ปราสาทมัตซึโมโต้ หนึ่งในสัญลักษณ์ของเมืองนากาโน่ (เครดิตรูปภาพ: Napon Thipphayamontol)

สัมผัสลมหนาวแดนอาทิตย์อุทัย นากาโน่

เมืองแห่งประวัติศาสตร์และธรรมชาติใจกลางเกาะฮอนชู

Napon Thipphayamontol   - ใช้เวลาอ่าน 1 นาที

   " นากาโน่ " หนึ่งในเมืองที่น่าจะคุ้นหูนักท่องเที่ยวชาวไทย ในฐานะเมืองท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยกิจกรรม สถานที่ต่างๆสวยงามแตกต่างกันไปในแต่ละฤดูกาล สภาพเมืองที่มีฝนตกน้อย โอบล้อมด้วยเทือกเขาสูงใจกลางเกาะฮอนชู สร้างสรรค์ความสวยงามทางธรรมชาติให้กับพื้นที่ในเมืองนากาโน่นี้ได้เป็นอย่างดี แต่ในเมื่อได้โอกาสมาที่ญี่ปุ่นทั้งที ตัวผมซึ่งอยู่ในเมืองไทยสยามเมืองยิ้มมาตลอด ก็อยากจะสัมผัสอากาศหนาวสุดๆซักครั้ง ซึ่งก็ได้พบสมใจอยากเพราะได้ไปในช่วงเดือนมกราคม หนีอากาศที่เริ่มจะหายหนาวจากเชียงใหม่บ้านเกิดไปแดนอาทิตย์อุทัยซักที :) 

   ผมได้ไปที่เมืองนากาโน่ เนื่องจากมีญาติอาศัยอยู่ที่นี่ (ประหยัดตังค์ครับ ฮ่าๆ) ซึ่งก็ได้เดินทางมาหลังจากได้ไปตะลุยเมืองหลวงโตเกียวกันมาแล้ว 
โดยได้เดินทางโดยรถไฟชินกันเซ็นที่ขึ้นชื่อของญี่ปุ่น ไม่นานก็ได้มาถึงที่นาโกย่า แล้วให้คุณอามารับครับ เวลาที่ไปถึงก็คล้อยบ่ายไปแล้ว วันนี้เลยได้ไปดูปราสาทมัตซึโมโต้ แล้ววันรุ่งขึ้นค่อยไปเที่ยวไร่วาซาบิกัน

  พวกเราได้เดินทางมาถึงใจกลางของเมืองนากาโน่ อันเป็นที่ตั้งของปราสาทที่เป็นความภาคภูมิใจของชาวญี่ปุ่น นั่นคือ "ปราสาทมัตซึโมโต้" หรือปราสาทอีกาดำ จากสีดำสนิทของตัวปราสาทที่กลายเป็นเอกลักษณ์ นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดในการบันทึกภาพปราสาทสะท้อนน้ำกับแสงในยามเช้าหรือเย็น ผู้เขียรับประกันครับว่าสวยมากกก ถ่ายได้ไม่มีเบื่อเลยทีเดียว ยิ่งอากาศหนาวๆ คนขี้ร้อนอย่างผมก็สบายล่ะครับ เดินเที่ยวซะทั่วเลย ส่วนด้านในปราสาทนั้นจะมีโบราณวัตถุ ชุดซามูไร ประวัติศาสตร์ของตัวปราสาทธิบาย ซึ่งหากขึ้นไปถึงชั้นบนสุด จะสามารถมองเห็นตัวเมืองนากาโน่ได้เกือบรอบเลยครับ จนใกล้ค่ำแล้วก็ไปพักที่บ้านคุณอา เตรียมเที่ยวในวันรุ่งขึ้นต่อไป

 เช้าวันใหม่ในนากาโน่ วันนี้พวกเราจะไปเยี่ยมชมไร่วาซาบิ เครื่องเคียงที่ขาดไม่ได้ของคนรักซูชิและซาชิมิ วาซาบินั้นเป็นพืชที่ต้องการอาหาศหนาวเย็น และลำน้ำที่ใสสะอาดในการเพาะปลูก ซึ่งรอบๆเมืองนากาโน่นั้นก็เป้นพื้นที่มีลำธารจากเทือกเขาสูงอยู่หลายแห่ง ทำให้ที่นี่เป็นแหล่งเพาะปลูกวาซาบิที่ขึ้นชื่ออีกแห่งหนึ่งครับ แต่น่าเสียดายที่วันที่ผมไปนั้นไร่ปิด =*=  เลยได้แต่เดินเล่นรอบๆ แต่อากาศและธรรมชาติก็ทำให้เดินกันเพลินๆ สบายๆครับ แต่ยังดีที่ร้านค้าของไร่ยังเปิดอยู่ ก็มีสินค้าจากวาซาบิหลายๆอย่างขาย แต่ที่สะดุดตาผมมากที่สุดคือไอศกรีมวาซาบิ!!! ซึ่งในตอนแรกก็ไม่ค่อยกล้าเพราะรู้สึกว่ามันไม่น่าจะเข้ากันนะ เย็นๆเผ็ดๆรึเปล่า แต่พอลองแล้ว . . . ซื้ออีกครับ ฮ่าๆๆ ไม่เผ็ดเลย มีแต่กลิ่นของพืชผัดหอมๆ สดชื่นทั้งนั้น แนะนำให้ลองกันนะครับใครที่มาเที่ยวแล้วเจอร้านขายไอศกรีมวาซาบิ คนรักไอศกรีมแบบผมได้มากินในที่หนาวๆแบบนี้ฟินนน ไปอีกนานครับ :) 

 อยู่มาได้เกือบสองวัน คุณอาก็ถามผมว่า รู้สึกว่าที่นี่คล้ายกับเชียงใหม่มั๊ย? . . . ซึ่งผมก็รู้สึกถึงความคล้ายกันของเมืองนากาโน่นี้กับเมืองเชียงใหม่มาก ที่มีตัวเมืองไม่ใหญ่กำลังดี มีปราสาทใจกลางเมืองคล้ายๆกับอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ของเมืองเชียงใหม่ ออกจากเขตเมืองไม่นานก็ได้เจอธรรมชาติสวยๆ เทือกเขาล้อมรอบแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าที่เที่ยวในเมืองนากาโน่ยังมีอีกเยอะจนผมไม่สามารถไปหมดได้ รับรองว่าหากมีโอกาสมาญี่ปุ่นอีก ผมจะกลับมาอีกแน่นอนครับ . . . นากาโน่ :) 

Napon Thipphayamontol

Napon Thipphayamontol @napon.thipphayamontol

สวัสดีครับ ผมชื่อจอมนะครับ ตอนนี้อายุ 24  จบจากภาควิชาประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เคยทำงานช่างภาพ/ผู้สื่อข่าว/บรรณาธิการมาเกือบหนึ่งปี ตอนนี้เป็นช่างภาพฟรีแลนซ์ครับ รักการถ่ายภาพ ท่องเที่ยว ต้องมีออกทริปทุกปีครับ :D  ยินดีที่ได้รู้จักทุกๆคนครับ :)