พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งโอซาก้า ไคยุกัง ต้อนรับเราด้วยป้ายขนาดใหญ่กับข้อความภาษาไทย "ยินดีต้อนรับ"
เพียงแค่เห็นแว่บแรก ลูกชายตัวน้อยของเราก็วิ่งตรงรี่เข้าไป สถานที่แห่งนี้คือจุดหมายปลายทางที่เขารอคอยมาแรมปี
ที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำในประเทศญี่ปุ่นในเมืองสำคัญต่างๆ จะมีจุดขายเป็นมาสคอตของแต่ละสถานที่ อย่างที่โยโกฮามา ซี พาราไดซ์ มาสคอตคือวาฬเบลูก้าสีขาว และที่ไคยุกังนี้ พระเอกของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำบนอาคาร 7 ชั้น คือ ฉลามวาฬ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ที่ว่ายวนไปมา รายล้อมด้วยฝูงกระเบนนก และกระเบนราหู แมนต้าเรย์ ตัวยักษ์ที่แสนใจดี
ไคยุกัง สร้างแท๊งค์ของเจ้าฉลามวาฬที่ใจกลางอาคาร รายล้อมด้วยการจัดแสดงพันธุ์สัตว์น้ำจากทุกเขตสภาพอากาศของโลก และ "ไคยูพาส" บัตรผ่านที่พ่วงการโดยสารรถไฟใต้ดินแบบอินลิมิเต็ด สนนราคาใบละ 2400 เยน คือทางเลือกที่ดีสำหรับการเดินทางไปยังพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งนี้ เพราะบริเวณโดยรอบไคยุกัง คือท่าเรือ และเป็นที่ตั้งของชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่แห่งโอซาก้า ซึ่งบัตรไคยูพาสได้รวมส่วนลดขึ้นชิงช้าสวรรค์เอาไว้ด้วยแล้ว
ความประทับใจที่สุดของการไปเยือนไคยุกังของครอบครัวเรา นอกจากสายตาที่เป็นประกายในนาทีแรกที่ลูกมองเห็นฉลามวาฬที่เขาฝันอยากจะเจอมาแสนนานแล้ว เรายังได้รับการต้อนรับอย่างดีจากพนักงานต้อนรับ เมื่อเราออกตามหา "ปลาพระอาทิตย์" ที่เคยค้นคว้ามาว่ามีอยู่ที่นี่ แต่เดินเท่าไหร่ ก็ยังหาเจ้าปลาพระอาทิตย์นี้ไม่เจอ
เมื่อเราเดินไปสอบถามเจ้าหน้าที่ พร้อมกับพยายามอธิบายเป็นภาษามือ พนักงานต้อนรับที่แสนใจดีได้พยายามที่สุดที่จะอธิบายว่า เหตุใดวันนี้เราจึงไม่ได้เจอกับปลาพระอาทิตย์ และเมื่อเธอเห็นสายตาที่ค่อนข้างผิดหวังของเด็กน้อยของเรา เธอหยิบกระเป๋าสตางค์ของเธอขึ้นมา พร้อมกับส่งกระดาษใบเล็กๆ ให้ ซึ่งเมื่อเราพลิกดู เราอาจอ่านภาษาญี่ปุ่นที่เขียนเอาไว้นั้นไม่ออก แต่เราอ่านเจตนาที่น่ารัก และน้ำใจของเธอออกจากสายตา และความพยายามทั้งหมดของเธอ เธอมอบกระดาษเล็กๆ แผ่นนั้น ซึ่งเป็นรูปปลาพระอาทิตย์ให้กับลูกชาย ซึ่งผ่านมากว่า 2 ปีแล้ว...ลูกยังคงเก็บกระดาษแผ่นนั้นไว้อย่างดี และนี่คืออีกหนึ่งความประทับใจที่เกิดขึ้นที่นี่ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยุกัง อีกหนึ่งสวรรค์ของเด็กน้อยที่หลงรักท้องทะเล