พระพุทธรูปหินมันจิ (เครดิตรูปภาพ: Reiko Senna)

พระพุทธรูปที่ไม่เหมือนใคร

พระพุทธรูปขนาดใหญ่ที่ทำจากหินธรรมชาติ

พระพุทธรูปหินมันจิ (เครดิตรูปภาพ: Reiko Senna)
Suwannee Payne   - ใช้เวลาอ่าน 1 นาที

พระพุทธรูปหินที่มีจมูกใหญ่ตั้งอยู่โดดเดี๋ยวในนาข้าวเล็กๆ ในป่าใกล้กับศาลเจ้าสุวะ-ไทชะ (Suwa-Taisha) ที่มีชื่อเสียง ในชิโมะ-สุวะ (Shimo-Suwa) นากาโนะ มีชื่อเรียกว่าพระพุทธรูปมันจิ (‘Manji no Sekibutsu’ 万治の石仏) ประกอบด้วยลำตัวที่เป็นก้อนหินใหญ่สูงสองเมตร และศีรษะที่เป็นก้อนหินสูง 65 เซนติเมตรวางอยู่บนลำตัว จมูกขนาดใหญ่ที่ไม่สมดุลกับใบหน้า ให้ความรู้สึกแปลก มีอารมณ์ขัน และดูเหมือนไม่ใช่พระพุทธรูป แต่ลวดลายแกะสลักบนลำตัวแสดงให้เห็นว่าเป็นพระพุทธรูป ชื่อศักราชของญี่ปุ่นที่สลักบนลำตัวของพระพุทธรูปหิน มันจิ 3 (Manji III) หมายความว่าพระพุทธรูปหินนี้ถูกสร้างขึ้นในปี 1660 เป็นเพราะรูปลักษณ์ของพระพุทธรูป ทำให้พระพุทธรูปหินนี้ถูกละเลยและทิ้งคว้าง สามร้อยปีต่อมาในศตวรรษที่ 20 พระพุทธรูปได้ถูกค้นพบโดยนักประพันธ์ที่มีชื่อเสียง Jiro Nitta (1912-1980) นักประพันธ์ที่มีถิ่นกำเนิดในคะมิ-สุวะ (Kami-suwa) นากาโนะ และศิลปิน Taro Okamoto (1911-1996) ผู้สร้าง Tower of the Sun ในงาน Expo 70 ที่โอซาก้า ตั้งแต่นั้นมาพระพุทธรูปหินได้กลายเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง และมีนักท่องเที่ยวมากมายมาเยี่ยมชมกันอย่างต่อเนื่อง ในปี 1991 ก้อนหินที่เป็นศีรษะของพระพุทธรูปได้ร่วงหล่นจากลำตัว ต่อมาได้มีการจัดวางขึ้นใหม่

ตามตำนานกล่าวว่าคนตัดหินกำลังตัดหินขนาดใหญ่เพื่อสร้างประตูของศาลเจ้า เมื่อเขาตัดหิน หินก้อนนั้นกลับมีเลือดซึมออกมา คนตัดหินตกใจยิ่งนัก จึงหยุดตัด ในความฝันของเขา มีเสียงบอกให้เขาหาหินก้อนอื่นเพื่อทำเป็นประตูศาลเจ้า และเขาก็ประสบความสำเร็จ เขาหวาดหวั่นต่อหินที่มีเลือดซึม จึงตัดสินใจทำหินก้อนให้เป็นพระพุทธรูป รอยแผลเป็นที่เกิดขึ้นเมื่อคนตัดหิน ตัดหินก้อนนั้นยังคงเห็นได้ในทุกวันนี้

หินก้อนนี้ได้กลายเป็นฮอตสปอตในหมู่นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น เป็นเรื่องสนุกสนานสำหรับพวกเขาที่ได้เสาะหาสถานที่ท่องเที่ยวที่แตกต่างออกไป แม้ว่าสิ่งนั้นจะเป็นผลิตภัณฑ์ของแท้ของประเทศญี่ปุ่นและคนญี่ปุ่นเอง

Suwannee Payne

Suwannee Payne @suwannee.payne

I am a Thai woman who has spent half of her life in beautiful Ottawa, capital city of Canada. I enjoy crafting, gardening, photography, bicycle touring and my new found love blogging. You can visit my blog (In Thai) at here It is a beautiful site. The name Ban Suanporpeang means 'Humble little...