สวนซึตรุมิเนะ (Tsurumine) และต้นอะเซลเลีย 30,000 ต้น ของเมืองโอะกะยะ (Okaya) นากาโนะ (Nagano) เป็นสวนอะเซลเลียที่หญ่ที่สุดในญี่ปุ่นกลาง
เมืองโอะกะยะ ตั้งอยู่ส่วนกลางของนากาโนะ ห่างจากโตเกียว 120 กิโลเมตร บนฝั่งทะเลสาปสุวะ (Suwa) สูงจากระดับน้ำทะเล 760 เมตร มีประชากร 53,000 คน
เส้นใยไหมของโอะกะยะมีชื่อเสียงโด่งดังทั่วโลกมาตั้งแต่โบราณ จนถึงต้นปีโชวะ (Showa) โอะกะยะมีโรงงานผลิตเส้นใยไหมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น หลังจากสงครามโลกครั้งที่สอง เส้นใยไหมได้ถูกแทนที่โดยเส้นใยเคมี และนั่นก็ได้เปลี่ยนรูปโฉมของเมืองโอะกะยะให้กลายมาเป็นดินแดนแห่งผลิตภัณฑ์ที่พิถีพิถันและแม่นยำ เช่น นาฬิกา ทำให้โอะกะยะมีชื่อว่า ‘สวิสเซอร์แลนด์ตะวันออก’ ทุกวันนี้เมืองโอะกะยะมีเป้าหมายที่จะเป็นฐานการผลิตผลิตภัณฑ์ที่พิถีพิถันและแม่นยำระดับโลก
ในปี 1923 Kanetaro Katakura เจ้าของโรงงานผลิตเส้นใยไหมได้สังเกตเห็นว่าคนงานในโรงงานของเขาไม่มีใครมีการศึกษาเลย เขาจึงได้ก่อตั้งโรงเรียนประถมศึกษาขึ้น จากนั้นหมู่บ้านนี้ก็กลายเป็นศูนย์กลางการศึกษา ในปี 1935 เขาได้บริจาค ที่ดิน 1.60 เฮคเตอร์ เพื่อใช้เป็นสวนสาธารณะแก่หมู่บ้านคะวะกิชิ (ในปัจจุบันคือเมืองโอะกะยะ) และให้ชื่อว่าซึรุมิเนะ (Tsurumine) คนในหมู่บ้านตัดสินใจปลูกต้นอะเซลเลีย 300 ต้นในสวนสาธารณะแห่งนี้ เพื่อเป็นที่ระลึกของการบริจาคที่ดินของตระกูล Katakura พวกเขาได้สั่งต้นอะเซลเลียจากชาวสวนที่หมู่บ้าน Angyo ในไซตะมะ ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่มีชื่อเสียงในการเพาะต้นไม้และพืชสวน คนในหมู่บ้านได้สั่งต้นอะเซลเลียโดยการยกนิ้วขึ้นสามนิ้วเพื่อหมายถึง 300 ต้น แต่ชาวสวนเข้าใจว่าสามนิ้วหมายถึงขนส่งสามคันรถบรรทุก เพราะตระกูล Katakura เป็นที่รู้จักกันว่าเป็นครอบครัวที่ร่ำรวยมาก
คนในหมู่บ้านต้องประหลาดใจมากเมื่อเห็นต้นอะเซลเลียที่จัดส่งโดยรถบรรทุกถึงสามคันรถ ห่างไกลจากต้นอะเซลเลีย 300 ต้นที่พวกเขาคาดหวังไว้ เมื่อไม่สามารถจะส่งคืนได้ ทุกคนในหมู่บ้านจึงรวมตัวกันปลูกต้นอะเซลเลียทั้งหมดในสวนสาธารณะ ความเข้าใจผิดอันนั้นคือที่มาของต้นอะเซลเลียในสวนซึรุมิเนะ ทุกวันนี้ที่สวนมีต้นอะเซลเลีย 30,000 ต้น 30 สายพันธ์ และได้กลายเป็นสวนอะเซลเลียที่หญ่ที่สุดในญี่ปุ่นกลาง ในกลางเดือนพฤษภาคมสวนแห่งนี้จะแต่งแต้มไปด้วยดอกไม้สีแดง สีชมพู สีส้ม สีม่วงและสีขาว คุณจะต้องตะลึงที่ได้เห็นอะเซลเลียที่มีสีสันสดสวยกระจุกกันเต็มพุ่มบนเนินเขา และถ้าคุณขึ้นไปบนเขา คุณก็จะสามารถมองเห็นยอดของภูเขาฟูจิและเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น สวนซึตรุมิเนะ จะงดงามอย่างน่าอัศจรรย์ในกลางเดือนพฤษภาคม แต่เนื่องจากหิมะที่ตกมาในเดือนมีนาคม 2014 สูงถึง 100 ซม ทำให้ดอกอะเซลเลียบานล่าช้ากว่าปกติถึงสองสัปดาห์
