ศาลเจ้าชินโตอุชิมาโดะ

เมื่อได้มายืนริมชายหาดพร้อมกลับคลื่นอันอ่นนุ่มที่กระทบเข้าหาผืนทราย ก็แทบจะไม่มีแก่ใจปีนบันไดขึ้นไปยังศาลเจ้าอุชิมาโดะ ชินโตแล้ว แต่ยังดีที่ขาขึ้นนั้นมีวิวสุดแสนจะงดงามและไม่ยาวมากนัก และคุณจะไม่เสียดายที่ได้ขึ้นไป

เดินไปไม่กี่ร้อยเมตรผ่านป่าทึบจะเป็นบันไดที่ทอดขึ้นผ่านอุโมงค์สีเขียว โดยขั้นบันไดนั้นไม่ต้องใช้แรงขามากเกินไปซึ่งจะเห็นได้จากผู้หญิงสูงอายุที่มาร่วมปีนด้วย บางครั้งผมก็ประหลาดใจกับความทรหดของผู้หญิงญี่ปุ่นอาวุโสมาก เพราะดูเหมือนจะเจออยู่ทุกยอดเขาที่ผมได้ไปปีนมา แต่ผมก็ได้ยินผู้หญิงสูงอายุร่างเล้กคนหนึ่งที่กำลังตามแถวคนปีนขึ้นตะโกนว่า "น่ากลัว!" ที่จุดแคบหนึ่งของช่วงขาขึ้นด้วย 

หลังผ่านช่วงแรกของบันไดจะมีจุดชมวิวมองลงไปเห็นบริเวณของเมืองกับบรรดาเกาะ เป็นจุดพักผ่อนที่ลงตัวแต่ถ้าหากคุณอยากจะชมทิวทัศน์ที่ยิ่งสวยกว่านี้ก็แนะนำให้ไปยังสวนมะกอกที่ยอดเขาอีกจุด เดินต่อไปอีกก็จะพบกับอุโมงค์ต้นไม้และบันไดต่อ จากจุดนี้อีกเพียง 90 เมตรก็ถึงศาลเจ้าแล้ว การปีนบันไดขาขึ้นนั้นมีเสน่ห์บางอย่างของญี่ปุ่นยุคเก่าที่หาได้ยากยิ่งถ้ามากับทัวร์รถบัสสมัยนี้ พร้อมกับป้าย "ห้ามเหยียบหญ้า!" อยู่เต็มไปหมด

ศาลเจ้านั้นมีขนาดค่อนข้างใหญ่พร้อมกับมอสส์และต้นเมเปิลที่ให้ความรู้สึกแบบญี่ปุ่นขนานแท้ หัวหน้านักบุญโยชิฮิโระ โอคาซากิมีความเป็นกันเองมากและชอบพูดภาษาอังกฤษด้วย ถ้าหากคุณมีคำถามหรืออยากจะหาเพื่อนคุยเป็นภาษาอังกฤษด้วยท่านก็จะดีใจมาก ๆ ศาลเจ้าแห่งนี้สร้างอุทิศแด่องค์จักรพรรดินีจินกุผู้เป็นตำนาน ชายาขององค์จักรพรรดิชูไอที่ 14 ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะมารดาอุปถัมภ์แห่งญี่ปุ่น

อาคารใหญ่ (จุดศูนย์กลางของการสักการะที่ตั้งอยู่ด้สนหลังศาลาทำวัตรซึ่งจัดพธีกรรมใหญ่ ๆ ขึ้นที่นั่น) มีอายุกว่า 200 ปีและทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ เร็ว ๆ มานี้ได้มีการ "ปฏิรูป" อาคารขึ้นมาใหม่ให้สะอาดขึ้นและมีรูปแบบโครงสร้างตามของแท้ อาคารส่วนใหญ่ค่อนข้างเก่าแก่แล้ว แต่ว่าการบำรุงรักษาได้สับเปลี่ยนวัสดุจำนวนมากที่เริ่มเกินอายุ การปรับเปลี่ยนอาคารทั้งหลังทำให้ระบุวันที่ถูกสร้างได้ยาก

วันที่ 30 สิงหาคมของทุกปีที่ศาลเจ้าจะมีการจัดเทศกาลฤดูร้อน มีการสร้างสนามหญ้าขนาดใหญ่ให้เป็นจุดศูนย์กลางและสนามเล็ก ๆ สำหรับผุ้เข้าร่วมพิธี ผู้เข้าร่วมสามารถเดินรอบสนามสามรอบ และอธิษฐานขอพรกับศาลเจ้า ที่นี่ยินดีต้อนรับทุก ๆ คน ถ้าช่วงนั้นคุณอยู่แถวอุชิมาโดะพอดีก็จะเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจมาก