“สวรรค์บนดิน” คือชื่อเรียกของคามิโคจิที่ผมค้นเจอว่า จะไปเที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ไหนดี จะว่าไปแล้วฉายา “สววรรค์บนดิน” ก็ถือว่าไม่ผิดนักเนื่องจาก คามิโคจิ (Kamikochi) เป็นพื้นที่ราบสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,500 เมตร ถูกรายล้อมด้วยภูเขาสูงใหญ่มากมาย นอกจากจะทำให้อากาศเย็นสบายตลอดปีแล้ว ความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติยังถูกรักษาไว้เป็นอย่างดี การมาเที่ยวหย่อนอารมณ์ที่คามิโคจิจึงเหมือนได้ตัดขาดจากโลกภายนอกที่แสนวุ่นวาย และหากใครมาได้ถูกเวลาถูกจังหวะอย่างช่วงที่ใบไม้กำลังเปลี่ยนสีส้มแดง บรรยากาศของคาโมโคจิก็เหมือนสวรรค์จริงๆนั่นแหละ
คามิโคจิ มีอะไรให้เที่ยวชมบ้าง? คำตอบแบบจริงใจที่สุดก็คือ ต้นไม้ สายธาร และ ภูเขา แค่นี้แหละ (ฮา) แม้ว่าจะมีโรงแรมและรีสอร์ทถูกสร้างขึ้นอยู่บ้างแต่การเดินทางมาที่คามิโคจินี้ยังถูกจำกัดโดยรถบัสเท่านั้น รถส่วนตัวยังไม่อนุญาติให้เข้าถึงได้ จึงรับประกันได้ถึงความสงบเงียบและธรรมชาติแบบไม่ปรุงแต่ง ใครที่เป็นนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติ ขอแค่มีกล้องหนึ่งตัวรองเท้าเดินป่าก็คงฟินกับที่นี่ได้ทั้งวัน
คามิโคจิตั้งอยู่ในเขตจังหวัดนากาโน่ ใช้เวลาเดินทางมาจากเมืองมัตซึโมโต้ประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที เนื่องจากที่พักในคามิโคจิมีจำกัดและได้ยินว่าราคาค่อนข้างสูง ถ้าอยากมาเที่ยวที่คามิโคจิแนะนำให้หาที่พักที่เมืองมัตซึโมโต้จะง่ายกว่า
คามิโคจิมีเส้นทางการเดินชมธรรมชาติหลายเส้น ซึ่งถ้าจะเดินให้ทั่วจริงๆคงใช้เวลาซัก 1-2 วัน แต่ถ้าใครไม่ได้เป็นสายธรรมชาติจัดขนาดนั้น อยากจะเก็บบรรยากาศแบบชิลล์ๆเดินสบายๆแนะนำเส้นทางเดินเล่นตามนี้เลย
เมื่อรถบัสมาถึงคามิโคจิ ให้ลงที่ป้าย “Taishoike Bus Stop” ซึ่งจะเป็นป้ายแรกเมื่อถึงคามิโคจิ (แต่ถ้าใครอยากจะแพลนแบบจัดเต็มก็ไปลงที่ Kamikochi Bus Terminal แล้วไปหาข้อมูลเพิ่มที่ Visiting Center ได้) เมื่อลงจากรถมาเดินมาอีกนิดเดียวก็จะเจอกับ Taisho Pond ทันที ซึ่งเชื่อแน่ๆว่าแค่ตรงนี้ก็ต้องร้องว้าวกับบรรยากาศที่อยู่ต่อหน้าแน่นอน จากบริเวณนี้เดินชมธรรมชาติแบบสบายไปอีกไม่นานก็จะพบกับ Tashiro Bridge ซึ่งจะสามารถมองเห็นความสวยงามของแม่น้ำ Azusa ที่เป็นสีฟ้าสดตัดกับใบไม้สี่เขียวแดงเหลืองแบบไม่เคยเจอมาก่อน และสุดท้ายคือ Kappa Bridge หรือสะพานกับปะ จุดศูนย์กลางและจุดนัดพบของ คามิโคจิ พักให้หายเหนื่อย หาข้าวหาน้ำกิน แล้วก็สามารถขึ้นรถบัสกลับมัตซึโมโต้ได้เลย
(จาก Taisho Pond เดินถึง Kappa Bridge จะใช้เวลาเดินประมาณ 1- 1ชั่วโมงครึ่ง ขึ้นกับว่าอินกับบรรยากาศมากแค่ไหน)
มนุษย์เงินเดือนธรรมดาอย่างผมไม่ค่อยได้เห็นป่าเห็นเขาในชีวิตประจำวัน การเดินทางมาเที่ยวคามิโคจิแบบเช้าเย็นกลับถือว่าช่วยเติมพลังงานชาร์จพลังขีวิตได้ค่อนข้างดีเลย ล้านภาพถ่ายก็ไม่เทียบเท่าหนึ่งตามอง ถ้าทริปญี่ปุ่นครั้งหน้ายังไม่รู้จะไปไหนฝากคามิโคจิไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะครับ