วัดถูกสร้างขึ้นโดยใช้เทคนิคช่างฝีมือแบบดั้งเดิม (เครดิตรูปภาพ: Justin Velgus)

วัดโจกิ เนียวไร ไซโฮจิ ณ มิยางิ

ที่พำนักของพระอมิตาภพุทธะ

วัดถูกสร้างขึ้นโดยใช้เทคนิคช่างฝีมือแบบดั้งเดิม (เครดิตรูปภาพ: Justin Velgus)
Onlada Chollavorn   - ใช้เวลาอ่าน 1 นาที

เรื่องอัศจรรย์อย่างหนึ่งของมหานครเซ็นไดคือขนาดอันเล็กกะทัดรัดของที่นี่ ไม่ว่าจะลองถามใครในเมืองก็จะได้คำตอบว่าที่นี่ทั้งไม่ใหญ่และไม่เล็กเกินไป ซึ่งถือเป็นเรื่องดีสำหรับนักท่องเที่ยวเพราะมันหมายถึงว่าสถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในระยะเวลาเพียง 30 นาทีหรือน้อยกว่าจากสถานีขนส่งกลาง ซึ่งรวมไปถึงสถานที่อย่างวัดรินโนจิ, มีเดียเทคหรือศาลเจ้าโทโชกุด้วย ความเล็กกะทัดรัดยังหมายถึงการใช้เวลาขับรถน้อยลงเพื่อเดินทางไปยังไร่นาหรือภูเขา ขณะที่ออกมาขับรถผ่านภูเขานั้น ผมก็ได้ค้นพบวัดพุทธโจกิ เนียวไรที่ซ่อนอยู่

ใช้เวลาเดินทางหนึ่งชั่วโมงกับ 15 นาทีหรือ 90 นาทีโดยรถบัสจากสถานีเซ็นไดจะพาคุณไปยังหมู่บ้านเล็ก ๆ ชื่อโจเกะ อาสะ โอคุระ ภาพแรกที่คุณจะได้เห็นก็คือร้านค้ากับร้านอาหารตลอดถนนทั้งสายที่มุ่งไปสู่ประตูรั้วไม้ขนาดใหญ่ เมื่อคุณเดินผ่านร้านค้า กลิ่นอันหอมหวนของอาหารพื้นเมืองปรุงสด ๆ ก็ลอยมาแตะจมูก จนผมกับเพื่อนห้ามใจไม่ไหวอีกต่อไป เราตรงดิ่งเข้าไปในร้านที่ขายเต้าหู้ทอดแผ่นใหญ่ ตอนแรกผมก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันชวนกินเท่าไหร่นัก แต่พอเหยาะซอสถั่วเหลืองลงไปบนเต้าหู้ร้อน ๆ ที่เพิ่งยกขึ้นจากที่ทอด คือรสชาติแห่งนิพพานท่ามกลางเมืองพุทธแห่งนี้อย่างแท้จริง เราปล่อยให้อาหารย่อยแล้วไปเดินสำรวจร้านค้า ที่จำได้แม่นสุดคือร้านที่ขายตุ๊กตาโคเคชิทำจากมือจำนวนมหาศาล ของที่โทโฮคุนั้นขึ้นชื่อเรื่องความเป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร ซึ่งคุณสามารถหาซื้อจากที่นี่ได้หลายแบบมาก ๆ

หลังเดินผ่านถนนมาแล้วก็จะถึงประตูใหญ่ มันถูกสร้างขึ้นในปีค.ศ. 1931 และมีลายมือนายกรัฐมนตรีคนที่ 13 ของญี่ปุ่นสลักอยู่ ประตูนี้ไม่ใช่ทางเข้าของวัดใหญ่ แม้รูปประติมากรรมและสวนต่าง ๆ จะดูน่าประทับใจ แต่ลานบ้านแห่งนี้คือซาดาโยชิ-โด สุสานของซาดาโยชิ ทาอิระ ท่านเป็นผู้รับม้วนคัมภีร์ของพระอามิตาภพุทธะมาจากชิเกโมริ ทาอิระ ผู้เป็นเจ้าหน้าที่รัฐบาลในช่วงศตวรรษที่สิบสอง ที่วัดใหญ่แห่งนี้มีชื่อเสียงเพราะนำม้วนคัมภีร์จากจีนแผ่นดินใหญ่มาประดิษฐาน

เดินมาอีกไม่กี่นาทีจากสุสานอันเป็นที่พักผ่อนในสุขติของซาดาโยชิคือสวนใหญ่อันเขียวขจีที่เต็มไปด้วยสวนและน้ำพุขนาดเล็กจำนวนมาก ตามปกติแล้วพุ่มไม้และดอกไม้จะขึ้นหนาแน่นมากที่ตรงทางเข้าในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิ/ต้นฤดูร้อนมันมากจนทำให้คุณมองไม่เห็นเจดีย์ขนาดใหญ่สูง 5 ชั้นได้เลยจนกว่าจะเลี้ยวพ้นหัวมุมมา ข้อมูลจากไฟล์พีดีเอฟภาษาอังกฤษของเว็บไซต์ทางการ ระบุว่า "เจดีย์ 5 ชั้นคือปูชนียสถานศักดิ์สิทธิ์ที่สร้างขึ้นมาเพื่อซาดาโยชิ ทาอิระ และให้เป็นสัญลักษณ์ทางพุทธศาสนาเพื่อสันติชั่วนิรันดรแด่มวลมนุษยชาติ" นอกจากนี้ในญี่ปุ่นยังมีเจดีย์ที่สร้างจากไม้อยู่เพียง 32 แห่ง การได้มาเห็นจริงถือเป็นบุญตามาก! ออกจากสวนใหญ่โดยใช้ทางเดิมกับที่คุณเข้ามาแล้วเลี้ยวขวา จะมีศาลาใหญ่ตั้งอยู่ แม้จะสร้างขึ้นในปีค.ศ. 1999 แต่อาคารแห่งนี้ก็ดูสง่างามและให้บรรยากาศกลิ่นอายทางประวัติศาสตร์ การตกแต่งที่กลมกลืนไปกับธรรมชาติรอบข้างบวกกับงานไม้ชั้นเยี่ยมดึงดูดสายตาให้มองเห็นวัดแห่งนี้จนลึกถึงรายละเอียด สิ่งที่คุณจะไม่เห็นเลยคือรอยตะปูกับสลัก วัดแห่งนี้ถูกบูรณะใหม่ด้วยความอุตสาหะโดยใช้เทคนิคแบบดั้งเดิมที่ทำให้โครงสร้างยังมีความแข็งแรงพอที่จะทนทานแรงแผ่นดินไหวและพายุไต้ฝุ่นโดยไม่ต้องพึ่งตัวยึดโลหะสมัยใหม่เลย แผ่นสลักภาษาอังกฤษบอกเล่าประวัติศาสตร์และกล่าวอธิบายม้วนคัมภีร์ของพระอามิตาภพุทธะที่ประดิษฐานอยู่ภายใน คำสวดอธิษฐานสำหรับการแต่งงาน ความสัมพันธ์ หรือเพื่อธุรกิจสามารถหาซื้อได้ตรงบริเวณที่ทำการ หรือลองไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์เข้าฟรีเพื่อดูทรัพย์สมบัติบางส่วนของวัด เมื่อคุณต้องการพักจากความวุ่นวายในเมือง ขอเชิญให้คุณไปเดินทางแสวงหาจิตวิญญาณของตัวเองผ่านบรรดาภูเขาของนครเซ็นไดจนถึงวัดโจกิ เนียวไรและย้อนกลับมา

Onlada Chollavorn

Onlada Chollavorn @onlada.chollavorn

My name is Onlada. I am passionate about creative thinking and digital technology. My motto is “The price of success is hard work, dedication to the job at hand, and the determination that whether we win or lose, we have applied the best of ourselves to the task at hand.”