‘ฮิกะชิยะมะ’ (Higashiyama) เป็นเขตหนึ่งใน 11 เขตของเมืองเกียวโต อยู่ทางทิศตะวันออกของใจกลางเมืองเกียวโต ข้ามแม่น้ำโคะมะ (Kamo) กินอาณาเขตไปจนถึงเทือกเขาฮิกะชิยะมะ เส้นทางเดินทางตอนใต้ของ ‘ฮิกะชิยะมะ’ (Higashiyama) เป็นเส้นทางเดินที่มีระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร เริ่มต้นที่วัดคิโยะมิซุ-เดะระ (Kiyomizu Dera) ไปสิ้นสุดที่ศาลเจ้ายะสะกะ (Yasaka) และสวนมะรุยะมะ (Maruyama) ที่อยู่ติดกัน หรือคุณจะเลือกเดินจากศาลเจ้ายะสะกะไปยังวัดคิโยะมิซุ-เดะระก็ได้เช่นกัน แต่จะเป็นการเดินขึ้นเนินเขา ในขณะที่เดินจากวัดคิโยะมิซุ-เดะระเป็นการเดินลงเนินเขา เส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่เดินผ่านวัด ศาลเจ้า สวน บ้านเรือน และร้านค้า ที่สวยงาม เก่าแก่ และมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน
ฉันและผู้ร่วมทางนั่งรถประจำทางสาย 206 (หรือ 208) จากสถานีเกียวโต มาลงที่ป้าย Kiyomizu-michi จากนั้นก็เดินขึ้นเนินเขาระยะสั้นๆ ไปจนถึงวัดคิโยะมิซุ-เดะระ ซึ่งแปลว่า วัดน้ำใสบริสุทธิ์ ได้รับยกย่องเป็นมรดกโลกในปี 1994 จุดเด่นของวัดคือระเบียงไม้ของอาคารหลักหรืออาคารฮอนโดะ (Hondo) ซึ่งมีเสาไม้ขนาดใหญ่จำนวนร้อยกว่าต้นค้ำยันระเบียงไว้ วัดคิโยะมิซุ-เดะระงดงามในทุกฤดูกาล ในเดือนมีนาคมซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เราแวะไปนั้น เป็นต้นฤดูใบไม้ผลิ ต้นพลัมหรือต้นอุเมะ (ume) หลายต้นในบริเวณวัดพากันออกดอกบานสพรั่งสวยงาม ในเดือนเมษายนก็คงจะเป็นคราวของดอกซากุระ ค่าเข้าชม 300 เยน วัดเปิดตั้งแต่ 6 โมงเช้าจนถึง 6 โมงเย็น ขอแนะนำให้ไปแต่เช้า เพราะวัดคิโยะมิซุ-เดะระนี้เป็นวัดที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดของเมืองเกียวโต ทำให้มีนักท่องเที่ยวเยอะมากๆ
หลังจากชมวัดคิโยะมิซุ-เดะระแล้ว เราก็เริ่มต้นเดินจากประตูหลักของวัด เดินลงเนินเขาบนถนน ซานเน็นซะกะ นิเน็นซะกะ (Sannenzaka Ninenzaka) ซึ่งเป็นถนนสองสายที่เรียงรายไปด้วยร้านค้า ร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร และร้านขายขนมมากมาย ร้านค้าเล่านี้เป็นร้านค้าแบบเก่าน่าเดินชมมาก เมื่อเดินชมร้านค้าต่างๆ จนหนำใจแล้ว ฉันขอแนะนำเดินซอกแซกไปตามซอกซอยเล็กๆ ที่แยกจากถนน ซานเน็นซะกะ นิเน็นซะกะ เพราะซอกซอยข้างหลังนั้นมีบ้านไม้แบบญี่ปุ่นอยู่หลายหลังให้ชม และเงียบสงบ
หลังจากถนน ซานเน็นซะกะ นิเน็นซะกะ เส้นทางนี้จะผ่านวัดโคะไดจิ (Kodaiji) วัดเก่าแก่ที่มีสวนที่งดงาม ค่าเข้าชม 600 เยน วัดเจ้าแม่กวนอิมเรียวเซ็น (Ryozen Kannon Temple) ค่าเข้าชม 200 เยน พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เรียวเซ็น (Ryozen Museum of History) ค่าเข้าชม 500 เยน นอกจากนี้ยังมีวัด และศาลเจ้าเล็กๆ ริมทางที่เราแวะชมฟรี ไม่มีค่าเข้าชม เงียบสงบ เป็นที่นั่งพักขาได้เป็นอย่างดี
เดินต่อไปสุดทางก็มาถึงศาลเจ้ายะสะกะ (Yasaka) และสวนมะรุยะมะ (Maruyama) ที่อยู่ติดกัน ทั้งสองแห่งเปิดให้เข้าชมฟรี สวนมะรุยะมะ (Maruyama) เป็นแหล่งชมดอกซากุระที่สำคัญของเกียวโต หากคุณมาญี่ปุ่นในช่วงฤดูดอกซากุระ อย่าพลาดแวะชมสวนมะรุยะมะ ส่วนศาลเจ้ายะสะกะ (Yasaka) เป็นหนึ่งในศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงที่สุดของเกียวโต เป็นศาลเจ้าที่จัดงานเทศกาลฤดูร้อนที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในญี่ปุ่นคือ งานเทศกาลกิออน หรือ กิออน มัตซึตริ (Gion Matsuri) ซึ่งมีขึ้นทุกปีในเดือนกรกฎาคม
เส้นทางเดินทางตอนใต้ของ ‘ฮิกะชิยะมะ’ (Higashiyama) นี้เป็นเส้นทางเดินที่ไม่ควรพลาดหากคุณมาที่เกียวโต แต่หากคุณมาในช่วงฤดูดอกซากุระ ก็ควรจะคาดหวังไว้เลยว่าจะมีนักท่องเที่ยวมากมายตลอดเส้นทาง
