกล้กับเส้นทางสายนักปราชญ์ที่พลุกพล่าน มันสงบมากเสียจนทำให้ผู้ที่เดินผ่านเส้นทางไปยังวัดกิงคะคุ-จิเดินเลยเสมอ
ทั่วพื้นที่ปกคลุมไปด้วยมอสส์สีเขียวชอุ่ม ซึ่งช่วยขับเน้นสีน้ำตาลของอาคารให้เด่นชัด เจดีย์กับโคมหินวางกระจายอยู่ทั่วสวน ส่วนรูปสลักหินจากสมัยเฮย์อันและโมโมยามะจะอยู่ทั่วป่าไผ่ ราวกับคนตัวเล็กที่กำลังสวดภาวนาถึงระดับลึกซึ้ง
ฮาชิโมโตะก็เหมือนกับสวนในวัดญี่ปุ่นแห่งอื่น คือมีจัดการวางหินอย่างฉลาดรอบวัดโดยยึดหลักซาคุตเทย์กิ คู่มือสวนญี่ปุ่นโบราณ
บ้านของเขามีวิวเหนือสระอันเงียบสงบที่มีปลาคาร์พสีสันสวยวาม และเป็นที่อยู่ของเป็ดกับนกกระสาด้วย ต้นไม้ที่รายล้อมรอบด้านเป็นถิ่นที่อยู่ของนกกับนกระสาจำนวนมาก เสียงขับขานของนกทำให้ผมนั่งลงและปล่อยตัวและปล่อยใจไปกับความสงบของสวรรค์สีเขียวแห่งนี้
ตอนผมกลับไปที่ซุ้มประตู ดอกซากรุที่บานเต็มที่ก็ทำให้ผมนึกถึงดอกซากุระนับร้อยต้นที่ทำให้เส้นทางสายนักปราชญ์กลายเป็นจุดท่องเที่ยวยอดนิยมนั้น แท้จริงแล้วก็ปลูกโดยคันเซ็ตสุกับภรรยาของเขานั่นเอง เป็นดั่งพรมลายดอกไม้ที่มีชีวิต คือมรดกแห่งความมีชื่อเสียง
