ตามตำนานเล่าว่ามีหมู่บ้านสองหมู่บ้านทะเลาะกันเรื่องปลาวาฬเกยตื้นตัวหนึ่ง ปลาวาฬเป็นของขวัญที่เทพจ้าประทานมาให้ เพราะมันสามารถใช้เป็นอาหารสำหรับคนในหมู่บ้านได้เป็นเวลานาน นอกจากนั้นกระดูกปลาวาฬยังเอามาทำเป็นเครื่องมือและน้ำมันตะเกียง อย่างไรก็ตามหมู่บ้านTokura และหมู่บ้านJusanhama มีเรื่องขัดแย้งกันมานานแล้วเกี่ยวกับเรื่องเขตแดน และเรื่องของปลาวาฬก็แค่เป็นอีกเรื่องที่ทำให้ความขัดแย้งนั้นหนักข้อขึ้น ไม่มีใครตัดสินได้ว่าปลาวาฬตัวนี้โดนน้ำซัดมาอยู่ในเขตหมู่บ้านใด และเนื่องจากทั้งสองหมู่บ้านไม่สามารถหาข้อสรุปเรื่องปลาวาฬได้ก่อนพระอาทิตย์ตก พวกเขาจึงตัดสินใจพักเรื่องนี้ไว้ก่อนและจะเริ่มเจรจากันอีกครั้งในเช้าวันรุ่งขึ้น
กลางดึกคืนนั้นเองเสียงฟ้าผ่าเปรี้ยงใหญ่ดังสนั่นสะท้อนไปทั่วทั้งบริเวณ ชาวหมู่บ้านTokura และหมู่บ้านJusanhama ต่างถลันออกมาดูที่มาของเสียง พวกเขาต่างตกตะลึงเมื่อเห็นหินก้อนขนาดมโหฬารในทะเลแตกออกเป็นสองเสี่ยง ชาวบ้านทั้งสองเห็นตรงกันว่านี่คือสัญลักษณ์แทนคำตัดสินของเทพเจ้าในเรื่องความบาดหมางระหว่างสองหมู่บ้าน ในท้ายที่สุดทั้งสองหมู่บ้านตัดสินใจยุติความขัดแย้งโดยกำหนดเขตแดนด้วยหินแตกก้อนนั้น และตกลงกันว่าจะแบ่งปลาวาฬออกเป็นสองส่วน
ไม่ว่าเรื่องจริงจะเป็นอย่างไร ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีร่องรอยหินแตกขนาดมหึมาปรากฎอยู่จริง Kamiwarizakiแปลว่า "ถูกทำลายโดยเทพเจ้า" หินKamiwariดังกล่าวข้างต้น อยู่ห่างจากที่ตั้งแคมป์ใหญ่ของKamiwarizakiโดยเดินเท้าไปประมาณ 10นาที ที่ตรงนี้เป็นจุดกางเต้นท์ที่เยี่ยมยอด ที่ตั้งแคมป์อยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของSendai โดยขับรถขึ้นไปทางทิศเหนือประมาณ 2ชั่วโมง และสามารถเข้าถึงได้ง่ายด้วยทางหลวงเรียบชายฝั่งหมายเลข 398 ซึ่งวิ่งไปตามแนวชายฝั่งสู่Shizugawa
เวลาเช็คอินจะแตกต่างกันไปแล้วแต่ฤดูกาล ซึ่งปกติจะปิดวันอังคาร ในเดือนเมษายนถึงพฤศจิกายนเช็คอินตั้งแต่เวลา 10:00ถึง15:00 น. และเดือนธันวาคมถึงมีนาคมตั้งแต่เวลา 11:00ถึง14:00น. ราคาต่างกันมากน้อยขึ้นอยู่กับว่าคุณอยากจะทำอะไรกับยานพาหนะของคุณซึ่งจะเป็นการเพิ่มค่าใช้จ่าย มีที่จอดรถกว้างขวางมากพอ แต่บางบริเวณจะมีราคา3000เยน มีร้านอาหารอยู่ในพลาซ่าสำหรับนักท่องเที่ยว และสำนักงานใหญ่อยู่บริเวณทางเข้า กระท่อมไม้ซุงหลังเล็กอยู่ทางทิศตะวันออกหันหน้าสู่เนินเขา จะเช่ากระท่อมแทนที่จะใช้เต้นท์ก็ได้ นอนได้สูงสุด5คน แต่พื้นที่จะแออัดและราคาอยู่ที่5000เยน แต่หากคุณชอบที่จะนอนข้างนอก อยากจะให้ระหว่างคุณกับดวงดาวบนฟ้าห่างกันเพียงผืนไนลอนกั้น แต่ไม่มีเต้นท์เป็นของตัวเอง คุณสามารถจะเช่าเต้นท์ได้ที่สำนักงานใหญ่ราคา 1500เยน
มีที่ทำบาบีคิวและที่ทำความสะอาดอาหารอยู่หลายที่ มีห้องน้ำที่มิดชิดหลายห้องเช่นกัน ที่อาบน้ำฝักบัวราคา200เยนอาบได้ไม่กี่นาที ส่วนผมมุ่งหน้าไปที่ Hotel Kanyo และใช้บริการออกเซนของที่นั่นแทน ทิวทัศน์ที่มองจากบริเวณแคมป์ใหญ่นั้นก็สุดยอดมาก มองผ่านต้นสนชายฝั่งต้นสูงบนแผ่นดินตะวันออกสุดของญี่ปุ่นสู่ท้องทะเล บริเวณที่ตั้งแคมป์ส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ริมหน้าผา ซึ่งจะทำให้มองเห็นวิวของท้องทะเลได้อย่างชัดเจนแต่ไม่ไกลเกินไปซึ่งจะทำให้ทุกคนได้รับความสะดวกสบาย
สิ่งหนึ่งที่ทำให้Kamiwarizaki แตกต่างจากแคมป์อื่นๆคือ ยามพระอาทิตย์ขึ้น ในบางช่วงเวลาของปีพระอาทิตย์จะขึ้นอยู่ตรงกลางระหว่างหินKamiwari ถึงแม้จะไม่ใช่เวลานั้นของปีที่จะได้เป็นประจักษ์พยานของยามรุ่งอรุณสุดพิเศษ แต่พระอาทิตย์ขึ้นที่นี่ก็ไม่ใช่สิ่งที่คุณจะลืมได้ ก็เพราะว่าญี่ปุ่นได้ชื่อว่าเป็นดินแดนอาทิตย์อุทัย การได้ใช้กล้องถ่ายรูปและขาตั้ง หรือจะเป็นเสื่อโยคะและจ้องมองออกไปยังเส้นขอบฟ้า ก็เหมือนคุณกำลังได้รับการปรนนิบัติอยู่
บริเวณที่ตั้งแคมป์อยู่ทางตอนเหนือของแหลมซึ่งแบ่งระหว่าง Minamisanriu และ Ishinomaki องค์กรEarth Camp มักจะเข้ามาใช้บริเวณที่ตั้งแคมป์ ดังนั้นบางครั้งบางคราวคุณอาจจะเห็นทั้งชาวญี่ปุ่นและคณะชาวต่างชาติปะปนกันไป อันที่จริงหินที่เป็นที่มาของชื่อสถานที่นั้นตั้งอยู่ในเขต Ishinomaki บางทีเรื่องในตำนานอาจเป็นเรื่องจริงก็ได้ใครจะรู้...
