ตำนานญี่ปุ่นโบราณยังไม่สาบสูญและยังโลดแล่นอยู่ที่หมู่บ้านทาคาชิโฮะของมิยาซากิ แต่ที่ชัดเจนที่สุดคือถ้ำกับศาลเจ้าอามะ-โนะ-อิวาโตะ ตรงนี้คือจุดที่เทพีสุริยะอามาเตะราสุซึ่งเป็นบรรพชนในวงศ์จักรพรรดิญี่ปุ่นได้ขังตัวเองไว้เและทำให้แสงอาทิตย์หายไปจากแผ่นดินญี่ปุ่น
ที่บริเวณอันเงียบสงบในคิวชูตอนกลางนี้มีตำนานและประวัติศาสตร์จริงปะปนรวมกัน ชื่อต่าง ๆ ที่เกียวข้องกับภูมิภาคนี้ออกเสียงเหมือนผู้ที่มาจากโคจิคิ ซึ่งเป็นตำราสมัยศตวรรษที่ 8 ว่าด้วยรายละเอียดของเหล่าเทพเจ้าที่เป็นผู้วางรากฐานศาสนาชินโตของญี่ปุ่น ทั้งเทพีสุริยะ เทพพายุ เทพพลังสวรรคฺ์...ทั้งหมดนี้กลายเป็นชื่อสถานที่บนตำแหน่งภูมิศาสตร์ของทาคาชิโฮะ
ที่อามะ-โนะ-อิวาโตะ ตำนานเก่าแก่ของอามาเทราสุอยู่ ณ ถ้ำแคบในผนังหินแกร่งของโกรธารแคบ อามาเทราสุผู้เผชิญศึกอันดุเดือดกับผู้ร่วมสายโ,หิตได้ขังตัวเองไว้ในนี้เพื่อประท้วงพฤติกรรมทำลายล้างของน้องชายตนเองนามซูซาโนะโอะ เทพแห่งพายุ การเก็บตัวของนางทำให้โลกตกอยู่ในเงามืดมิดและเหล่าทวยเทพต่างเริ่มสิ้นหวัง มีความพยายามที่จะเกลี้ยกล่อมนางให้กลับออกมาครั้งแล้วครั้งเล่าแต่ก็ล้มเหลว จนกระทั่งเทพีแห่งความสำราญมาเต้นรำหลอกล่อ เมื่ออามาเทราสุก้าวออกไปเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น เหล่าเทพจึงได้นำประตูถ้ำออกไป และโลกก็กลับมาสว่างอีกครั้ง
ซึ่งสถานที่จริงก็ตรงกับตำนาน เพราะไม่มีก้อนหินวางอยู่หน้าถ้ำที่อามะ-โนะ-อิวาโตะ แต่มีซุ้มโ?ริอิมาวางตั้งแทน แสดงถึงความศักดิ์สิทธิ์ของบริเวณนี้ ในความมืดมิดของถ้ำอาจสัมผัสได้ว่าอามาเทราสุยังอยู่ด้านใน เก็บกักแสงสุริยะอันล้ำค่าของนางไว้ แม่น้ำที่ไหลผ่าโกรกธารนี้สวยงามมาก อาจไม่ใหญ่เท่าโกรกธารทาคาชิโฮะที่อยู่ติดกัน แต่การปีนเขาครึ่งไมล์ริมฝั่งแม่น้ำนั้นก็เพลิดเพลินดี โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ร่วง
พอกลับไปที่บนยอดผา นักท่องเที่ยวสามารถแวะไปยังศาลเจ้าอามะ-โนะ-อิวาโตะเพื่อสักการะเทพผู้ให้กำเนิดแผ่นดินญี่ปุ่น อาจไม่มีอะไรน่าชมมากไปกว่าลานโล่ง แต่ว่าอีมะ (ป้ายขอพร) ของศาลเจ้านี้สีสันสวยงามสุดเท่าที่แันเคยเห็นมาเลย