ช่วงเวลาก่อนเข้ามหาวิทยาลัยนั้น สำหรับนักเรียนม.ปลายแล้ว นี่คือช่วงเวลาที่ต้องใช้การตัดสินใจที่สำคัญมากครั้งหนึ่งในชีวิต บางคนอาจจะมีมหาวิทยาลัยในฝันที่อยากจะเข้า บางคนอาจจะยังไม่รู้ว่าตนเองถนัดอะไร อยากจะไปเรียนต่อที่ไหน ฉะนั้นในบางมหาวิทยาลัยจึงจัดกิจกรรม “Open House” เปิดบ้านต้อนรับนักเรียนและผู้ที่สนใจเข้ามาเยี่ยมชมบรรยากาศการเรียนการสอนภายในมหาวิทยาลัยได้ตลอดทั้งวัน
เมื่อวันที่ 8 สิงหาคมที่ผ่านมา ผู้เขียนก็ได้ไปร่วมกิจกรรมOpen House ของมหาวิทยาลัยเกียวโต (Kyoto University)ด้วยเช่นกัน โดยจะจัดทุกๆต้นเดือนสิงหาคม เมื่อเดินไปถึงด้านหน้าประตูของมหาวิทยาลัยก็มีนักเรียนญี่ปุ่นม.ปลายยืนรอถ่ายรูปกับป้ายชื่อมหาวิทยาลัยในฝันของตนเองกันเต็มพื้นที่ บางส่วนก็กำลังอ่านข้อมูลรายละเอียดคณะต่างๆอย่างคร่ำเคร่ง
เมื่อเดินเข้าไปด้านในสิ่งแรกที่พบเห็นเด่นชัดคือ “หอนาฬิกา” ที่ตั้งโดดเด่นเป็นสง่าอยู่หลังอาคาร ทางด้านหน้าจะมีต้นไม้ใหญ่เขียวขจีต้นหนึ่งที่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์คู่กับมหาวิทยาลัยเกียวโตแห่งนี้ (สังเกตได้จากโลโก้มหาวิทยาลัยจะมีต้นไม้อยู่ตรงกลาง) ซึ่งพื้นที่บริเวณนี้ช่วงเย็นหลังเลิกเรียนจะมีกลุ่มนักศึกษาชมรมต่างๆมาทำกิจกรรมร่วมกัน อาทิเช่น เต้นB-Boy, เล่นดนตรี, กระโดดเชือก เป็นต้น
บรรยากาศภายในมหาวิทยาลัยจะสังเกตได้ว่าอาคารมีการออกแบบสไตล์ยุโรปเป็นหลัก ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ใหญ่นานาพันธุ์ นักศึกษาส่วนใหญ่จะขี่จักรยานกันมากกว่าเดิน ทำให้พื้นที่โดยรอบมักจะพบเจอจักรยานจอดกันอย่างเป็นระเบียบ เมื่อเข้าไปชมบรรยากาศการเรียนการสอนในห้องเลคเชอร์ถึงกับต้องทึ่งเพราะนักศึกษาที่นี่ตั้งใจเรียนกันอย่างจริงจัง ไม่คุยหรือเล่นโทรศัพท์มือถือกันเลย ห้องเรียนจะมีแต่เสียงอาจารย์เท่านั้น แต่ก็จะมีบางช่วงที่อาจารย์จะเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้แสดงความคิดเห็นหรือถามข้อสงสัยได้เช่นเดียวกัน
จากการศึกษาข้อมูลเบื้องต้นของมหาวิทยาลัยเกียวโตพบว่าที่นี่เป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำและเก่าแก่เป็นอันดับสองของประเทศญี่ปุ่น ก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปีค.ศ.1869 โดยได้ผลิตบุลคลากรระดับโลกมากมาย ทั้งนักวิทยาศาสตร์ ระดับรางวัลโนเบล นักการเมือง นักธุรกิจ ข้าราชการชั้นสูงทั้งในญี่ปุ่นและของประเทศอื่นๆ โดยเปิดทำการสอนทั้งหมด 10 คณะ ได้แก่ Integrated Human Studies, Letters, Education, Law, Economics, Science, Medicine, Pharmaceutical Sciences, Engineering, Faculty of Agriculture นอกจากนี้ยังมีGraduate schools อีก 9 โรงด้วย
สิ่งหนึ่งที่ผู้เขียนสัมผัสได้ถึงความใส่ใจต่อการพัฒนาความรู้ของนักศึกษาของที่นี่คือทุกอาคารจะมีห้องสมุดไว้คอยให้บริการตลอดทั้งวัน มีโซนอ่านหนังสือไว้รองรับนักศึกษาไว้จำนวนมาก และไม่ใช่เพียงด้านวิชาการที่โดดเด่นเท่านั้น ด้านกิจกรรม นักศึกษาที่นี่ก็มีการจัดกิจกรรมสนุกๆสร้างสีสันกันอยู่เสมอ เช่น การแต่งCosplayของเหล่าบัณฑิตในงานวันสำเร็จการศึกษา, งานกีฬาสีที่แปลกและแหวกแนวหลุดโลก
จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมมหาวิทยาลัยเกียวโตถึงติดอันดับสถาบันการศึกษาที่ดีที่สุดในเอเชียเป็นเวลา 3 ปีซ้อน เพราะทั้งบรรยากาศการเรียนการสอนและสิ่งแวดล้อมของที่นี่ล้วนอำนวยต่อการศึกษาได้เป็นอย่างดีนั่นเอง
การเดินทาง สามารถนั่งรถไฟสายKeitetsu line ลงสถานีDemachiyanagi และเดินตรงจากสถานีมาอีก 10 นาทีก็จะเจอป้ายหน้ามหาวิทยาลัยพอดี