เมื่อก้าวเท้าออกจากสถานี JR ทามาสึกูริ คุณจะพบกับร้านกาแฟชื่อ มากาทามะที่เพิ่งเปิดเมื่อเร็วๆนี้
เมื่อคุณเดินเข้าร้านคุณจะรู้สึกเหมือนเดินเข้าไปในพื้นที่ของตู้ต้นสนมากมายและกำแพงปูนสีเขียวทำให้ร้านมีบรรยากาศแห่งความอบอุ่นและสุภาพนุ่มนวล นอกจากนี้ คุณจะรู้สึกผ่อนคลายไปกับมื้ออาหารสุดอร่อยบนโต๊ะไม้ประณีตแบบชนบท
เมนูสุดอร่อยของมากาทามะมักทำให้ผู้คนอิ่มอร่อยเสมอโดยเฉพาะเซตอาหารกลางวันแบบคอมโบ ฉันขอแนะนำให้ทานแซลมอนและขนมปังคอมโบและสตูว์ผัก ขนมปังแซนด์วิชห่อมีทั้งเนื้อ เนยแข็งและผักซึ่งมีรสชาติสุดยอด จานคอมโบอื่นๆก็อร่อยเช่นกัน ฉันมักพบว่าซอสของร้านนี้น่าปลื้มมาก ระหว่างช่วงอาหารเย็น พาสต้าสดเป็นสิ่งที่ต้องทานแลไม่ควรพลาดกาแฟกรุ่นและเครื่องดื่มทั้งหนักและเบา
ร้านกาแฟสร้างขึ้นเมื่อปี 1998 และมีการทำใหม่ในปี 2000 โดยที่เจ้าของและพนักงานช่วยกันออกแบบโต๊ะและเก้าอี้ภายในใหม่
คำขวัญของ มาทากามะ คือ Fluxus ซึ่งหมายถึงผู้คนและปฏิสัมพันธ์ การสร้างเครือข่ายนานาชาติของศิลปิน นักแต่งเพลงและนักออกแบบที่ผสมผสานสื่อศิลปะเข้าไว้กับหลักเกณฑ์อื่นๆที่เกี่ยวข้อง
แนวคิดดั้งเดิมของเจ้าของคือการบริหารร้านที่ทั้งเสิร์ฟอาหารและการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมที่แตกต่าง ที่นี่มีเมนูภาษาอังกฤษเพื่อต้อนรับลูกค้าต่างประเทศด้วย ฉันชื่นชมที่เจ้าของเป็นคนที่มักเรียนรู้สิ่งต่างๆด้วยตนเองและแปลรายการอาหารสำหรับผู้ที่พิการทางสายตาไว้ให้อีกด้วย
สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่รวมตัวของศิลปินและนักดนตรี ที่นี่มีชั้นให้บริการงานนิทรรศการศิลปะและคอนเสิร์ตสดประจำเดือนอีกด้วย ถ้าคุณเป็นศิลปินหรือนักดนตรี ทำไมคุณจะไม่ลองมาแสดงผลงานและความสามารถของคุณที่นี่ดูหล่ะ ที่นี่ไม่คิดบริการค่าธรรมเนียมและเป็นสถานที่ที่ดีสำหรับการแสดงและโฆษณาความสามารถของตนเอง
ร้านกาแฟแห่งนี้เป็นมิตรกับสุนัข ยามวันหยุดสุดสัปดาห์หรือวันหยุดราชการ คุณสามารถมารับประทานอาหารที่นี้กับเข้าตัวขนของคุณได้ ที่นี่ไม่ได้เป็นร้านกาแฟสุนัขที่จะมีบริการอาหารสุนัข แต่ว่าก็เป็นร้านที่ให้เจ้าของมีช่วงเวลาดีๆกับสุนัขของตนเองได้ เพื่อนเก่าของฉันชื่อ เอลิซาเบธ โอลิเวอร์ที่เป็นตัวแทนของAnimal Refuge Kansai (ARK) ก็แปะรูปสุนัขเอาไว้ที่กำแพงด้วย ร้านแห่งนี้สนับสนุน ARK ด้วยเช่นกัน เนื่องจากร้านนี้อยู่ห่างจากสถานีทามาสึกูริเพียง 2 นาทีและเดินไปทางใต้ของปราสาทโอซาก้าเพียง 15 นาที ทำไมคุณถึงไม่ลองมาแวะชมที่นี่และหาเพื่อนใหม่ดูหล่ะ