แทบไม่น่าเชื่อว่าสวนอันสวยงามเหล่านี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในบรรดาสวนยอดซามูไรสามแห่งของญี่ปุ่น จะเคยเป็นสถานที่นองเลือดมาก่อน
บรรยากาศนั้นสงบโดยแท้ สวยงามทุกฤดูกาล โดยเฉพาะช่วงต้นฤดูร้อนตอนที่มีสีเขียวขจีเต็มที่มากที่สุด กับฤดูใบไม้ร่วงที่สีสันสวยงามก่อนฤดูหนาวอันขึ้นชื่อที่สุดของญี่ปุ่นกำลังเฉิดฉายเต็มที่ ที่นี่คือสวนและโบราณสถานคิตะบาทาเกะ เคยเป็นที่ขึ้นครองอำนาจของตระกูลคิตะบาทาเกะผู้ทรงอิทธิพลที่ปกครองจังหวัดอิเสะในบริเวณอาโนะและสึ(จังหวัดมิเอะ)ในปัจจุบันมาตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 14
ตระกูลคิตะบาทาเกะสืบเชื้อสายราชวงศ์จักรพรรดิและเหล่าผู้สนับสนุนราชสำนักทางใต้ในสมัยนันโบะคุโชของญี่ปุ่น (ค.ศ. 1336-1392) ซึ่งเป็นยุคที่ประเทศถูกปกครองโดยสองราชสำนักที่เป็นปฏิปักษ์ต่อกัน ตระกูลคิตะบาทาเกะที่เป็นชนชั้นสูงมาตั้งแต่กำเนิดก็ได้ใช้ชีวิตที่ดีกว่าคนทั่วไปและได้ดำเนินการสร้างคฤหาสน์ที่โอ่อ่าที่สุดของตนเองลายร้อยด้วยสวนสุดงดงาม คิตะบาทาเกะครอบครองแว่นแคว้นนั่นโดยสมบูรณ์จนกระทั่งปี 1569 เมื่อเขตแดนถูกจู่โจมโดยขุนศึกโอดะ โนบุนากะ แม้ว่าจะมีคนในตระกูลคิตะบาทาเกะถูกสังหารไปมากมายระหว่างทำศึก แต่ก็ยังสามารถครองอำนาจไว้ได้ ปีถัดมา โอดะ โนบุคัตสุ บุตรชายของโอดะ โนบุนากะได้แต่งงานกับธิดาของขุนนางคิตะบาทาเกะ โทโมะโนะริ และได้กลายเป็นทายาทบุญธรรมของตระกูลในปี 1570
การแต่งงานนั้นเป็นเพียงการเล่นละคร ตามเงื่อนไขที่โอดะบีบบังคับคิตะบาทาเกะ ห้าปีหลังจากพิธีสมรส โนบุคัตสุก็ได้ขึ้นมาเป็นผู้นำของตระกูลอย่างเป็นทางการ ปีต่อมาเขาก็ได้สังหารพ่อตาของตนเองอย่างเลือดเย็น จับตาเลี้ยงที่เป็นอดีตขุนนางไปคุมขัง ก่อนจะยึดครองอำนาจและอาณาเขตทั้งหมดของตระกูลคิตะบาทาเกะโดยสมบูรณ์
ด้วยความไม่พึงพอใจแค่การเป็นผู้นำของตระกูลอันทรงอิทธิพลแห่งแว่นแคว้น และกระหายที่จะอวดแสนยานุภาพกองทัพ โนบุคัตสุได้เปิดฉากบุกโจมตีจังหวัดอิงะที่อยู่ติดกันในปี 1579 และพบกับความล้มเหลว การออกศึกที่นำมาซึ่งหายนะครั้งนี้ได้ทำให้บิดาแท้ ๆ ของเขา โนบุนากะถึงกับบันดาลโทสะ และนำกองทัพซามูไรทะลวงฟัน 20,000 นายกวาดล้างทุกชีวิตและทรัพย์สินในภูมิภาคนั้นจนสิ้น ตระกูลคิตะบาทาเกะถูกทำลายพินาศ
มีเพียงสวนเท่านั้นที่เหลือรอดมาได้ และขึ้นแท็กซี่จากสถานีเจอาร์สายเมโช อิเซโอะคัตสุไปเพียงห้านาที ก็คือสวนที่นักท่องเที่ยวไม่ค่อยรู้จักกันนัก พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สถานคิตะบาทาเกะที่อยู่ใกล้กันก็ควรค่าแก่การไปดู แม้จะไม่ค่อยมีข้อมูลภาษาอังกฤษ อย่างที่กล่าวไป สวนนี้ถูกจัดเป็นหนึ่งในสวนของสุดยอดนักรบสามแห่งที่ยังคงอยู่ และเป็นความลับที่ญี่ปุ่นเก็บรักษาไว้อย่างดีที่สุด
สวนสไตล์ธรรมชาตินั้นมีสระน้ำสวยงามที่มีสะพานหินเล็ก ๆ ทอดข้าม ทางเดินหินกรวดที่มีใบไม้กระจายอยู่เต็มจะนำคุณเดินรอบสวน ผ่านบริเวณที่ปกคลุมด้วยตะไคร่น้ำหนากับเหล่าก้อนหินที่เต็มไปด้วยเห็ดรา โคมหินอันแข็งแกร่งทำให้คุณนึกถึงความสง่างามของยุคโบราณ กับความทรงจำแสนสุขที่คิตะบาทาเกะเคยมีด้วยอนุสรณ์และรูปปั้นหิน ข้างสวนชื่อดังคือศาลเจ้าคิตะบาทาเกะ ตั้งเร้นอยู่กลางต้นไม้โบราณยักษ์ กำแพงสีแดงชาดและขาวสดเป็นภาพที่ตัดกันกับสีเขียวอันร่มรื่นของบริเวณนั้นมาก ด้านหลังศาลเจ้าเป็นภูเขาเตี้ยที่สามารถเดินเล่นได้สบาย และมีวิวมุมกว้างรอบทิศอยู่บนยอด
และยังมีบรรดาป้ายข้อความต่าง ๆ มาเสริมบรรยากาศในบริเวณนั้น ซึ่งสามารถพบเห็นได้ตามวัดและศาลเจ้าของญี่ปุ่นทั่วไป ที่มีคำกล่าว่า "ขอสันติภาพจงเกิดแด่โลก"
ที่สวนคิตะบาทาเกะแห่งนี้ คือที่ที่เราพบความสันติภาพนั้น